ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

กิตติคุณทั้งสี่น่าเชื่อถือเพียงไร?

กิตติคุณทั้งสี่น่าเชื่อถือเพียงไร?

กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​น่า​เชื่อถือ​เพียง​ไร?

“ปัจจุบัน​ต้อง​มอง​ว่า​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​เป็น​ผล​งาน​การ​แต่ง​นิยาย​ของ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก.”—เบอร์​ตัน แอล. แมค, ศาสตราจารย์​เกษียณ​อายุ​ด้าน​การ​ศึกษา​พันธสัญญา​ใหม่.

ศาสตราจารย์​ผู้​นี้​ไม่​ใช่​คน​เดียว​ที่​มี​ทัศนะ​เช่น​นั้น. ผู้​คง​แก่​เรียน​บาง​คน​เคย​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​ใน​เรื่อง​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​หนังสือ​กิตติคุณ​ที่​เขียน​โดย​มัดธาย, มาระโก, ลูกา, และ​โยฮัน ซึ่ง​เป็น​บันทึก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​และ​งาน​สั่ง​สอน​ของ​พระ​เยซู. ทำไม​บาง​คน​จึง​มอง​ว่า​กิตติคุณ​เป็น​เรื่อง​ที่​แต่ง​ขึ้น? ทัศนะ​ของ​คน​เหล่า​นี้​ควร​เป็น​เหตุ​ทำ​ให้​คุณ​สงสัย​ความ​ถูก​ต้อง​เป็น​จริง​ของ​กิตติคุณ​ไหม? ให้​เรา​มา​ตรวจ​สอบ​หลักฐาน​บาง​อย่าง​ด้วย​กัน.

การ​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​ใน​เรื่อง​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​กิตติคุณ

ใน​ช่วง 17 ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช ไม่​เคย​มี​ใคร​สงสัย​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​อย่าง​จริงจัง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​เวลา​ต่อ​มา โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​ที่ 19 เป็น​ต้น​มา มี​นัก​วิชาการ​บาง​คน​ถือ​ว่า​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​ไม่​ได้​เขียน​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า แต่​แต่ง​ขึ้น​โดย​มนุษย์. นอก​จาก​นี้ พวก​เขา​ยัง​ไม่​ยอม​รับ​ด้วย​ว่า​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ได้​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​มา​จาก​การ​รู้​เห็น​และ​ได้​ยิน​ด้วย​ตน​เอง และ​ยืน​ยัน​ว่า​คน​เหล่า​นี้​ไม่​สามารถ​จะ​บันทึก​ประวัติศาสตร์​ที่​น่า​เชื่อถือ​ได้. ไม่​เพียง​เท่า​นั้น พวก​เขา​ยัง​ลง​ความ​เห็น​ว่า เค้าโครง​และ​เนื้อหา​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ใน​กิตติคุณ​สาม​เล่ม​แรก—ซึ่ง​บาง​ครั้ง​เรียก​ว่า “ซีนอปติก” ที่​แปล​ว่า “ความ​เห็น​ที่​พ้อง​กัน”—บ่ง​ชี้​ว่า​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ได้​คัด​ลอก​เรื่อง​ราว​หลาย​ส่วน​จาก​กัน​และ​กัน. นอก​จาก​นี้ นัก​วิจารณ์​ยัง​ได้​ปฏิเสธ​การ​อัศจรรย์​ต่าง ๆ และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​ที่​กล่าว​ถึง​ใน​กิตติคุณ​ด้วย. บาง​คน​ถึง​กับ​อ้าง​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​เป็น​บุคคล​จริง​ใน​ประวัติศาสตร์​เลย​ด้วย​ซ้ำ!

