เขียนโดยมัทธิว 20:1-34

20  “รัฐบาล*สวรรค์​เปรียบ​เหมือน​เจ้า​ของ​สวน​คน​หนึ่ง​ที่​ออก​ไป​แต่​เช้า​ตรู่​เพื่อ​จ้าง​คน​มา​ทำ​งาน​ใน​สวน​องุ่น​ของ​เขา+  หลัง​จาก​เขา​ตก​ลง​กับ​คน​งาน​ว่า​จะ​ให้​ค่า​แรง​วัน​ละ 1 เดนาริอัน​แล้ว ก็​ส่ง​คน​งาน​เข้า​ไป​ทำ​งาน​ใน​สวน​องุ่น  เจ้า​ของ​สวน​ออก​ไป​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ตอน​ราว​ ๆ 9 โมง​เช้า และ​เห็น​คน​ว่าง​งาน​ยืน​อยู่​ใน​ตลาด  เขา​ก็​พูด​กับ​คน​พวก​นั้น​ว่า ‘ไป​ทำ​งาน​ใน​สวน​องุ่น​ของ​ผม​สิ ผม​จะ​ให้​ค่า​แรง​ที่​เหมาะ​สม’  พวก​เขา​ก็​ตก​ลง​และ​ไป​ทำ​งาน​ใน​สวน เจ้า​ของ​สวน​ออก​ไป​หา​คน​งาน​มา​เพิ่ม​อีก​ตอน​ราว​ ๆ ​เที่ยง​วัน และ​อีก​ครั้ง​ตอน​บ่าย 3 โมง  ครั้ง​สุด​ท้าย เขา​ออก​ไป​ตอน​ประมาณ 5 โมง​เย็น​และ​ยัง​เห็น​ว่า​มี​คน​ยืน​ว่าง​งาน​อยู่ เขา​เลย​พูด​กับ​คน​พวก​นั้น​ว่า ‘ทำไม​ถึง​ยืน​อยู่​ที่​นี่​ทั้ง​วัน​ล่ะ?’  พวก​เขา​ตอบ​ว่า ‘ไม่​มี​ใคร​จ้าง​พวก​เรา​เลย’ เจ้า​ของ​สวน​จึง​พูด​ว่า ‘ไป​ทำ​งาน​ใน​สวน​องุ่น​ของ​ผม​สิ’  “พอ​ตก​เย็น เจ้า​ของ​สวน​องุ่น​ก็​พูด​กับ​หัวหน้า​คน​งาน​ว่า ‘ไป​เรียก​คน​งาน​มา แล้ว​จ่าย​ค่า​แรง​ให้​พวก​เขา+ เริ่ม​จาก​พวก​ที่​มา​หลัง​สุด​ไป​หา​พวก​แรก’  เมื่อ​คน​ที่​เริ่ม​งาน​ตอน 5 โมง​เย็น​เข้า​มา พวก​เขา​ได้​รับ​คน​ละ 1 เดนาริอัน 10  พอ​เห็น​อย่าง​นั้น คน​งาน​ที่​มา​เป็น​กลุ่ม​แรก​ก็​คิด​ว่า​พวก​เขา​คง​จะ​ได้​ค่า​แรง​มาก​กว่า แต่​กลับ​ได้​รับ​คน​ละ 1 เดนาริอัน​เหมือน​กัน 11  ตอน​ที่​รับ​ค่า​จ้าง พวก​เขา​จึง​บ่น​ต่อ​ว่า​เจ้า​ของ​สวน​ว่า 12  ‘พวก​นั้น​ทำ​งาน​แค่​ชั่วโมง​เดียว ทำไม​จ่าย​ค่า​แรง​ให้​พวก​เขา​เท่า​กับ​พวก​เรา​ล่ะ? เรา​ทำ​งาน​หนัก​ตาก​แดด​ทั้ง​วัน​เลย​นะ’ 13  แต่​เจ้า​ของ​สวน​บอก​คน​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​นั้น​ว่า ‘ผม​ไม่​ได้​โกง​คุณ​นะ เรา​ตก​ลง​กัน​ว่า 1 เดนาริอัน จริง​ไหม?+ 14  รับ​ค่า​แรง​ของ​คุณ​ไป​เถอะ ผม​พอ​ใจ​จะ​จ่าย​ให้​คน​ที่​มา​หลัง​สุด​เท่า​กับ​ที่​จ่าย​ให้​คุณ 15  ผม​มี​สิทธิ์​จะ​ใช้​เงิน​ของ​ผม​ยัง​ไง​ก็​ได้ คุณ​อิจฉา​ตา​ร้อน​เพราะ​เห็น​ผม​ใจ​ดี​หรือ​ไง?’+ 16  เพราะ​อย่าง​นี้​แหละ คน​สุด​ท้าย​จะ​เป็น​คน​แรก และ​คน​แรก​จะ​เป็น​คน​สุด​ท้าย”+ 17  ระหว่าง​ทาง​ที่​กำลัง​ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม พระ​เยซู​แยก​สาวก 12 คน​ออก​มา​และ​บอก​พวก​เขา​ว่า+ 18  “ตอน​นี้ พวก​เรา​กำลัง​ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม และ ‘ลูก​มนุษย์’ จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​กับ​พวก​ครู​สอน​ศาสนา พวก​เขา​จะ​ตัดสิน​ลง​โทษ​ท่าน​ถึง​ตาย+ 19  และ​จะ​ส่ง​ตัว​ท่าน​ให้​คน​ต่าง​ชาติ พวก​นั้น​จะ​เยาะเย้ย เฆี่ยน และ​ประหาร​ท่าน​บน​เสา+ แล้ว​ท่าน​จะ​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใน​วัน​ที่​สาม”+ 20  แล้ว​ภรรยา​ของ​เศเบดี​ก็​พา​ลูก​ชาย+มา​หา​พระ​เยซู เธอ​หมอบ​ลง​แสดง​ความ​เคารพ​และ​ขอ​ให้​ท่าน​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง+ 21  พระ​เยซู​ถาม​ว่า “อยาก​ให้​ผม​ทำ​อะไร​หรือ?” เธอ​ตอบ​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ปกครอง​ใน​รัฐบาล​ของ​ท่าน ขอ​ให้​ลูก​ชาย​สอง​คน​นี้​ของ​ดิฉัน​ได้​นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​คน​หนึ่ง ข้าง​ซ้าย​คน​หนึ่ง”+ 22  พระ​เยซู​พูด​กับ​สอง​คน​นั้น​ว่า “พวก​คุณ​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​กำลัง​ขอ​อะไร​อยู่ คุณ​จะ​ดื่ม​จาก​ถ้วย​ที่​ผม​จะ​ดื่ม​ได้​หรือ?”+ พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ได้​ครับ” 23  พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “คุณ​จะ​ดื่ม​จาก​ถ้วย​เดียว​กับ​ผม​ก็​จริง+ แต่​ใคร​จะ​ได้​นั่ง​ข้าง​ขวา​หรือ​ข้าง​ซ้าย​ของ​ผม​นั้น ผม​ไม่​ใช่​ผู้​กำหนด พ่อ​ของ​ผม​ต่าง​หาก​เป็น​ผู้​กำหนด”+ 24  เมื่อ​อัครสาวก​อีก 10 คน​ได้​ยิน​ก็​ไม่​พอ​ใจ​พี่​น้อง​สอง​คน​นั้น​มาก+ 25  พระ​เยซู​จึง​เรียก​อัครสาวก​ทุก​คน​มา​หา​และ​พูด​ว่า “พวก​คุณ​รู้​ว่า​ผู้​มี​อำนาจ​ใน​โลก​นี้​ชอบ​ทำ​ตัว​เป็น​นาย​เหนือ​ประชาชน และ​พวก​คน​ใหญ่​คน​โต​ก็​ชอบ​ใช้​อำนาจ​ข่ม​คน​อื่น+ 26  แต่​พวก​คุณ​ต้อง​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น+ ใคร​อยาก​เป็น​ใหญ่​ก็​ต้อง​รับใช้​คน​อื่น+ 27  และ​ใคร​อยาก​เป็น​คน​สำคัญ​ที่​สุด​ก็​ต้อง​เป็น​ทาส​รับใช้+ 28  เหมือน​ที่ ‘ลูก​มนุษย์’ ไม่​ได้​มา​ให้​คน​อื่น​รับใช้ แต่​มา​รับใช้​คน​อื่น+ และ​สละ​ชีวิต​เป็น​ค่า​ไถ่​ให้​คน​มาก​มาย”+ 29  เมื่อ​พระ​เยซู​กับ​พวก​สาวก​ออก​จาก​เมือง​เยรีโค มี​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ตาม​ท่าน​ไป 30  มี​ผู้​ชาย​ตา​บอด 2 คน​นั่ง​อยู่​ริม​ทาง เมื่อ​พวก​เขา​ได้​ยิน​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​เดิน​ผ่าน​มา ก็​ร้อง​ตะโกน​ว่า “ท่าน​ผู้​เป็น​ลูก​หลาน​ดาวิด ขอ​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย”+ 31  คน​อื่น​บอก​พวก​เขา​ให้​เงียบ แต่​พวก​เขา​กลับ​ร้อง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​อีก​ว่า “ท่าน​ผู้​เป็น​ลูก​หลาน​ดาวิด ขอ​เมตตา​พวก​เรา​ด้วย” 32  พระ​เยซู​จึง​หยุด​เดิน แล้ว​เรียก​ผู้​ชาย​ตา​บอด​สอง​คน​นั้น​มา​ถาม​ว่า “มี​อะไร​ให้​ผม​ช่วย​ไหม?” 33  พวก​เขา​ตอบ​ว่า “นาย​ท่าน ช่วย​ทำ​ให้​พวก​เรา​มอง​เห็น​ด้วย​เถอะ” 34  พระ​เยซู​เกิด​ความ​สงสาร+จึง​แตะ​ที่​ตา​พวก​เขา+ ทันใด​นั้น พวก​เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้ แล้ว​ติด​ตาม​ท่าน​ไป

