ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณมีสติรู้สึกผิดชอบที่ได้รับการฝึกอย่างดีไหม?

คุณมีสติรู้สึกผิดชอบที่ได้รับการฝึกอย่างดีไหม?

คุณ​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​อย่าง​ดี​ไหม?

คุณ​เคย​พูด​ไหม​ว่า “ใน​ใจ​ฉัน​รู้​ว่า​มัน​ไม่​ถูก” หรือ “ฉัน​ทำ​อย่าง​ที่​คุณ​ขอ​ไม่​ได้. มี​บาง​อย่าง​ใน​ตัว​ฉัน​บอก​ว่า​มัน​ผิด”? นั่น​เป็น “เสียง” ของ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ ซึ่ง​เป็น​ความ​สำนึก​หรือ​การ​รับ​รู้​ภาย​ใน​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด และ​สิ่ง​นี้​จะ​กล่าวหา​หรือ​ไม่​ก็​แก้​ตัว​ให้​คน​เรา. ใช่​แล้ว สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เป็น​สิ่ง​ที่​ติด​ตัว​เรา​มา​แต่​กำเนิด.

แม้​จะ​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า แต่​โดย​ทั่ว​ไป​มนุษย์​ก็​ยัง​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​แยกแยะ​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด. ที่​เป็น​เช่น​นี้​เพราะ​มนุษย์​ถูก​สร้าง​ตาม​แบบ​ของ​พระเจ้า เขา​จึง​สะท้อน​สติ​ปัญญา​และ​ความ​ชอบธรรม​ซึ่ง​เป็น​คุณลักษณะ​ของ​พระเจ้า​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง. (เยเนซิศ 1:26, 27) เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ อัครสาวก​เปาโล​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “เมื่อ​พวก​ต่าง​ประเทศ​ซึ่ง​ไม่​มี​พระ​บัญญัติ​ก็​ได้​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​โดย​ธรรมชาติ คน​เหล่า​นั้น​แม้​ไม่​มี​พระ​บัญญัติ​ก็​เป็น​บัญญัติ​แก่​ตัว​เอง. เขา​เหล่า​นั้น​เป็น​ผู้​ซึ่ง​สำแดง​การ​ที่​กฎหมาย​เขียน​ไว้​ใน​หัวใจ​ของ​เขา ขณะ​ที่​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เขา​เป็น​พยาน​ด้วย​กัน​กับ​เขา และ​โดย​ความ​คิด​ทั้ง​หลาย​ของ​เขา​เอง เขา​ก็​ได้​รับ​การ​กล่าวหา หรือ​การ​แก้​ตัว.” *โรม 2:14, 15, ล.ม.

ลักษณะ​ทาง​ศีลธรรม​ดัง​กล่าว​ซึ่ง​สืบ​ทอด​มา​จาก​อาดาม​มนุษย์​คน​แรก ทำ​หน้า​ที่​เสมือน “กฎหมาย” หรือ​กฎ​ความ​ประพฤติ​ใน​ตัว​มนุษย์​ทุก​เชื้อชาติ​และ​เผ่า​พันธุ์ เป็น​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​และ​ตัดสิน​ตน​เอง. (โรม 9:1) อาดาม​และ​ฮาวา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​สามารถ​นี้ เพราะ​ทันที​ที่​ได้​ละเมิด​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​หลบ​ไป​ซ่อน​ตัว. (เยเนซิศ 3:7, 8) อีก​ตัว​อย่าง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​วิธี​การ​ทำ​งาน​ของ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​คือ ปฏิกิริยา​ของ​กษัตริย์​ดาวิด​เมื่อ​ท่าน​รู้​ตัว​ว่า​ได้​ทำ​ผิด​ที่​สั่ง​ให้​นับ​จำนวน​ประชากร. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “แล้ว​พระทัย​ของ​ดาวิด​ก็​โทมนัส.”—2 ซามูเอล 24:1-10, ฉบับ​แปล​ใหม่.