นัก​วิจารณ์​เหล่า​นี้​ลง​ความ​เห็น​ว่า มาระโก​คง​ต้อง​เป็น​คน​แรก​ที่​เขียน​กิตติคุณ เพราะ​ดู​เหมือน​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​แทบ​ไม่​ได้​ให้​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม​จาก​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​และ​ลูกา. เหล่า​นัก​วิจารณ์​ยัง​สันนิษฐาน​ด้วย​ว่า มัดธาย​และ​ลูกา​ได้​อาศัย​หนังสือ​มาระโก​เป็น​พื้น​ฐาน​ใน​การ​เรียบเรียง​กิตติคุณ​ของ​ตน​เอง​และ​ได้​หา​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม​จาก​อีก​แหล่ง​หนึ่ง คือ เอกสาร​ซึ่ง​พวก​ผู้​คง​แก่​เรียน​เรียก​ว่า คิว (มา​จาก​ภาษา​เยอรมัน เควลเล แปล​ว่า “แหล่ง”). ตาม​ความ​เห็น​ของ​ผู้​คง​แก่​เรียน​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล เอ. เอฟ. เจ. ไคลน์ การ​ตั้ง​ข้อ​สันนิษฐาน​เช่น​นั้น​เป็น​การ “ลด​ฐานะ​ผู้​เขียน​หนังสือ​กิตติคุณ​ให้​กลาย​เป็น​เพียง​ผู้​รวบ​รวม​เรื่อง​ราว​เล็ก ๆ น้อย ๆ.” ความ​คิด​เช่น​นั้น แท้​จริง​แล้ว​ทำ​ให้​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​กลาย​เป็น​คน​ที่​แอบ​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​ผู้​อื่น​และ​เป็น​นัก​แต่ง​นิยาย. ทฤษฎี​เช่น​นี้​บ่อน​ทำลาย​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า.—2 ติโมเธียว 3:16.

ผู้​เขียน​กิตติคุณ​แอบ​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​คน​อื่น​ไหม?

เนื้อ​ความ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ของ​กิตติคุณ​สาม​เล่ม​แรก​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​จริง ๆ ไหม​ว่า​ผู้​เขียน​เพียง​แต่​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​กัน​และ​กัน? ไม่​เลย. ทำไม​จึง​กล่าว​เช่น​นั้น? เหตุ​ผล​หนึ่ง​คือ พระ​เยซู​ทรง​สัญญา​กับ​เหล่า​สาวก​ว่า พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ ‘ช่วย​พวก​เขา​ให้​ระลึก​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ได้​บอก​พวก​เขา​ไว้.’ (โยฮัน 14:26) ดัง​นั้น จึง​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก​ที่​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ทั้ง​สาม​จะ​จำ​เรื่อง​ราว​และ​บันทึก​เหตุ​การณ์​บาง​เรื่อง​เหมือน​กัน. จริง​อยู่ ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​คน​อาจ​เคย​อ่าน​และ​อ้าง​ถึง​สิ่ง​ที่​อีก​คน​หนึ่ง​เขียน​ไว้ แต่​การ​ทำ​อย่าง​นั้น​น่า​จะ​บ่ง​ชี้​ว่า​พวก​เขา​ได้​ศึกษา​ค้นคว้า​อย่าง​ถี่ถ้วน ไม่​ใช่​การ​แอบ​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​คน​อื่น. (2 เปโตร 3:15) นอก​จาก​นั้น พจนานุกรม ดิ แองเคอร์ ไบเบิล กล่าว​ว่า “ธรรมเนียม​การ​บอก​เล่า​เรื่อง​ราว​แบบ​ปาก​ต่อ​ปาก​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​มี​การ​บันทึก​คำ​ตรัส​อัน​น่า​จด​จำ​ของ​พระ​เยซู​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​เหมือน ๆ กัน.”