เชิงอรรถ

หรือ “ราชอาณาจักร”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

จ้าง​คน​มา​ทำ​งาน: คน​งาน​บาง​คน​จะ​ถูก​จ้าง​ตลอด​ช่วง​ฤดู​เกี่ยว แต่​บาง​คน​ก็​ถูก​จ้าง​เป็น​ราย​วัน​ตาม​ที่​จำเป็น

เดนาริอัน: เหรียญ​เงิน​ของ​โรมัน​ซึ่ง​หนัก​ประมาณ 3.85 กรัม และ​มี​รูป​ของ​ซีซาร์​อยู่​ด้าน​หนึ่ง อย่าง​ที่​เห็น​ใน​ข้อ​นี้​คน​งาน​ใน​ไร่​นา​สมัย​พระ​เยซู​จะ​ได้​รับ​ค่า​จ้าง 1 เดนาริอัน​สำหรับ​การ​ทำ​งาน 1 วัน​ที่​ยาว 12 ชั่วโมง—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์ และภาค​ผนวก ข​14

ราว​ ๆ 9 โมง​เช้า: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 3” ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก ชาว​ยิว​นับ​ช่วง​กลางวัน​ยาว 12 ชั่วโมง​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​ตอน​ประมาณ 6 โมง​เช้า (ยน 11:9) ดัง​นั้น ชั่วโมง​ที่ 3 จึง​หมาย​ถึง​ประมาณ 9 โมง​เช้า ชั่วโมง​ที่ 6 หมาย​ถึง​ประมาณ​เที่ยง และ​ชั่วโมง​ที่ 9 หมาย​ถึง​ประมาณ​บ่าย 3 โมง เนื่อง​จาก​ผู้​คน​สมัย​นั้น​ไม่​มี​เครื่อง​บอก​เวลา​ที่​แน่นอน บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​เวลา​แบบ​ประมาณ—ยน 1:39; 4:6; 19:14; กจ 10:3, 9

ราว​ ๆเที่ยง​วัน: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 6”—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:3

บ่าย 3 โมง: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 9”—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:3

ราว​ ๆ 9 โมง​เช้า: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 3” ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก ชาว​ยิว​นับ​ช่วง​กลางวัน​ยาว 12 ชั่วโมง​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​ตอน​ประมาณ 6 โมง​เช้า (ยน 11:9) ดัง​นั้น ชั่วโมง​ที่ 3 จึง​หมาย​ถึง​ประมาณ 9 โมง​เช้า ชั่วโมง​ที่ 6 หมาย​ถึง​ประมาณ​เที่ยง และ​ชั่วโมง​ที่ 9 หมาย​ถึง​ประมาณ​บ่าย 3 โมง เนื่อง​จาก​ผู้​คน​สมัย​นั้น​ไม่​มี​เครื่อง​บอก​เวลา​ที่​แน่นอน บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​เวลา​แบบ​ประมาณ—ยน 1:39; 4:6; 19:14; กจ 10:3, 9

ราว​ ๆ 9 โมง​เช้า: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 3” ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก ชาว​ยิว​นับ​ช่วง​กลางวัน​ยาว 12 ชั่วโมง​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​ตอน​ประมาณ 6 โมง​เช้า (ยน 11:9) ดัง​นั้น ชั่วโมง​ที่ 3 จึง​หมาย​ถึง​ประมาณ 9 โมง​เช้า ชั่วโมง​ที่ 6 หมาย​ถึง​ประมาณ​เที่ยง และ​ชั่วโมง​ที่ 9 หมาย​ถึง​ประมาณ​บ่าย 3 โมง เนื่อง​จาก​ผู้​คน​สมัย​นั้น​ไม่​มี​เครื่อง​บอก​เวลา​ที่​แน่นอน บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​เวลา​แบบ​ประมาณ—ยน 1:39; 4:6; 19:14; กจ 10:3, 9

ราว​ ๆ 9 โมง​เช้า: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 3” ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก ชาว​ยิว​นับ​ช่วง​กลางวัน​ยาว 12 ชั่วโมง​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​ตอน​ประมาณ 6 โมง​เช้า (ยน 11:9) ดัง​นั้น ชั่วโมง​ที่ 3 จึง​หมาย​ถึง​ประมาณ 9 โมง​เช้า ชั่วโมง​ที่ 6 หมาย​ถึง​ประมาณ​เที่ยง และ​ชั่วโมง​ที่ 9 หมาย​ถึง​ประมาณ​บ่าย 3 โมง เนื่อง​จาก​ผู้​คน​สมัย​นั้น​ไม่​มี​เครื่อง​บอก​เวลา​ที่​แน่นอน บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​เวลา​แบบ​ประมาณ—ยน 1:39; 4:6; 19:14; กจ 10:3, 9