การ​ที่​เรา​สามารถ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​และ​วินิจฉัย​การ​ประพฤติ​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม​ของ​ตน​เอง​อาจ​ก่อ​ผล​เป็น​การ​กลับ​ใจ​อย่าง​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​มาก. ดาวิด​เขียน​ว่า “ครั้น​ข้าพเจ้า​นิ่ง​อยู่, กะดูก​ก็​เหี่ยว​แห้ง​ไป​โดย​ข้าพเจ้า​คราง​อยู่​ตลอด​วัน. บาป​ของ​ข้าพเจ้า ๆ ทูล​รับ​สารภาพ​ต่อ​พระองค์, และ​ไม่​ได้​ปิด​บัง​ซ่อน​การ​อสัตย์​อธรรม​ของ​ข้าพเจ้า​ไว้: ข้าพเจ้า​ได้​กล่าว​ว่า, การ​ล่วง​ละเมิด​นั้น​ข้าพเจ้า​จะ​รับ​สารภาพ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา; และ​พระองค์​ได้​ทรง​โปรด​ยก​ความ​อสัตย์​อธรรม​ของ​ข้าพเจ้า​เสีย.” (บทเพลง​สรรเสริญ 32:3, 5) ดัง​นั้น สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ทำ​งาน​สามารถ​นำ​คน​บาป​กลับ​มา​หา​พระเจ้า​ได้ โดย​ช่วย​เขา​ให้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​อภัยโทษ​จาก​พระเจ้า​และ​ติด​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 51:1-4, 9, 13-15.

นอก​จาก​นี้ สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ยัง​คอย​ช่วย​เตือน​หรือ​ชี้​แนะ​เมื่อ​เรา​ต้อง​เลือก​หรือ​ตัดสิน​ใจ​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ทาง​ศีลธรรม. แง่​มุม​ดัง​กล่าว​ของ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​คง​ได้​ช่วย​โยเซฟ​ให้​ตระหนัก​ก่อน​ที่​จะ​ทำ​อะไร​ลง​ไป​ว่า​การ​เล่นชู้​นั้น​ผิด​และ​เป็น​การ​ชั่ว คือ​เป็น​บาป​ต่อ​พระเจ้า. ใน​เวลา​ต่อ​มา​จึง​มี​กฎหมาย​ห้าม​เล่นชู้​อย่าง​เฉพาะ​เจาะจง​รวม​อยู่​ใน​พระ​บัญญัติ​สิบ​ประการ​ที่​พระเจ้า​ประทาน​ให้​แก่​ชาว​อิสราเอล. (เยเนซิศ 39:1-9; เอ็กโซโด 20:14) เห็น​ได้​ชัด​ว่า เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​มาก​ที​เดียว​ถ้า​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​ได้​รับ​การ​ฝึก​ให้​ชี้​แนะ​เรา​แทน​ที่​จะ​เพียง​ตัดสิน​เรา. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คุณ​เป็น​แบบ​นั้น​ไหม?

การ​ฝึก​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ให้​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ถูก​ต้อง

แม้​เรา​จะ​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ติด​ตัว​มา​แต่​กำเนิด แต่​น่า​เสียดาย​ที่​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​นั้น​บกพร่อง. แม้​ว่า​พระเจ้า​ทรง​เตรียม​การ​ให้​มนุษยชาติ​ได้​เริ่ม​ต้น​อย่าง​สมบูรณ์ แต่ “คน​ทั้ง​ปวง​ได้​ทำ​ผิด​ทุก​คน, และ​ขาด​การ​ถวาย​เกียรติยศ​แก่​พระเจ้า.” (โรม 3:23) เนื่อง​จาก​เรา​กลาย​เป็น​คน​บาป​และ​ไม่​สมบูรณ์ สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​จึง​อาจ​บิดเบือน​และ​ทำ​งาน​ได้​ไม่​เต็ม​ที่​อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประสงค์​แต่​แรก. (โรม 7:18-23) นอก​จาก​นั้น ปัจจัย​ภาย​นอก​ก็​อาจ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา เช่น การ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ที่​เรา​ได้​รับ​หรือ​ธรรมเนียม​ประเพณี, ความ​เชื่อ, และ​สภาพ​แวด​ล้อม​ใน​ท้องถิ่น. แน่นอน​ว่า ศีลธรรม​ที่​เสื่อม​ทราม​และ​มาตรฐาน​ของ​โลก​ที่​ตก​ต่ำ​ลง​เรื่อย ๆ ไม่​สามารถ​ใช้​เป็น​มาตรฐาน​สำหรับ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี​ได้.