ลูกา​กล่าว​ว่า​ท่าน​ได้​สนทนา​กับ​ประจักษ์​พยาน​หลาย​คน​และ​ได้ “สืบ​เสาะ​ทุก​เรื่อง​ตั้ง​แต่​ต้น​อย่าง​ถูก​ต้อง​แม่นยำ.” (ลูกา 1:1-4) คำ​พูด​นี้​ฟัง​เหมือน​กับ​ว่า​ท่าน​ได้​แอบ​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​คน​อื่น​หรือ​เป็น​นัก​แต่ง​นิยาย​ไหม? ตรง​กัน​ข้าม​เลย​ที​เดียว! หลัง​จาก​วิเคราะห์​งาน​เขียน​ของ​ลูกา​อย่าง​ถี่ถ้วน​แล้ว นัก​โบราณคดี​วิลเลียม แรมซีย์​ได้​สรุป​ว่า “ลูกา​เป็น​นัก​ประวัติศาสตร์​ชั้น​แนว​หน้า: ไม่​ใช่​เพราะ​ข้อมูล​ของ​ท่าน​น่า​เชื่อถือ​เท่า​นั้น แต่​เพราะ​ตัว​ท่าน​เอง​มี​ทักษะ​ใน​การ​เขียน​เรื่อง​ทาง​ประวัติศาสตร์​จริง ๆ . . . ผู้​เขียน​คน​นี้​สม​ควร​ถูก​จัด​อยู่​ใน​กลุ่ม​นัก​ประวัติศาสตร์​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​โดย​แท้.”

พยาน​หลักฐาน​จาก​เหล่า​นัก​เขียน​แห่ง​คริสตจักร​โบราณ รวม​ถึง​จาก​ออริเกน นัก​เทววิทยา​แห่ง​ศตวรรษ​ที่​สาม​แสดง​ให้​เห็น​เช่น​กัน​ว่า​อัครสาวก​มัดธาย​เป็น​คน​แรก​ที่​เขียน​กิตติคุณ. ออริเกน​เขียน​ว่า “กิตติคุณ​เล่ม​แรก​เขียน​โดย​มัดธาย คน​เดียว​กับ​ที่​เคย​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี แต่​ภาย​หลัง​มา​เป็น​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ และ​เขา​เขียน​กิตติคุณ​นี้​เพื่อ​ชาว​ยิว​ที่​เปลี่ยน​มา​นับถือ​ศาสนา​คริสต์ โดย​เขียน​เป็น​ภาษา​ฮีบรู.” เห็น​ได้​ชัด​ว่า ไม่​มี​ความ​จำเป็น​ที่​มัดธาย ผู้​เป็น​อัครสาวก​และ​ประจักษ์​พยาน​คน​หนึ่ง​จะ​แอบ​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​มาระโก​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​ประจักษ์​พยาน. ถ้า​เช่น​นั้น อะไร​คือ​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​คำ​กล่าว​อ้าง​ที่​ว่า​มัดธาย​และ​ลูกา​คัด​ลอก​งาน​เขียน​ของ​มาระโก​และ​เอกสาร​ที่​เรียก​ว่า​คิว​ที่​พวก​เขา​กล่าว​ถึง?

กิตติคุณ​ของ​มาระโก​เขียน​ขึ้น​เป็น​เล่ม​แรก​ไหม?

พจนานุกรม​ดิ แองเคอร์ ไบเบิล ยอม​รับ​ว่า ทฤษฎี​ที่​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​เขียน​ขึ้น​เป็น​เล่ม​แรก​และ​เป็น​แหล่ง​ข้อมูล​ของ​กิตติคุณ​มัดธาย​และ​ลูกา​ไม่​ใช่​ทฤษฎี​ที่​อาศัย “ข้อ​อ้าง​ที่​มี​เหตุ​ผล​หนักแน่น.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​คง​แก่​เรียน​หลาย​คน​รู้สึก​ว่า มาระโก​เขียน​กิตติคุณ​ก่อน​มัดธาย​และ​ลูกา เพราะ​มาระโก​ให้​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม​จาก​ที่​มี​ใน​กิตติคุณ​อื่น​เพียง​เล็ก​น้อย. ตัว​อย่าง​เช่น โยฮันเนส คืห์น ผู้​คง​แก่​เรียน​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 ยืน​ยัน​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​คง​ต้อง​เขียน​ขึ้น​เป็น​เล่ม​แรก. หาก​ไม่​ใช่​เช่น​นั้น คืห์น​กล่าว​ว่า “เรา​ก็​คง​ต้อง​จินตนาการ​ว่า​มาระโก​ได้​ตัด​ม้วน​หนังสือ​สอง​ม้วน​ของ​มัดธาย​และ​ลูกา​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ชิ้น​น้อย ใส่​รวม​กัน​ใน​หม้อ​ใบ​หนึ่ง แล้ว​ก็​ใช้​ส่วน​ผสม​ใน​หม้อ​นั้น​มา​เรียบเรียง​เป็น​กิตติคุณ​ของ​ตน​เอง.”