ประมาณ 5 โมง​เย็น: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชั่วโมง​ที่ 11”—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:3

อิจฉา: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ไม่​ดี, ชั่ว” ตา​ที่​สุขภาพ​ไม่​ดี​จะ​มอง​เห็น​ได้​ไม่​ชัดเจน คล้าย​กัน ตา​ที่​มอง​คน​อื่น​ด้วย​ความ​อิจฉา​จะ​ไม่​สามารถ​มอง​ไป​ที่​สิ่ง​สำคัญ​จริง​ ๆ ได้ (มธ 6:33) คน​ที่​มี​ตา​แบบ​นี้​จะ​โลภ ไม่​รู้​จัก​พอ ไม่​จดจ่อ เป็น​คน​เจ้า​เล่ห์ ไม่​สามารถ​ประเมิน​สิ่ง​ต่าง​ ๆ ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง และ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​เห็น​แก่​ตัว—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 6:22

คุณ​อิจฉา​ตา​ร้อน: คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “อิจฉา​ตา​ร้อน” ใน​ข้อ​นี้​มี​ความ​หมาย​ตรง​ตัว​ว่า “ไม่​ดี, ชั่ว” (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 6:23) คำ​ว่า “ตา” ใน​ข้อ​นี้​ใช้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย​หมาย​ถึง​เจตนา ความ​คิด หรือ​อารมณ์​ของ​คน​เรา—เทียบ​กับ​คำ​ว่า “อิจฉา​ตา​ร้อน” ที่ มก 7:22

ใจ​ดี: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ความ​ดี” ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​ความ​ดี​เกี่ยว​ข้อง​โดย​ตรง​กับ​การ​เป็น​คน​ใจ​ดี​หรือ​ใจ​กว้าง

ระหว่าง​ทาง​ที่​กำลัง​ขึ้น​ไป: ถึง​แม้​สำเนา​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ถ่ายทอด​แนว​คิด​ว่า “กำลัง​จะ​ขึ้น​ไป” แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​เก่าแก่​กว่า​มี​ข้อ​ความ​แบบ​ข้อ​นี้

ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม: เยรูซาเล็ม​อยู่​สูง​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 750 เมตร พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​ว่า​ผู้​นมัสการ​พระเจ้า “ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม” (มก 10:32) พระ​เยซู​และ​สาวก​กำลัง​เดิน​ขึ้น​จาก​หุบเขา​จอร์แดน (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 19:1) ซึ่ง​จุด​ต่ำ​สุด​ของ​หุบเขา​นี้​อยู่​ต่ำ​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 400 เมตร นี่​หมาย​ความ​ว่า​พวก​เขา​ต้อง​เดิน​ไต่​ระดับ​ความ​สูง​ประมาณ 1,000 เมตร​เพื่อ​ไป​ถึง​กรุง​เยรูซาเล็ม

ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​มา​ใกล้​เขต​แดน​แคว้น​ยูเดีย: น่า​จะ​หมาย​ถึง​พีเรีย​ซึ่ง​เป็น​เขต​แดน​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน โดย​เฉพาะ​ส่วน​ที่​ติด​กับ​แคว้น​ยูเดีย หลัง​จาก​พระ​เยซู​ออก​จาก​แคว้น​กาลิลี ท่าน​ก็​ไม่​ได้​กลับ​ไป​อีก​จน​ถึง​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​แล้ว—ดู​ภาค​ผนวก ก​7 แผนที่ 5

ลูก​มนุษย์: มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ประมาณ 80 ครั้ง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ทั้ง 4 เล่ม พระ​เยซู​ใช้​คำ​นี้​เมื่อ​พูด​ถึง​ตัว​ท่าน​เอง ดู​เหมือน​ท่าน​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​เน้น​ว่า​ท่าน​เป็น​มนุษย์​จริง​ ๆ ที่​เกิด​จาก​ผู้​หญิง​และ​มี​ค่า​เท่า​เทียม​กับ​อาดัม ท่าน​จึง​สามารถ​ไถ่​มนุษย์​จาก​บาป​และ​ความ​ตาย​ได้ (รม 5:12, 14, 15) คำ​นี้​ยัง​ทำ​ให้​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​เมสสิยาห์​หรือ​พระ​คริสต์​ด้วย—ดนล 7:13, 14; ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