ดัง​นั้น คริสเตียน​ต้อง​มี​มาตรฐาน​ต่าง ๆ ที่​มั่นคง​และ​ชอบธรรม​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​คอย​ช่วย​อีก​แรง​หนึ่ง. มาตรฐาน​เหล่า​นั้น​สามารถ​ชี้​นำ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​ให้​ประเมิน​เรื่อง​ต่าง ๆ อย่าง​ถูก​ต้อง​และ​จัด​การ​เรื่อง​เหล่า​นั้น​ให้​เรียบร้อย. (2 ติโมเธียว 3:16, ล.ม.) เมื่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​ได้​รับ​การ​ฝึก​สอน​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ก็​จะ​เป็น​เครื่อง​มือ​ป้องกัน​ภัย​ทาง​ศีลธรรม​ที่​ดี​ยิ่ง​ขึ้น ซึ่ง​จะ​ช่วย​เรา​ให้ “สังเกต​ได้​ว่า​ไหน​ดี​ไหน​ชั่ว.” (เฮ็บราย 5:14) หาก​ไม่​มี​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​อาจ​ไม่​เตือน​เรา​เมื่อ​เรา​หลง​ไป​ใน​ทาง​ชั่ว. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “มี​ทาง​หนึ่ง​ซึ่ง​ดู​เหมือน​บาง​คน​เห็น​ว่า​เป็น​ทาง​ถูก; แต่​ปลาย​ทาง​นั้น​เป็น​ทาง​แห่ง​ความ​ตาย.”—สุภาษิต 16:25; 17:20.

ใน​บาง​เรื่อง​ของ​ชีวิต พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ให้​คำ​แนะ​นำ​และ​การ​ชี้​แนะ​ที่​ชัดเจน และ​เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​หาก​ทำ​ตาม​คำ​ชี้​แนะ​เหล่า​นั้น. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง มี​หลาย​เรื่อง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​ให้​คำ​แนะ​นำ​อย่าง​เฉพาะ​เจาะจง เช่น การ​เลือก​งาน​อาชีพ, เรื่อง​สุขภาพ, นันทนาการ, เสื้อ​ผ้า​และ​การ​แต่ง​กาย, และ​อื่น ๆ. ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​ที่​จะ​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่าง​ไร​และ​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ถูก​ต้อง​ใน​แต่​ละ​กรณี. ฉะนั้น เรา​จึง​ควร​มี​เจตคติ​เหมือน​ดาวิด ซึ่ง​ได้​อธิษฐาน​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ขอ​ทรง​โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​รู้​ทาง​ของ​พระองค์, ขอ​ทรง​ฝึก​สอน​ข้าพเจ้า​ให้​ดำเนิน​ใน​พระ​มรคา​ของ​พระองค์. ขอ​ทรง​แนะ​นำ​สอน​ข้าพเจ้า​ตาม​ความ​สัตย์​จริง​ของ​พระองค์; เพราะ​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​รอด​ของ​ข้าพเจ้า.” (บทเพลง​สรรเสริญ 25:4, 5) ยิ่ง​เรา​เข้าใจ​ทัศนะ​และ​วิถี​ทาง​ของ​พระเจ้า​มาก​เท่า​ไร ความ​สามารถ​ของ​เรา​ที่​จะ​ประเมิน​สถานการณ์​อย่าง​ถูก​ต้อง​และ​ตัดสิน​ใจ​ด้วย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด​ก็​จะ​ยิ่ง​เพิ่ม​ขึ้น.