เนื่อง​จาก​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​สั้น​ที่​สุด จึง​ไม่​น่า​แปลก​ใจ​หาก​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​จะ​มี​ราย​ละเอียด​เฉพาะ​ตัว​น้อย​กว่า​เล่ม​อื่น. แต่​นั่น​ก็​ไม่​ใช่​ข้อ​พิสูจน์​ว่า​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​เขียน​ขึ้น​เป็น​เล่ม​แรก. นอก​จาก​นั้น ไม่​เป็น​ความ​จริง​เลย​ที่​ว่า​มาระโก​ไม่​ได้​เขียน​อะไร​เพิ่ม​เติม​จาก​ที่​มี​ใน​มัดธาย​และ​ลูกา. บันทึก​ของ​มาระโก​เกี่ยว​กับ​งาน​ประกาศ​ของ​พระ​เยซู​ที่​มี​ชีวิต​ชีวา​และ​เดิน​เรื่อง​อย่าง​รวด​เร็ว ที่​จริง​แล้ว​มี​ข้อ​ความ​และ​ราย​ละเอียด​ที่​น่า​ทึ่ง​มาก​กว่า 180 ที่​ซึ่ง​ไม่​มี​ใน​มัดธาย​และ​ลูกา ทำ​ให้​บันทึก​เรื่อง​ราว​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​ใน​มาระโก​มี​ลักษณะ​เฉพาะ​ตัว​อย่าง​แท้​จริง.—ดู​ กรอบ​หน้า 13.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​เอกสาร​คิว?

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​เอกสาร​คิว​ซึ่ง​บาง​คน​อ้าง​ว่า​เป็น​แหล่ง​ข้อมูล​ที่​มัดธาย​และ​ลูกา​ใช้? เจมส์ เอ็ม. โรบินสัน ศาสตราจารย์​ด้าน​ศาสนา กล่าว​ว่า “ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​คิว​เป็น​ข้อ​เขียน​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​คริสเตียน​ที่​เรา​มี​อยู่.” คำ​พูด​นี้​น่า​แปลก​ใจ​เพราะ​ปัจจุบัน​นี้​ไม่​มี​เอกสาร​คิว​และ​ที่​จริง​แล้ว​ไม่​มี​ใคร​สามารถ​พิสูจน์​ได้​ด้วย​ซ้ำ​ว่า​เคย​มี​เอกสาร​นี้​อยู่​จริง! การ​ที่​เอกสาร​นี้​หาย​ไป​ทั้ง​หมด​ยิ่ง​เป็น​เรื่อง​น่า​สังเกต เนื่อง​จาก​พวก​ผู้​คง​แก่​เรียน​อ้าง​ว่า​ต้อง​มี​สำเนา​เอกสาร​นี้​หลาย​ฉบับ. นอก​จาก​นี้ เหล่า​นัก​เขียน​แห่ง​คริสตจักร​โบราณ​ไม่​เคย​กล่าว​ถึง​เอกสาร​คิว​เลย.

ลอง​คิด​ดู​สิ. พวก​เขา​ทึกทัก​ว่า เอกสาร​คิว​มี​อยู่​จริง​และ​สนับสนุน​สมมุติฐาน​ที่​ว่า​มาระโก​เป็น​กิตติคุณ​เล่ม​แรก​ที่​เขียน​ขึ้น. กรณี​นี้​เป็น​การ​ตั้ง​สมมุติฐาน​หนึ่ง​ขึ้น​บน​อีก​สมมุติฐาน​หนึ่ง​มิ​ใช่​หรือ? ใน​เรื่อง​ทฤษฎี​ต่าง ๆ เหล่า​นี้ นับ​ว่า​สุขุม​ที่​เรา​จะ​จำ​สุภาษิต​ข้อ​หนึ่ง​ไว้ ที่​ว่า “คน​โง่​เชื่อ​คำ​บอก​เล่า​ทุก​คำ; แต่​คน​ฉลาด​ย่อม​มอง​ดู​ทาง​เดิน​ของ​เขา​ด้วย​ความ​ระวัง.”—สุภาษิต 14:15.