ประหาร​ท่าน​บน​เสา: หรือ “ทำ​ให้​ติด​อยู่​กับ​เสา” นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​มาก​กว่า 40 ครั้ง​ที่​มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก สเทารอโอ ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก คำ​นาม​ของ​คำ​กริยา​กรีก​นี้​คือ สเทารอส ซึ่ง​แปล​ว่า “เสา​ทรมาน” (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 10:38; 16:24; 27:32 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เสา”; “เสา​ทรมาน”) มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​นี้​ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ที่ อสธ 7:9 ข้อ​นั้น​พูด​ถึง​การ​สั่ง​ให้​แขวน​ฮามาน​ไว้​บน​เสา​ที่​สูง​กว่า 20 เมตร และ​ใน​วรรณกรรม​กรีก​โบราณ คำ​กริยา​นี้​หมาย​ถึง “ล้อม​รั้ว​ด้วย​ไม้​แหลม, ทำ​รั้ว​ไม้​ป้องกัน”

เสา​ทรมาน: หรือ “เสา​ประหาร”—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เสา”; “เสา​ทรมาน”; และข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 10:38 และ 16:24 ซึ่ง​มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย

เสา​ทรมาน: หรือ “เสา​ประหาร” นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​มี​การ​ใช้​คำ​กรีก สเทารอส ใน​วรรณกรรม​กรีก​โบราณ​คำ​นี้​มัก​หมาย​ถึง​เสา​หรือ​หลัก​ที่​ตั้ง​ตรง เมื่อ​ใช้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย บาง​ครั้ง​จะ​หมาย​ถึง​ความ​ทุกข์ ความ​อับอาย การ​ทรมาน และ​แม้​แต่​ความ​ตาย​ที่​คน​เรา​ต้อง​เจอ​เพราะ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

เสา​ทรมาน: หรือ “เสา​ประหาร” คำ​กรีก สเทารอส ใน​วรรณกรรม​กรีก​โบราณ​มัก​หมาย​ถึง​เสา​หรือ​หลัก​ที่​ตั้ง​ตรง เมื่อ​ใช้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย บาง​ครั้ง​จะ​หมาย​ถึง​ความ​ทุกข์ ความ​อับอาย การ​ทรมาน และ​แม้​แต่​ความ​ตาย​ที่​คน​เรา​ต้อง​เจอ​เพราะ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

แสดง​ความ​เคารพ: หรือ “คำนับ, ให้​เกียรติ” พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​พูด​ถึง​บาง​คน​ที่​คำนับ​หรือ​ทำ​ความ​เคารพ​เมื่อ​พวก​เขา​เจอ​ผู้​พยากรณ์ กษัตริย์ หรือ​คน​อื่น​ ๆ ที่​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระเจ้า (1ซม 25:23, 24; 2ซม 14:4-7; 1พก 1:16; 2พก 4:36, 37) ดู​เหมือน​ว่า​ผู้​ชาย​โรค​เรื้อน​คน​นี้​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​พูด​กับ​ตัว​แทน​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​มี​อำนาจ​รักษา​โรค​ให้​กับ​ผู้​คน จึง​เป็น​เรื่อง​เหมาะ​สม​ที่​เขา​จะ​คำนับ​พระ​เยซู​เพื่อ​แสดง​ว่า​เขา​เคารพ​ผู้​ที่​พระ​ยะโฮวา​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​กษัตริย์—มธ 9:18; สำหรับ​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​คำ​กรีก​นี้ ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 2:2

หมอบ​ลง: หรือ “คำนับ, ทำ​ความ​เคารพ” เมื่อ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก พะรอสคูเนะโอ กับ​พระ​หรือ​เทพเจ้า ก็​จะ​แปล​คำ​นี้​ว่า “นมัสการ” แต่​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ การ​หมอบ​ลง​ของ​ทาส​เป็น​การ​แสดง​ความ​นับถือ​และ​การ​ยอม​รับ​อำนาจ​ของ​คน​ที่​มี​ตำแหน่ง​สูง​กว่า​เขา—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 2:2; 8:2

ภรรยา​ของ​เศเบดี: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “แม่​ของ​ลูก​ชาย​ของ​เศเบดี” คือ​แม่​ของ​อัครสาวก​ยากอบ​กับ​ยอห์น บันทึก​ของ​มาระโก​บอ​กว่า​ยากอบ​กับ​ยอห์น​เป็น​คน​มา​ขอ​พระ​เยซู​เอง (มก 10:35) ดู​เหมือน​ทั้ง​สอง​เป็น​คน​ต้น​คิด แต่​บอก​ให้​แม่​มา​ขอ​พระ​เยซู​แทน​พวก​เขา แม่​ของ​พวก​เขา​คือ​สะโลเม​ซึ่ง​อาจ​เป็น​น้า​ของ​พระ​เยซู—มธ 27:55, 56; มก 15:40, 41; ยน 19:25

