ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พิธีศีลมหาสนิท—ข้อเท็จจริงเบื้องหลังพิธีนี้

พิธีศีลมหาสนิท—ข้อเท็จจริงเบื้องหลังพิธีนี้

พิธี​ศีล​มหา​สนิท—ข้อ​เท็จ​จริง​เบื้อง​หลัง​พิธี​นี้

มี​คน​ทั่ว​โลก​เข้า​ร่วม​พิธี​นี้​เป็น​ประจำ ไม่​ว่า​จะ​ปี​ละ​หลาย​ครั้ง, สัปดาห์​ละ​ครั้ง, หรือ​กระทั่ง​ทุก​วัน​ด้วย​ซ้ำ. แต่​พิธี​นี้​ก็​ยัง​ถูก​เรียก​ว่า​ความ​ลึกลับ​แห่ง​ศรัทธา และ​หลาย​คน​ที่​เข้า​ร่วม​พิธี​นี้​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​เข้าใจ​พิธี​ดัง​กล่าว. พิธี​นี้​ถือ​เป็น​พิธี​ศักดิ์สิทธิ์​และ​ถือ​เป็น​การ​อัศจรรย์​ด้วย​ซ้ำ.

พิธี​นี้​คือ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​มิสซา​ของ​คาทอลิก​ขณะ​ที่​บาทหลวง​กล่าว​ขอ​พร​สำหรับ​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น และ​ผู้​มา​ประชุม​จะ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​รับ​ศีล​มหา​สนิท​ศักดิ์สิทธิ์​เพื่อ​รับ​พระ​คริสต์​เข้า​สนิท​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน. * โปป​เบเนดิกต์​ที่ 16 กล่าว​ไว้​ว่า สำหรับ​ชาว​คาทอลิก พิธี​นี้​เป็น “จุด​สูง​สุด​และ​ศูนย์​รวม​ของ​ความ​เชื่อ.” ไม่​นาน​มา​นี้ คริสตจักร​คาทอลิก​ได้​ฉลอง “ปี​แห่ง​พิธี​ศีล​มหา​สนิท” ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ความ​พยายาม​ที่​จะ “ฟื้นฟู​และ​เพิ่ม​พูน​ศรัทธา​ที่​มี​ต่อ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท.”

แม้​แต่​ชาว​คาทอลิก​ที่​ไม่​แน่​ใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​ก็​ยัง​ศรัทธา​ใน​พิธี​นี้​อย่าง​แรง​กล้า. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​วารสาร​ไทม์ เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ใน​บทความ​บอก​ว่า​เป็น​คาทอลิก​หัว​ก้าว​หน้า​และ​อายุ​น้อย​ได้​เขียน​ว่า “ไม่​ว่า​เรา​จะ​มี​ความ​เห็น​ขัด​แย้ง​อย่าง​ไร​กับ​คำ​สอน​ของ​ศาสนจักร​คาทอลิก เรา​ก็​ยัง​ยึด​มั่น​กับ​สิ่ง​ที่​ผูก​พัน​เรา​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​ใน​ความ​เชื่อ​ของ​คาทอลิก คือ​ความ​เลื่อมใส​ใน​การ​ฉลอง​พิธี​ศีล​มหา​สนิท.”

แต่​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​คือ​อะไร? เหล่า​ผู้​ติด​ตาม​พระ​คริสต์​จะ​ต้อง​ทำ​พิธี​นี้​ไหม? ก่อน​อื่น​ให้​เรา​ดู​ว่า​ธรรมเนียม​การ​ฉลอง​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​มี​ความ​เป็น​มา​อย่าง​ไร. จาก​นั้น เรา​จึง​จะ​พิจารณา​คำ​ถาม​ที่​สำคัญ​กว่า​ได้ นั่น​คือ: พิธี​ศีล​มหา​สนิท​เป็น​พิธี​ที่​สืบ​ทอด​มา​จาก​การ​ฉลอง​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​เมื่อ​เกือบ 2,000 ปี​ก่อน​จริง ๆ ไหม?