กิตติคุณ​ทั้ง​สี่—ถูก​ต้อง​และ​เชื่อถือ​ได้

ด้วย​การ​คาด​เดา​และ​การ​ตั้ง​สมมุติฐาน​โดย​ไม่​มี​มูล ผู้​คง​แก่​เรียน​ที่​ชอบ​วิพากษ์วิจารณ์​ได้​เบน​ความ​สนใจ​ของ​หลาย​คน​ไป​จาก​การ​ศึกษา​เรื่อง​ราว​ที่​เชื่อถือ​ได้​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​และ​งาน​สั่ง​สอน​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​บันทึก​ไว้​ใน​กิตติคุณ. บันทึก​เหล่า​นี้​แสดง​ชัดเจน​ว่า คริสเตียน​ยุค​แรก​ไม่​ได้​ถือ​ว่า​เหตุ​การณ์​เกี่ยว​กับ​การ​ประสูติ, งาน​สั่ง​สอน, การ​สิ้น​พระ​ชนม์, และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​นั้น​เป็น​เพียง​นิยาย. มี​ประจักษ์​พยาน​หลาย​ร้อย​คน​ยืน​ยัน​ความ​ถูก​ต้อง​เป็น​จริง​ของ​ข้อมูล​เหล่า​นี้. คริสเตียน​ยุค​แรก​เหล่า​นี้​เต็ม​ใจ​เผชิญ​การ​ข่มเหง​และ​ความ​ตาย​เพื่อ​จะ​ติด​ตาม​พระ​เยซู และ​พวก​เขา​ตระหนัก​ดี​ว่า​การ​เป็น​คริสเตียน​คง​เป็น​เรื่อง​โง่​เขลา​ถ้า​งาน​สั่ง​สอน​และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​เป็น​เพียง​เรื่อง​ที่​เขียน​ขึ้น​จาก​จินตนาการ​เท่า​นั้น.—1 โครินท์ 15:3-8, 17, 19; 2 ติโมเธียว 2:2.

เกี่ยว​กับ​ข้อ​ถกเถียง​ใน​เรื่อง​สมมุติฐาน​ที่​ว่า​มาระโก​น่า​จะ​เป็น​กิตติคุณ​เล่ม​แรก​ที่​เขียน​ขึ้น​และ​เอกสาร​คิว​ที่​หาย​สาบสูญ​ไป​อย่าง​น่า​สงสัย จอร์จ ดับเบิลยู. บิวแคนัน ศาสตราจารย์​ด้าน​เทววิทยา ได้​กล่าว​ว่า “การ​ให้​ความ​สนใจ​กับ​สมมุติฐาน​เรื่อง​แหล่ง​ที่​มา​มาก​เกิน​ไป​จะ​เบน​ความ​สนใจ​ของ​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​จาก​การ​ศึกษา​เนื้อ​ความ​จริง ๆ ของ​คัมภีร์​ไบเบิล.” ความ​คิด​ดัง​กล่าว​สอดคล้อง​กับ​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​บอก​ติโมเธียว​ว่า​ไม่​ให้ “ใส่​ใจ​เรื่อง​เท็จ​และ​เรื่อง​ลำดับ​วงศ์​ตระกูล​ซึ่ง​ก่อ​ข้อ​สงสัย​ที่​ทำ​ให้​ต้อง​ค้นคว้า​เสีย​เวลา​เปล่า แทน​ที่​จะ​ได้​รับ​อะไร ๆ ที่​เสริม​ความ​เชื่อ​จาก​พระเจ้า.”—1 ติโมเธียว 1:4.

กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​เชื่อถือ​ได้. หนังสือ​เหล่า​นี้​มี​เรื่อง​ราว​ที่​เชื่อถือ​ได้​ซึ่ง​บันทึก​โดย​ประจักษ์​พยาน​หลาย​คน​และ​เขียน​ขึ้น​โดย​อาศัย​การ​ศึกษา​ค้นคว้า​อย่าง​ถี่ถ้วน. หนังสือ​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​เรา​รู้​ความ​จริง​ที่​น่า​ทึ่ง​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​คริสต์. ฉะนั้น เช่น​เดียว​กับ​ติโมเธียว​ใน​สมัย​โบราณ เรา​ควร​เอา​ใจ​ใส่​คำ​กล่าว​ของ​เปาโล​ที่​ว่า “จง​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​เรียน​รู้​และ​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​เชื่อ​มั่น​ว่า​เป็น​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป.” เรา​มี​เหตุ​ผล​หนักแน่น​ที่​จะ​ยอม​รับ​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า”—รวม​ถึง​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​ด้วย.—2 ติโมเธียว 3:14-17.

[กรอบ​หน้า 13]

 ถ้า​ไม่​มี​หนังสือ​ของ​มาระโก เรา​จะ​ไม่​รู้​เลย​ว่า . . .

พระ​เยซู​ทอด​พระ​เนตร​คน​ที่​อยู่​รอบ ๆ ด้วย​ความ​เคือง​พระทัย​และ​รู้สึก​เศร้า​พระทัย​ยิ่ง​นัก​เพราะ​หัวใจ​ที่​ด้าน​ชา​ของ​พวก​เขา (มาระโก 3:5)

โยฮัน​กับ​ยาโกโบ​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า โบอาเนอร์เยส (มาระโก 3:17)

ผู้​หญิง​ที่​ตก​เลือด​ได้​เสีย​ทรัพย์​สิน​ที่​มี​จน​หมด​ตัว (มาระโก 5:26)

นาง​เฮโรดิอัส​ผูก​พยาบาท โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​และ​เฮโรด​ยำเกรง โยฮัน​และ​คอย​ปก​ป้อง​เขา (มาระโก 6:19, 20)

พระ​เยซู​ทรง​เชิญ​พวก​สาวก​ให้​พัก​สัก​หน่อย (มาระโก 6:31)

พวก​ฟาริซาย​ล้าง​มือ​ถึง​ข้อ​ศอก (มาระโก 7:2-4)

พระ​เยซู​ทรง​โอบ​เด็ก ๆ ไว้ (มาระโก 10:16)

พระ​เยซู​ทรง​รู้สึก​รัก ขุนนาง​หนุ่ม (มาระโก 10:21)

เปโตร, ยาโกโบ, โยฮัน, และ​อันเดรอัส​ได้​ทูล​ถาม​พระองค์​เป็น​การ​ส่วน​ตัว (มาระโก 13:3)

ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ทิ้ง​ผ้า​ลินิน​ไว้ (มาระโก 14:51, 52)

นอก​จาก​นั้น อุปมา​โวหาร​เรื่อง​หนึ่ง​ของ​พระ​เยซู​และ​การ​อัศจรรย์​สอง​ครั้ง​มี​บันทึก​เฉพาะ​ใน​หนังสือ​ของ​มาระโก​เท่า​นั้น.—มาระโก 4:26-29; 7:32-37; 8:22-26.

กิตติคุณ​ของ​มาระโก​ให้​ราย​ละเอียด​อีก​มาก​มาย​ที่​ไม่​มี​กล่าว​ถึง​ใน​กิตติคุณ​เล่ม​อื่น. เรา​จะ​รู้​คุณค่า​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​มาก​ขึ้น​อย่าง​แน่นอน ถ้า​เรา​ใช้​เวลา​ใคร่ครวญ​อย่าง​จริงจัง​เกี่ยว​กับ​คุณค่า​ของ​ราย​ละเอียด​ที่​สำคัญ​ทั้ง​หมด​นั้น.