ดัง​นั้น เมื่อ​เรา​เกิด​ความ​สงสัย​หรือ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​ใด​เรื่อง​หนึ่ง ก่อน​อื่น​เรา​ควร​คิด​ถึง​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​อาจ​ใช้​ได้. หลักการ​บาง​อย่าง​ได้​แก่: การ​นับถือ​ตำแหน่ง​ประมุข (โกโลซาย 3:18, 20); ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง (เฮ็บราย 13:18); เกลียด​สิ่ง​ที่​ชั่ว (บทเพลง​สรรเสริญ 97:10); แสวง​หา​สันติ​สุข (โรม 14:19); เชื่อ​ฟัง​ผู้​มี​อำนาจ​ที่​ถูก​ตั้ง​ไว้ (มัดธาย 22:21; โรม 13:1-7); ความ​เลื่อมใส​โดย​เฉพาะ​แด่​พระเจ้า (มัดธาย 4:10); ไม่​เป็น​ส่วน​ของ​โลก (โยฮัน 17:14); หลีก​เลี่ยง​การ​คบหา​สมาคม​ที่​ไม่​ดี (1 โกรินโธ 15:33); การ​แต่ง​กาย​ที่​สุภาพ (1 ติโมเธียว 2:9, 10); และ​ไม่​ทำ​ให้​คน​อื่น​สะดุด (ฟิลิปปอย 1:10, ล.ม.). การ​ระบุ​ได้​ว่า​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ข้อ​ไหน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​ที่​เรา​เผชิญ​อยู่​สามารถ​ทำ​ให้​เรา​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​เข้มแข็ง​ขึ้น​และ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง.

จง​ฟัง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คุณ

เพื่อ​ที่​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​จะ​ช่วย​เรา​ได้ เรา​ต้อง​ใส่​ใจ​ฟัง. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​ตาม​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​เป็น​ประโยชน์​แก่​เรา​ก็​ต่อ​เมื่อ​เรา​ตอบรับ​ทันที​ต่อ​สัญญาณ​เตือน. เรา​อาจ​เปรียบ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​กับ​ไฟ​เตือน​ต่าง ๆ บน​แผง​หน้า​ปัด​รถยนต์. สมมุติ​ว่า​มี​ไฟ​ขึ้น​เพื่อ​เตือน​ว่า​ความ​ดัน​น้ำมัน​เครื่อง​อยู่​ใน​ระดับ​ต่ำ. จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​เรา​ไม่​ใส่​ใจ​สัญญาณ​เตือน​นั้น​ทันที​และ​ยัง​ขับ​รถ​ต่อ​ไป? เรา​คง​ทำ​ให้​เครื่อง​ยนต์​เสียหาย​มาก​ที​เดียว. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา หรือ​เสียง​ที่​อยู่​ภาย​ใน สามารถ​เตือน​เรา​ได้​ว่า​การ​กระทำ​บาง​อย่าง​เป็น​เรื่อง​ผิด. เมื่อ​เรา​เทียบ​ดู​มาตรฐาน​และ​ค่า​นิยม​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​กับ​สิ่ง​ที่​กำลัง​ทำ​หรือ​คิด​จะ​ทำ สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​ก็​ส่ง​สัญญาณ​เตือน เหมือน​กับ​ไฟ​ที่​ขึ้น​บน​แผง​หน้า​ปัด. การ​เอา​ใจ​ใส่​สัญญาณ​เตือน​ไม่​เพียง​ช่วย​เรา​ให้​หลีก​เลี่ยง​ผล​ร้าย​ของ​การ​ทำ​ผิด แต่​ยัง​ช่วย​ให้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​ทำ​งาน​ได้​อย่าง​ดี​ต่อ​ไป.

จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​เรา​เพิกเฉย​ต่อ​สัญญาณ​เตือน? สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​อาจ​ค่อย ๆ ด้าน​ชา​ไป. ผล​ของ​การ​เพิกเฉย​หรือ​ฝืน​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​อยู่​เรื่อย ๆ อาจ​เป็น​เหมือน​กับ​ผล​ที่​เกิด​จาก​การ​เอา​เหล็ก​ร้อน​ไป​นาบ​ผิวหนัง. เนื้อ​เยื่อ​ที่​เป็น​แผล​เป็น​ซึ่ง​ปลาย​ประสาท​ถูก​ทำลาย​ทั้ง​หมด​จะ​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​ใด ๆ อีก​ต่อ​ไป. (1 ติโมเธียว 4:2) สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เช่น​นั้น​ไม่​ตอบ​สนอง​อีก​ต่อ​ไป​เมื่อ​มี​การ​ทำ​บาป อีก​ทั้ง​ไม่​ส่ง​สัญญาณ​เตือน​เพื่อ​ป้องกัน​การ​ทำ​บาป​ซ้ำ​อีก. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​มี​แผล​เป็น​และ​ด้าน​ชา​จะ​ไม่​แยแส​ต่อ​มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​เรื่อง​สิ่ง​ถูก​ผิด และ​ดัง​นั้น​จึง​เป็น​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ใช้​การ​ไม่​ได้. สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เช่น​นี้​มี​มลทิน​ไป​แล้ว และ​ผู้​ที่​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เช่น​นี้​ก็ “ปราศจาก​ความ​สำนึก​ด้าน​ศีลธรรม” และ​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า. (เอเฟโซ 4:17-19, ล.ม.; ติโต 1:15) ช่าง​เป็น​ผล​ที่​น่า​เศร้า​อะไร​เช่น​นี้!

“รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​อัน​ดี​ไว้”

เพื่อ​จะ​รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี​เอา​ไว้​จำเป็น​ต้อง​มี​ความ​พยายาม​อย่าง​ต่อ​เนื่อง. อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​อุสส่าห์​ประพฤติ​ตาม​ที่​ใจ​สังเกต​เห็น​ว่า​ดี​เสมอ, มิ​ให้​ผิด​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​มนุษย์.” (กิจการ 24:16) ใน​ฐานะ​คริสเตียน เปาโล​ตรวจ​สอบ​และ​แก้ไข​การ​ประพฤติ​ของ​ท่าน​เสมอ เพื่อ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​ไม่​ได้​ทำ​สิ่ง​ใด​ให้​พระเจ้า​เคือง​พระทัย. เปาโล​ทราบ​ว่า ที่​สุด​แล้ว​พระเจ้า​จะ​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ว่า​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​นั้น​ถูก​หรือ​ผิด. (โรม 14:10-12; 1 โกรินโธ 4:4) เปาโล​กล่าว​ว่า “สรรพสิ่ง​ปรากฏ​แจ้ง​ต่อ​พระ​เนตร​ของ​พระองค์​ผู้​ซึ่ง​เรา​ต้อง​ให้​การ.”—เฮ็บราย 4:13.

เปาโล​ยัง​ได้​กล่าว​ถึง​การ​ไม่​ทำ​ให้​มนุษย์​ขุ่นเคือง​ด้วย. ตัว​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เหมาะ​คือ คำ​แนะ​นำ​ที่​ท่าน​ให้​กับ​คริสเตียน​ชาว​โครินท์​ใน​เรื่อง “การ​กิน​อาหาร​ที่​เขา​ได้​บูชา​แก่​รูป​เคารพ.” จุด​สำคัญ​ที่​เปาโล​ต้องการ​พูด​ถึง​ก็​คือ แม้​เมื่อ​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​ใน​ตัว​มัน​เอง​จะ​ไม่​ผิด​หลักการ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า แต่​เรา​จำ​ต้อง​คำนึง​ถึง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คน​อื่น. หาก​ไม่​ทำ​เช่น​นั้น​เรา​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้ ‘พวก​พี่​น้อง​ซึ่ง​พระ​คริสต์​ได้​ทรง​ยอม​วาย​พระ​ชนม์​เพื่อ​เขา​ต้อง​พินาศ​ไป’ ใน​แง่​ฝ่าย​วิญญาณ. นอก​จาก​นั้น เรา​อาจ​ทำลาย​สัมพันธภาพ​ของ​เรา​เอง​กับ​พระเจ้า​ด้วย.—1 โกรินโธ 8:4, 11-13, ฉบับ​แปล​ใหม่; 10:23, 24.