หมอบ​ลง​แสดง​ความ​เคารพ: หรือ “คำนับ, คุกเข่า​ลง​ด้วย​ความ​นับถือ”—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:2; 18:26

นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​คน​หนึ่ง ข้าง​ซ้าย​คน​หนึ่ง: ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 10:37

นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​คน​หนึ่ง ข้าง​ซ้าย​คน​หนึ่ง: ใน​ข้อ​นี้​ทั้ง​ข้าง​ขวา​และ​ซ้าย​หมาย​ถึง​ตำแหน่ง​ที่​มี​เกียรติ​และ​อำนาจ แต่​ที่​ที่​มี​เกียรติ​ที่​สุด​จะ​อยู่​ข้าง​ขวา​เสมอ—สด 110:1; กจ 7:55, 56; รม 8:34; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 25:33

พวก​คุณ​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​กำลัง​ขอ​อะไร​อยู่: การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก​ใน​รูป​พหูพจน์​และ​จาก​ท้อง​เรื่อง​ทำ​ให้​รู้​ว่า พระ​เยซู​ไม่​ได้​พูด​กับ​คน​ที่​เป็น​แม่ แต่​กำลัง​พูด​กับ​ลูก​ชาย 2 คน​ของ​เธอ—มก 10:35-38

ดื่ม​จาก​ถ้วย: ใน​คัมภีร์​ไบเบิล คำ​ว่า “ถ้วย” มัก​ใช้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย​หมาย​ถึง​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า หรือ “ส่วน​แบ่ง​ที่​ให้” กับ​คน​หนึ่ง (สด 11:6; 16:5; 23:5) การ “ดื่ม​จาก​ถ้วย” ใน​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​การ​ยอม​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า สำหรับ​พระ​เยซู “ถ้วย” ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​ที่​ท่าน​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​ตาย​เพราะ​ถูก​กล่าวหา​ว่า​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า​เท่า​นั้น แต่​ยัง​รวม​ถึง​การ​ที่​ท่าน​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​มี​ชีวิต​อมตะ​ใน​สวรรค์​อีก​ด้วย

ทำ​ตัว​เป็น​นาย: หรือ “ครอบ​งำ” มี​การ​ใช้​คำ​กรีก​นี้​แค่ 4 ครั้ง​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก (มธ 20:25; มก 10:42; 1ปต 5:3; และ​ที่ กจ 19:16 ซึ่ง​แปล​คำ​นี้​ว่า “ทำ​ร้าย”) คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​ผู้​ฟัง​คิด​ถึง​การ​กดขี่​ของ​พวก​โรมัน​ที่​ชาว​ยิว​เกลียด​ชัง​และ​การ​ปกครอง​ที่​โหด​เหี้ยม​ของ​ราชวงศ์​เฮโรด (มธ 2:16; ยน 11:48) ดู​เหมือน​ว่า​เปโตร​เข้าใจ​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู เพราะ​หลัง​จาก​นั้น​เขา​กระตุ้น​ผู้​ดู​แล​คริสเตียน​ให้​นำ​หน้า​โดย​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี ไม่​ใช่​โดย​ทำ​ตัว​เป็น​นาย (1ปต 5:3) มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก​อีก​คำ​หนึ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ใน ลก 22:25 ตอน​ที่​พระ​เยซู​สอน​เรื่อง​คล้าย ๆ กัน​นี้ และ​ที่ 2คร 1:24 ก็​มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​นี้​ตอน​ที่​เปาโล​บอก​ว่า​คริสเตียน​ต้อง​ไม่​เป็น “นาย​ที่​คอย​ควบคุม” ความ​เชื่อ​ของ​เพื่อน​คริสเตียน

ทำ​ตัว​เป็น​นาย​เหนือ​ประชาชน: ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 10:42

รับใช้: หรือ “เป็น​คน​รับใช้” คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​ใช้​คำ​กรีก เดียคอนอส ที่​แปล​ว่า “คน​รับใช้” เพื่อ​หมาย​ถึง​คน​ที่​ทำ​งาน​รับใช้​คน​อื่น​อย่าง​ถ่อม​ตัว​และ​ไม่​ย่อท้อ มี​การ​ใช้​คำ​นี้​เมื่อ​พูด​ถึง​พระ​คริสต์ (รม 15:8) ผู้​รับใช้​ของ​พระ​คริสต์ (1​คร 3:5-7; คส 1:23) ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้ (ฟป 1:1; 1​ทธ 3:8) คน​รับใช้​ใน​บ้าน (ยน 2:5, 9) และ​เจ้าหน้าที่​รัฐบาล (รม 13:4)

ไม่​ได้​มา​ให้​คน​อื่น​รับใช้ แต่​มา​รับใช้​คน​อื่น: ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:26