พิธี​ศีล​มหา​สนิท​และ​คริสต์​ศาสนจักร

ไม่​ใช่​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​เข้าใจ​ว่า​เพราะ​เหตุ​ใด​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​จึง​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​การ​อัศจรรย์. ช่วง​เวลา​สำคัญ​ของ​พิธี​นี้​คือ​ระหว่าง​การ​สวด​ขอบพระคุณ. คู่มือ​ถาม​ตอบ​ของ​คริสตจักร​คาทอลิก (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า ขณะ​ที่​มี​การ​สวด “พลัง​แห่ง​คำ​ตรัส​และ​การ​กระทำ​ของ​พระ​คริสต์ และ​พลัง​แห่ง​พระ​จิต” จะ​ทำ​ให้​พระ​กาย​และ​พระ​โลหิต​ของ​พระ​เยซู “มา​อยู่​ใน​พิธี.” หลัง​จาก​บาทหลวง​รับประทาน​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น​แล้ว​ก็​เชิญ​สัตบุรุษ​ให้​รับ​ศีล​มหา​สนิท​ด้วย ซึ่ง​มัก​จะ​เป็น​การ​รับประทาน​เพียง​ขนมปัง​หรือ​แผ่น​ปัง.

คริสตจักร​คาทอลิก​สอน​ว่า​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น​จะ​เปลี่ยน​เป็น​พระ​กาย​และ​พระ​โลหิต​จริง ๆ ของ​พระ​คริสต์​โดย​อัศจรรย์ ซึ่ง​เป็น​หลัก​คำ​สอน​ที่​เรียก​ว่า​การ​แปร​สาร. คำ​สอน​นี้​ค่อย ๆ เกิด​ขึ้น​และ​คำ​ที่​ใช้​เรียก​คำ​สอน​นี้​มี​การ​นิยาม​และ​ใช้​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ครั้ง​แรก​ใน​ศตวรรษ​ที่ 13. ใน​ช่วง​การ​ปฏิรูป​ศาสนา​โปรเตสแตนต์ มี​การ​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​เกี่ยว​กับ​บาง​แง่​มุม​ของ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​แบบ​คาทอลิก. ลูเทอร์​ปฏิเสธ​หลัก​คำ​สอน​เรื่อง​การ​แปร​สาร​โดย​สนับสนุน​ความ​เชื่อ​เรื่อง​การ​อยู่​ร่วม​ของ​สาร. คำ​สอน​ทั้ง​สอง​แตกต่าง​กัน​เพียง​เล็ก​น้อย. ลูเทอร์​สอน​ว่า ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น​อยู่​ใน​สภาพ​เดิม​และ​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​เป็น​พระ​มังสะ​และ​พระ​โลหิต​ของ​พระ​เยซู ไม่​ได้​แปร​ไป​เป็น​พระ​มังสะ​และ​พระ​โลหิต​ของ​พระ​เยซู.

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป นิกาย​ต่าง ๆ ของ​คริสต์​ศาสนจักร​ก็​เริ่ม​สอน​แตกต่าง​กัน​มาก​ขึ้น​ใน​เรื่อง​ความ​หมาย​ของ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท รวม​ถึง​วิธี​การ​และ​ความ​ถี่​ใน​การ​ฉลอง​พิธี​นี้. อย่าง​ไร​ก็​ดี พิธี​นี้​ใน​รูป​แบบ​ใด​รูป​แบบ​หนึ่ง​ยัง​คง​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​คริสต์​ศาสนจักร. แต่​การ​ฉลอง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ครั้ง​แรก​มี​ลักษณะ​อย่าง​ไร?

การ​ตั้ง “อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า”

พระ​เยซู​เอง​ทรง​เป็น​ผู้​ตั้ง​การ​ฉลอง “อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” หรือ​การ​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์. (1 โครินท์ 11:20, 24) แต่​การ​ฉลอง​ที่​พระองค์​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​เป็น​พิธีกรรม​ลึกลับ​ที่​ให้​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​รับประทาน​พระ​กาย​และ​ดื่ม​พระ​โลหิต​ของ​พระองค์​จริง ๆ ไหม?