ดัง​นั้น จง​ฝึก​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คุณ​ต่อ​ไป​และ​รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี​เอา​ไว้. จง​มอง​หา​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า​เมื่อ​จะ​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ. (ยาโกโบ 1:5) จง​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า และ​ยอม​ให้​หลักการ​ใน​พระ​คำ​นั้น​นวด​ปั้น​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​คุณ. (สุภาษิต 2:3-5) เมื่อ​มี​เรื่อง​สำคัญ​ที่​ต้อง​ตัดสิน​ใจ จง​ปรึกษา​คริสเตียน​ที่​อาวุโส เพื่อ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​คุณ​เข้าใจ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​นั้น​อย่าง​ถูก​ต้อง. (สุภาษิต 12:15; โรม 14:1; ฆะลาเตีย 6:5) จง​ใคร่ครวญ​ดู​ว่า​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​คุณ​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คุณ​อย่าง​ไร, การ​ตัดสิน​ใจ​นั้น​จะ​มี​ผล​ต่อ​คน​อื่น​อย่าง​ไร, และ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด การ​ตัดสิน​ใจ​ดัง​กล่าว​จะ​มี​ผล​อย่าง​ไร​ต่อ​สัมพันธภาพ​ของ​คุณ​กับ​พระ​ยะโฮวา.—1 ติโมเธียว 1:5, 18, 19.

สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เรา​เป็น​ของ​ประทาน​ที่​ยอด​เยี่ยม​จาก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า พระ​บิดา​ของ​เรา​ใน​สวรรค์​องค์​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก. เมื่อ​เรา​ใช้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​อย่าง​ที่​ประสาน​กับ​พระทัย​ประสงค์​ของ​ผู้​ที่​ประทาน​ให้ เรา​ก็​จะ​เข้า​ใกล้​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เรา​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. ไม่​ว่า​จะ​ทำ​สิ่ง​ใด หาก​เรา​พยายาม “รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​อัน​ดี” เอา​ไว้ เรา​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ชัดเจน​ยิ่ง​ขึ้น​ว่า​เรา​ถูก​สร้าง​ตาม​แบบ​พระเจ้า.—1 เปโตร 3:16; โกโลซาย 3:10.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ใน​ที่​นี้​หมาย​ถึง “ความ​สามารถ​ใน​การ​วินิจฉัย​ด้าน​ศีลธรรม​ซึ่ง​มี​อยู่​ภาย​ใน” (พจนานุกรม​ภาษา​กรีก​เชิง​วิเคราะห์​ฉบับ​ปรับ​ปรุง ของ​แฮโรลด์ เค. โมลตัน) “การ​แยกแยะ​ระหว่าง​สิ่ง​ถูก​และ​ผิด​ทาง​ศีลธรรม.” พจนานุกรม​กรีก-อังกฤษ โดย เจ. เอช. เทเยอร์.

[ภาพ​หน้า 13]

สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คุณ​ได้​รับ​การ​ฝึก​ให้​ชี้​นำ​คุณ​แทน​ที่​จะ​เพียง​ตัดสิน​คุณ​ไหม?

[ภาพ​หน้า 14]

สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​อย่าง​ดี​เป็น​ผล​จาก​การ​ที่​เรา​เรียน​รู้​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​นำ​ไป​ใช้

[ภาพ​หน้า 15]

อย่า​เพิกเฉย​ต่อ​สัญญาณ​เตือน​ของ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