ค่า​ไถ่: นัก​เขียน​หนังสือ​ทั่ว​ไป​ชาว​กรีก​ใช้​คำ​กรีก ลูตรอน (มา​จาก​คำ​กริยา ลูโอ ที่​แปล​ว่า “ปล่อย, ปลด​ปล่อย”) เมื่อ​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​จ่าย​เพื่อ​ปล่อย​ตัว​คน​ที่​ถูก​มัด​หรือ​เป็น​ทาส หรือ​จ่าย​เพื่อ​ไถ่​ตัว​เชลย​สงคราม พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ใช้​คำ​นี้ 2 ครั้ง​คือ​ใน​ข้อ​นี้​และ​ที่ มก 10:45 คำ​กรีก​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​คือ อานทิลูทรอน มี​อยู่​ที่ 1​ทธ 2:6 และ​มี​การ​แปล​ว่า “ค่า​ไถ่​ที่​มี​ค่า​เท่า​เทียม​กัน” และ​อีก 2 คำ​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​นี้​คือ ลูตรอโอไม แปล​ว่า “ช่วย . . . ให้​เลิก, ปลด​ปล่อย​ให้​เป็น​อิสระ” (ทต 2:14; 1ปต 1:18) และ อาพอลลูโทรซิส ซึ่ง​มี​การ​แปล​ว่า ‘จ่าย​ค่า​ไถ่​เพื่อ​ปลด​ปล่อย, ปลด​ปล่อย​ด้วย​ค่า​ไถ่, ไถ่​ให้​พ้น, ปล่อย​ตัว, ค่า​ไถ่​ที่​จ่าย​ให้, ใช้​ค่า​ไถ่​เพื่อ​ปลด​ปล่อย’ (อฟ 1:7; คส 1:14; ฮบ 9:15; 11:35; รม 3:24; 8:23)—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

รับใช้: หรือ “เป็น​คน​รับใช้” คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​ใช้​คำ​กรีก เดียคอนอส ที่​แปล​ว่า “คน​รับใช้” เพื่อ​หมาย​ถึง​คน​ที่​ทำ​งาน​รับใช้​คน​อื่น​อย่าง​ถ่อม​ตัว​และ​ไม่​ย่อท้อ มี​การ​ใช้​คำ​นี้​เมื่อ​พูด​ถึง​พระ​คริสต์ (รม 15:8) ผู้​รับใช้​ของ​พระ​คริสต์ (1​คร 3:5-7; คส 1:23) ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้ (ฟป 1:1; 1​ทธ 3:8) คน​รับใช้​ใน​บ้าน (ยน 2:5, 9) และ​เจ้าหน้าที่​รัฐบาล (รม 13:4)

เยรีโค: เมือง​แรก​ของ​ชาว​คานาอัน​ที่​ชาว​อิสราเอล​ยึด​ครอง​ได้ เมือง​นี้​อยู่​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน (กดว 22:1; ยชว 6:1, 24, 25) ใน​สมัย​พระ​เยซู มี​การ​สร้าง​เมือง​เยรีโค​ใหม่​ห่าง​จาก​เมือง​เก่า​ไป​ทาง​ใต้​ประมาณ 2 กม. นี่​อาจ​เป็น​เหตุ​ผล​ที่ ลก 18:35 พูด​ถึง​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน​นี้​ว่า “พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ใกล้​ถึง​เมือง​เยรีโค” อาจ​เป็น​ได้​ว่า​พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​ตอน​ที่​กำลัง​ออก​จาก​เมือง​เยรีโค​เก่า​ของ​ชาว​ยิว​ไป​ที่​เมือง​เยรีโค​ใหม่​ของ​โรมัน หรือ​อาจ​เป็น​การ​เดิน​ทาง​จาก​เมือง​ใหม่​ไป​เมือง​เก่า​ก็​ได้—ดู​ภาค​ผนวก ข​4 และ ข​10

ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด: คำ​นี้​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​รับ​มรดก​ตาม​สัญญา​เรื่อง​รัฐบาล​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​ดาวิด สัญญา​นี้​จะ​เป็น​จริง​โดย​ลูก​หลาน​คน​หนึ่ง​ของ​ดาวิด—2ซม 7:11-16; สด 89:3, 4

กษัตริย์​ชื่อ​ดาวิด: แม้​ใน​ราย​ชื่อ​บรรพบุรุษ​นี้​จะ​พูด​ถึง​กษัตริย์​หลาย​องค์ แต่​ดาวิด​เป็น​คน​เดียว​ที่​มัทธิว​ใส่​คำนำ​หน้า​ว่า “กษัตริย์” และ​มี​การ​เรียก​ราชวงศ์​ของ​อิสราเอล​ว่า “ราชวงศ์​ดาวิด” (1พก 12:19, 20) มัทธิว​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด” ในข้อ 1 เพื่อ​เน้น​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​หลัก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ระบุ​ว่า​พระ​เยซู​จะ​ได้​รับ​ตำแหน่ง​กษัตริย์​เป็น​มรดก​ตาม​สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​ดาวิด—2ซม 7:11-16