พระ​เยซู​เพิ่ง​ทรง​ฉลอง​ปัศคา​ของ​ชาว​ยิว​เสร็จ​และ​ทรง​ให้​ยูดา​อิสการิโอต อัครสาวก​ซึ่ง​กำลัง​จะ​ทรยศ​พระองค์​ออก​ไป. มัดธาย อัครสาวก​คน​หนึ่ง​ใน 11 คน​ที่​ร่วม​ใน​เหตุ​การณ์​รายงาน​ว่า “ขณะ​ที่​รับประทาน​กัน​อยู่​นั้น พระ​เยซู​ทรง​หยิบ​ขนมปัง​มา​แผ่น​หนึ่ง​แล้ว​ทูล​ขอ​พร​และ​ทรง​หัก​ส่ง​ให้​เหล่า​สาวก​แล้ว​ตรัส​ว่า ‘รับ​ไป​กิน​เถิด. นี่​หมาย​ถึง​กาย​ของ​เรา.’ แล้ว​พระองค์​ทรง​หยิบ​ถ้วย​ขึ้น​มา​ทูล​ขอบพระคุณ​และ​ส่ง​ให้​พวก​เขา​แล้ว​ตรัส​ว่า ‘เจ้า​ทุก​คน​จง​ดื่ม​จาก​ถ้วย​นี้​เถิด เพราะ​นี่​หมาย​ถึง​โลหิต​ของ​เรา​ซึ่ง​เป็น “โลหิต​แห่ง​สัญญา” ซึ่ง​จะ​ต้อง​ไหล​ออก​เพื่อ​ปลด​เปลื้อง​บาป​ของ​คน​เป็น​อัน​มาก.’ ”—มัดธาย 26:26-28.

สำหรับ​พระ​เยซู​และ​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ทุก​คน การ​ขอ​พร​สำหรับ​อาหาร​เป็น​เรื่อง​ที่​ทำ​กัน​เป็น​ประจำ​อยู่​แล้ว. (พระ​บัญญัติ 8:10; มัดธาย 6:11; 14:19; 15:36; มาระโก 6:41; 8:6; โยฮัน 6:11, 23; กิจการ 27:35; โรม 14:6) มี​เหตุ​ผล​ใด​ไหม​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​โดย​การ​อธิษฐาน​ขอบพระคุณ พระ​เยซู​ทรง​กำลัง​ทำ​การ​อัศจรรย์​ด้วย ซึ่ง​ทำ​ให้​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ได้​รับประทาน​พระ​มังสะ​และ​พระ​โลหิต​จริง ๆ ของ​พระองค์?

“นี่​หมาย​ถึง” หรือ “นี่​เป็น”?

จริง​อยู่ คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ฉบับ​แปล​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ดัง​นี้: “เอา​ไป​รับประทาน​เถิด นี่​เป็น​กาย​ของ​เรา” และ “พวก​ท่าน​ทุก​คน​ดื่ม​เถิด นี่​เป็น โลหิต​ของ​เรา.” (มัดธาย 26:26-28, ฉบับ​ประชา​นิยม) เป็น​ความ​จริง​ด้วย​ที่​ว่า คำ​ภาษา​กรีก​เอสทิน ซึ่ง​เป็น​รูป​หนึ่ง​ของ​คำ​กริยา “เป็น, อยู่, คือ” ใน​ภาษา​กรีก มี​ความ​หมาย​พื้น​ฐาน​ว่า “เป็น.” แต่​คำ​กริยา​เดียว​กัน​นี้​อาจ​มี​ความ​หมาย​ว่า “หมาย​ถึง” ได้​ด้วย. น่า​สนใจ​ที่​บ่อย​ครั้ง​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ฉบับ​แปล​คำ​กริยา​นี้​ว่า “แปล​ว่า” หรือ “หมาย​ถึง.” * บริบท​จะ​เป็น​ตัว​ตัดสิน​ว่า​คำ​แปล​ใด​ตรง​ความ​หมาย​ที่​สุด. ตัว​อย่าง​เช่น ที่​มัดธาย 12:7 คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ฉบับ​แปล​คำ เอสทิน ว่า “หมาย​ความ​ว่า” เช่น “ตาม​ข้อ​พระ​ธรรม​ที่​ว่า เรา​ต้องการ​ความ​เมตตา​กรุณา ไม่​ใช่​ต้องการ​สัตว์​เป็น​เครื่อง​บูชา ถ้า​ท่าน​ทราบ​จริง ๆ ว่า​ข้อ​นั้น​หมาย​ความ​ว่า [ภาษา​กรีก เอสทิน] กระไร​แล้ว ท่าน​ย่อม​ไม่​ประณาม​บุคคล​ผู้​ไร้​ความ​ผิด​เลย.”—ฉบับ​ประชา​นิยม.