คำนับ: หรือ “ทำ​ความ​เคารพ” ดู​เหมือน​การ​ที่​ผู้​หญิง​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว​คน​นี้​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “ลูก​หลาน​ดาวิด” (มธ 15:22) แสดง​ว่า​เธอ​ยอม​รับ​ว่า​ท่าน​เป็น​เมสสิยาห์​ที่​สัญญา​ไว้ เธอ​คำนับ​ท่าน​ไม่​ใช่​ใน​ฐานะ​พระ​หรือ​เทพเจ้า แต่​ใน​ฐานะ​ตัว​แทน​ของ​พระเจ้า—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 2:2; 8:2; 14:33; 18:26

ผู้​ชาย​ตา​บอด 2 คน: มาระโก​กับ​ลูกา​พูด​ถึง​ผู้​ชาย​ตา​บอด​แค่​คน​เดียว ดู​เหมือน​ว่า​พวก​เขา​ตั้งใจ​พูด​ถึง​บาร์ทิเมอัส​ซึ่ง​มาระโก​ได้​บันทึก​ชื่อ​ของ​เขา​ไว้ (มก 10:46; ลก 18:35) ส่วน​มัทธิว​เน้น​จำนวน​คน​ตา​บอด​ว่า​มี​กี่​คน

ลูก​หลาน​ดาวิด: การ​ที่​ผู้​ชาย​ตา​บอด 2 คน​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “ลูก​หลาน​ดาวิด” แสดง​ว่า​พวก​เขา​ยอม​รับ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​ท่าน​เป็น​เมสสิยาห์—ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 1:1, 6; 15:25

รู้สึก​สงสาร: คำ​กริยา​กรีก สะพลางค์นิศอไม ที่​ใช้​ใน​สำนวน​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​ว่า “ลำไส้” (สะพลางค์นา) คำ​นี้​แสดง​ถึง​ความ​รู้สึก​ที่​อยู่​ใน​ส่วน​ลึก​ของ​ตัว​เรา ซึ่ง​เป็น​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ที่​ลึกซึ้ง นี่​เป็น​หนึ่ง​ใน​คำ​กรีก​ที่​แสดง​ถึง​ความ​รู้สึก​สงสาร​ที่​แรง​กล้า​ที่​สุด

วีดีโอและรูปภาพ

ตลาด
ตลาด

ตลาด​บาง​แห่ง​ตั้ง​อยู่​ริม​ถนน​เหมือน​ใน​รูป​นี้ พ่อค้า​แม่​ค้า​มัก​จะ​เอา​สินค้า​มา​วาง​ริม​ถนน​จน​กีด​ขวาง​ทาง​เดิน ชาว​บ้าน​จะ​มา​ซื้อ​ข้าว​ของ​เครื่อง​ใช้ ถ้วย​ชาม​ดิน​เผา และ​เครื่อง​แก้ว​ราคา​แพง รวม​ทั้ง​ของ​สด​ต่าง ๆ ด้วย เนื่อง​จาก​ใน​สมัย​นั้น​ไม่​มี​ตู้​เย็น ผู้​คน​จึง​ต้อง​ไป​ซื้อ​อาหาร​ที่​ตลาด​ทุก​วัน คน​ที่​มา​ซื้อ​ของ​ที่​ตลาด​จะ​ได้​ยิน​ข่าว​ต่าง ๆ จาก​พวก​พ่อค้า​หรือ​คน​ที่​มา​จาก​เมือง​อื่น เด็ก ๆ จะ​เล่น​กัน​ที่​นั่น คน​ที่​ตก​งาน​ก็​จะ​มา​รอ​คน​จ้าง พระ​เยซู​เคย​รักษา​คน​ป่วย​และ​เปาโล​ก็​เคย​ประกาศ​ที่​ตลาด (กจ 17:17) แต่​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​และ​ฟาริสี​ที่​เย่อหยิ่ง​ชอบ​เป็น​จุด​สนใจ​และ​ให้​คน​มา​ทักทาย​ใน​ที่​สาธารณะ​แบบ​นี้

แส้
แส้

แส้​แบบ​ที่​ทำ​ให้​เจ็บ​ปวด​มาก​ที่​สุด​เรียก​ว่า ฟลาเกลลุม แส้​นี้​ทำ​จาก​เชือก​หรือ​หนัง​ถัก​หลาย​เส้น​และ​มี​ด้าม​จับ มี​การ​เอา​เศษ​กระดูก​หรือ​เศษ​โลหะ​มัด​ติด​กับ​เส้น​หนัง​เพื่อ​ให้​แส้​หนัก​ขึ้น​และ​ทำ​ให้​คน​ที่​ถูก​เฆี่ยน​เจ็บ​ปวด​มาก​ขึ้น