ใน​เรื่อง​นี้ ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ​หลาย​คน​เห็น​พ้อง​กัน​ว่า​คำ​ว่า “เป็น” ไม่​ได้​ถ่ายทอด​ความ​คิด​ของ​พระ​เยซู​ใน​ข้อ​นี้​อย่าง​ถูก​ต้อง. ตัว​อย่าง​เช่น ชาก ดูปองต์ ได้​พิจารณา​วัฒนธรรม​และ​สังคม​ที่​พระ​เยซู​ทรง​อาศัย​อยู่​แล้ว​จึง​สรุป​ว่า คำ​แปล​ที่ “เป็น​ธรรมชาติ​มาก​ที่​สุด” ของ​ข้อ​คัมภีร์​นี้​น่า​จะ​เป็น: “นี่​หมาย​ถึง​กาย​ของ​เรา” หรือ “นี่​เป็น​เครื่องหมาย​แทน​กาย​ของ​เรา.”

ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร พระ​เยซู​ไม่​มี​ทาง​ที่​จะ​หมาย​ความ​ว่า​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ต้อง​รับประทาน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​พระองค์​จริง ๆ. เพราะ​เหตุ​ใด? หลัง​จาก​น้ำ​ท่วม​โลก​ใน​สมัย​โนฮา เมื่อ​พระเจ้า​ทรง​อนุญาต​ให้​มนุษย์​กิน​เนื้อ​สัตว์​ได้ พระองค์​ตรัส​ห้าม​โดย​ตรง​ว่า​ไม่​ให้​มนุษย์​รับประทาน​เลือด. (เยเนซิศ 9:3, 4) มี​การ​กล่าว​ย้ำ​คำ​สั่ง​ห้าม​นี้​อีก​ครั้ง​ใน​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ ซึ่ง​พระ​เยซู​เอง​ก็​ทรง​ปฏิบัติ​ตาม​อย่าง​ครบ​ถ้วน. (พระ​บัญญัติ 12:23; 1 เปโตร 2:22) และ​พวก​อัครสาวก​ก็​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ให้​แถลง​คำ​สั่ง​ห้าม​รับประทาน​เลือด​นี้​อีก​ครั้ง​หนึ่ง ทำ​ให้​บัญญัติ​ข้อ​นี้​มี​ผล​บังคับ​กับ​คริสเตียน​ทุก​คน. (กิจการ 15:20, 29) พระ​เยซู​จะ​ทรง​ตั้ง​การ​ฉลอง​ที่​ทำ​ให้​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ละเมิด​กฎหมาย​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​ฤทธิ์​ใหญ่​ยิ่ง​ไหม? เป็น​ไป​ไม่​ได้​เลย!

ดัง​นั้น เห็น​ชัด​ว่า พระ​เยซู​ทรง​ใช้​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น​เป็น​สัญลักษณ์. ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อ​หมาย​ถึง หรือ​เป็น​เครื่องหมาย​แทน​พระ​กาย​ที่​ปราศจาก​บาป​ของ​พระองค์​ซึ่ง​จะ​ถูก​ถวาย​เป็น​ค่า​ไถ่. เหล้า​องุ่น​แดง​หมาย​ถึง​พระ​โลหิต​ของ​พระองค์​ซึ่ง​จะ​ต้อง​ไหล​ออก “เพื่อ​ปลด​เปลื้อง​บาป​ของ​คน​เป็น​อัน​มาก.”—มัดธาย 26:28.

วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า

พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ใน​ตอน​ท้าย​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ครั้ง​แรก​ว่า “จง​ทำ​อย่าง​นี้​เรื่อย​ไป​เพื่อ​ระลึก​ถึง​เรา.” (ลูกา 22:19) การ​ฉลอง​นี้​ช่วย​เรา​อย่าง​แท้​จริง​ให้​ระลึก​ถึง​พระ​เยซู​และ​สิ่ง​ต่าง ๆ อัน​ยอด​เยี่ยม​ซึ่ง​สำเร็จ​เป็น​จริง​ได้​ด้วย​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์. การ​ฉลอง​นี้​เตือน​ใจ​เรา​ให้​ระลึก​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เชิดชู​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระ​ยะโฮวา พระ​บิดา​ของ​พระองค์. การ​ฉลอง​นี้​ยัง​เตือน​เรา​ด้วย​ว่า​โดย​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​ใน​สภาพ​มนุษย์​ที่​สมบูรณ์ ปราศจาก​บาป พระองค์​ได้​ทรง​สละ “ชีวิต​เป็น​ค่า​ไถ่​เพื่อ​คน​เป็น​อัน​มาก.” ค่า​ไถ่​นี้​ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​ที่​ใคร​ก็​ตาม​ซึ่ง​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​เครื่อง​บูชา​ของ​พระองค์​จะ​ได้​รับ​การ​ปลด​เปลื้อง​จาก​บาป​และ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์.—มัดธาย 20:28.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​คือ​มื้อ​อาหาร​สมาน​ไมตรี. ผู้​ที่​ร่วม​ใน​มื้อ​อาหาร​นี้​คือ (1) พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ผู้​ทรง​จัด​เตรียม​ค่า​ไถ่ (2) พระ​เยซู​คริสต์ “พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า” ผู้​ทรง​เป็น​ค่า​ไถ่ และ (3) พี่​น้อง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พระ​เยซู. โดย​การ​ร่วม​รับประทาน​ขนมปัง​และ​เหล้า​องุ่น คน​กลุ่ม​ที่​สาม​นี้​ได้​แสดง​ว่า​พวก​เขา​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กับ​พระ​คริสต์​อย่าง​แน่นแฟ้น. (โยฮัน 1:29; 1 โครินท์ 10:16, 17) นอก​จาก​นี้​พวก​เขา​ยัง​แสดง​ด้วย​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ใน “สัญญา​ใหม่” ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​โดย​พระ​วิญญาณ. คน​เหล่า​นี้​คือ​ผู้​ที่​จะ​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​และ​ปุโรหิต​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​ใน​สวรรค์.—ลูกา 22:20; โยฮัน 14:2, 3; วิวรณ์ 5:9, 10.

ควร​จัด​การ​ประชุม​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​เมื่อ​ไร? เรา​เห็น​คำ​ตอบ​ชัด​ขึ้น​เมื่อ​คิด​ถึง​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เลือก​ที่​จะ​ตั้ง​การ​ฉลอง​นี้​ใน​วัน​หนึ่ง​โดย​เฉพาะ คือ​ใน​วัน​ปัศคา. เป็น​เวลา​นาน​กว่า 1,500 ปี​ที่​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​เคย​ฉลอง​ปัศคา​กัน​ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​ไนซาน​ของ​ทุก​ปี​ตาม​ปฏิทิน​ของ​พวก​เขา​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​ช่วย​ให้​รอด​ครั้ง​สำคัญ​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ​เพื่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์. เห็น​ได้​ชัด​ว่า พระ​เยซู​ทรง​กำลัง​ชี้​แนะ​ให้​ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระองค์​ใช้​วัน​เดียว​กัน​นี้​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​ช่วย​ให้​รอด​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​มาก​นัก​ซึ่ง​พระเจ้า​จะ​ทรง​ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​โดย​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์. ด้วย​เหตุ​นี้ สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู​จึง​เข้า​ร่วม​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทุก​ปี​เมื่อ​ถึง​วัน​ซึ่ง​ตรง​กับ​วัน​ที่ 14 เดือน​ไนซาน​ตาม​ปฏิทิน​ฮีบรู.

พวก​เขา​ทำ​เช่น​นั้น​เพราะ​ชื่น​ชอบ​ใน​เรื่อง​พิธีกรรม​อย่าง​นั้น​ไหม? กล่าว​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา ความ​ชื่น​ชอบ​เช่น​นั้น​คือ​เหตุ​จูง​ใจ​ให้​ผู้​คน​มาก​มาย​เข้า​ร่วม​พิธี​ศีล​มหา​สนิท. ผู้​เขียน​บทความ​ใน​วารสาร​ไทม์ ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ก่อน​หน้า​นี้​บอก​ว่า “มี​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​จิตใจ​สงบ​อย่าง​ล้ำ​ลึก​เมื่อ​ได้​เข้า​ร่วม​พิธี​เก่า​แก่​ซึ่ง​มี​ผู้​ถือ​ปฏิบัติ​กัน​มาก​มาย.” เช่น​เดียว​กับ​ชาว​คาทอลิก​จำนวน​มาก​ใน​ทุก​วัน​นี้ ผู้​เขียน​คน​นี้​อยาก​ให้​มี​การ​ประกอบ​พิธี​ศีล​มหา​สนิท​ใน​ภาษา​ละติน​เหมือน​ใน​อดีต​มาก​กว่า. ทำไม​น่ะ​หรือ? เธอ​เขียน​ว่า “ฉัน​อยาก​ได้​ยิน​คำ​สวด​มิสซา​ใน​ภาษา​ที่​ฉัน​ไม่​เข้าใจ เพราะ​บ่อย​ครั้ง​เหลือ​เกิน​ที่​ฉัน​ไม่​ชอบ​สิ่ง​ที่​ได้​ยิน​ใน​ภาษา​อังกฤษ.”

พยาน​พระ​ยะโฮวา รวม​ทั้ง​ผู้​สนใจ​หลาย​ล้าน​คน​มี​ความ​ยินดี​ที่​ได้​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​ภาษา​ของ​ตน​เอง ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​อยู่​ที่​ไหน. พวก​เขา​ดีใจ​ที่​ได้​รับ​ความ​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ความ​หมาย​และ​คุณค่า​ของ​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​คริสต์. ความ​จริง​เหล่า​นี้​ควร​ค่า​แก่​การ​ใคร่ครวญ​และ​พิจารณา​กัน​ตลอด​ทั้ง​ปี. พยาน​ฯ​พบ​ว่า​การ​ประชุม​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​ช่วย​ให้​จด​จำ​ความ​รัก​อัน​ลึกซึ้ง​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​พระ​เยซู​คริสต์​พระ​บุตร​ของ​พระองค์. การ​ประชุม​นี้​ช่วย​พวก​เขา​ให้ “ประกาศ​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จน​กว่า​พระองค์​จะ​เสด็จ​มา.”—1 โครินท์ 11:26.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 พิธี​นี้​เรียก​กัน​ด้วย​ว่า​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า, พิธี​บิปัง, พิธี​มหา​สนิท​ศักดิ์สิทธิ์, พิธี​ขอบพระคุณ, และ​พิธี​บูชา​มิสซา.

^ วรรค 15 โปรด​ดู​มัดธาย 27:46; ลูกา 8:11 ใน​ฉบับ​แปล 2002.

[คำ​โปรย​หน้า 27]

การ​ฉลอง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ครั้ง​แรก​มี​ลักษณะ​เช่น​ไร?

[ภาพ​หน้า 28]

พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​การ​ประชุม​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์

[ภาพ​หน้า 29]

การ​ประชุม​เพื่อ​ระลึก​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์