ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

มีชีวิตผ่านพ้นช่วงการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นในเกาหลี

มีชีวิตผ่านพ้นช่วงการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นในเกาหลี

มี​ชีวิต​ผ่าน​พ้น​ช่วง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ใน​เกาหลี

เล่า​โดย จอง-อิล พัก

“ไอ้​ขี้ขลาด! แก​กลัว​ตาย​ใน​สนาม​รบ. แก​กำลัง​เลี่ยง​การ​เป็น​ทหาร​โดย​แอบ​อ้าง​เหตุ​ผล​ทาง​ศาสนา.” นั่น​เป็น​คำ​กล่าวหา​ของ​ผู้​กอง​แห่ง​หน่วย​ปฏิบัติการ​ต่อ​ต้าน​การ​จาร​กรรม​ขณะ​ที่​ผม​ยืน​ต่อ​หน้า​เขา​ใน​เดือน​มิถุนายน 1953 เป็น​เวลา​กว่า 55 ปี​มา​แล้ว.

เหตุ​การณ์​นี้​เกิด​ขึ้น​ระหว่าง​สงคราม​เกาหลี. ผู้​กอง​ดึง​เอา​ปืน​ออก​มา​และ​วาง​มัน​ไว้​บน​โต๊ะ​ของ​เขา. เขา​บอก​ว่า “เอา​ล่ะ แก​ต้อง​ตาย​ที่​นี่​แทน​ที่​จะ​ตาย​ใน​แนว​หน้า. แก​จะ​เปลี่ยน​ใจ​ไหม?”

ผม​ตอบ​อย่าง​หนักแน่น​ว่า “ไม่​เปลี่ยน.” ถึง​ตอน​นี้ ผู้​กอง​ได้​สั่ง​นาย​ทหาร​ให้​เตรียม​ประหาร​ผม.

ผม​ประสบ​กับ​เรื่อง​นี้​เพราะ​ผม​ถูก​เกณฑ์​ทหาร​แต่​ได้​ปฏิเสธ. ขณะ​ที่​เรา​รอ ผม​บอก​ผู้​กอง​ว่า​ผม​ได้​อุทิศ​ชีวิต​ของ​ผม​ให้​กับ​พระเจ้า​แล้ว ผม​จึง​เชื่อ​ว่า​เป็น​การ​ผิด​ที่​ผม​จะ​สละ​ชีวิต​ให้​กับ​สิ่ง​อื่น​นอก​เหนือ​จาก​การ​รับใช้​พระเจ้า. จาก​นั้น​เวลา​ผ่าน​ไป​สอง​สาม​นาที​โดย​ที่​ไม่​มี​ใคร​พูด​อะไร. ไม่​นาน​นัก นาย​ทหาร​ก็​กลับ​มา​รายงาน​ว่า​การ​เตรียม​สำหรับ​การ​ประหาร​ผม​พร้อม​แล้ว.

ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ใน​เกาหลี​ใต้​ตอน​นั้น​แทบ​ไม่​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ยิ่ง​ไม่​รู้​อะไร​เลย​เกี่ยว​กับ​การ​ปฏิเสธ​โดย​อาศัย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​พวก​เรา​ที่​จะ​เข้า​ส่วน​ใน​กิจกรรม​ทาง​ทหาร​ไม่​ว่า​ของ​รัฐบาล​ใด. ก่อน​ที่​ผม​จะ​เล่า​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ต่อ​ไป ขอ​ให้​ผม​เล่า​ถึง​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ผม​ตัดสิน​ใจ​ตาม​ที่​ได้​บอก​กับ​ผู้​กอง.

ชีวิต​วัย​เด็ก

ผม​เกิด​ใน​เดือน​ตุลาคม 1930 เป็น​ลูก​คน​โต​ของ​ครอบครัว​ใน​เมือง​หนึ่ง​ใกล้​กรุง​โซล​ซึ่ง​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ​เกาหลี. ปู่​ของ​ผม​เป็น​ผู้​ที่​เคร่ง​ใน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​และ​ท่าน​ได้​สอน​ให้​ผม​เป็น​อย่าง​นั้น​ด้วย. ท่าน​คัดค้าน​ไม่​ให้​ผม​ได้​เรียน​หนังสือ ผม​จึง​ไม่​ได้​เข้า​โรง​เรียน​จน​กระทั่ง​ท่าน​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ผม​อายุ​ได้​สิบ​ขวบ. ต่อ​มา​ใน​ปี 1941 ญี่ปุ่น​และ​สหรัฐ​ได้​เข้า​สู่​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​โดย​อยู่​ฝ่าย​ตรง​ข้าม​กัน.

เนื่อง​จาก​เกาหลี​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​ญี่ปุ่น ทุก​เช้า​นัก​เรียน​จะ​ต้อง​เข้า​ส่วน​ใน​พิธี​สดุดี​จักรพรรดิ​ญี่ปุ่น. ป้า​และ​ลุง​ของ​ผม​ได้​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ถูก​คุม​ขัง​ใน​เกาหลี​ระหว่าง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​เพราะ​ปฏิเสธ​ที่​จะ​เข้า​ส่วน​ใน​กิจกรรม​ใด ๆ ที่​สนับสนุน​สงคราม​ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา. พวก​ญี่ปุ่น​ปฏิบัติ​ต่อ​พยาน​ฯ อย่าง​โหด​ร้าย​จน​บาง​คน​ต้อง​เสีย​ชีวิต​รวม​ทั้ง​ลุง​ของ​ผม​ด้วย. ต่อ​มา​ป้า​ของ​ผม​ก็​ได้​มา​อยู่​กับ​ครอบครัว​ของ​เรา.

เกาหลี​เป็น​เอกราช​จาก​การ​ควบคุม​ของ​ญี่ปุ่น​ใน​ปี 1945. ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​ป้า​และ​พยาน​ฯ คน​อื่น​ที่​รอด​จาก​การ​คุม​ขัง ผม​ได้​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​จริงจัง​และ​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ปี 1947. ใน​เดือน​สิงหาคม 1949 ดอน​และ​เออลีน สตีล มิชชันนารี​รุ่น​แรก​ที่​ได้​รับ​การ​อบรม​จาก​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​มา​ยัง​เกาหลี​ก็​เดิน​ทาง​ถึง​กรุง​โซล. หลาย​เดือน​ต่อ​มา​มิชชันนารี​คน​อื่น ๆ ก็​ตาม​มา.

ใน​วัน​ที่ 1 มกราคม 1950 ผม​กับ​พยาน​ฯ เกาหลี​อีก​สาม​คน​ได้​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่​เรียก​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. พวก​เรา​เป็น​ไพโอเนียร์​รุ่น​แรก​ใน​เกาหลี​หลัง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง.

ชีวิต​ระหว่าง​สงคราม​เกาหลี

ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ได้​เกิด​สงคราม​ระหว่าง​เกาหลี​เหนือ​กับ​เกาหลี​ใต้​ใน​วัน​อาทิตย์​ที่ 25 มิถุนายน 1950. ใน​เวลา​นั้น ทั้ง​เกาหลี​มี​ประชาคม​พยาน​ฯ เพียง​แห่ง​เดียว​เท่า​นั้น​โดย​มี​พวก​เรา 61 คน​ด้วย​กัน​ใน​กรุง​โซล. สถาน​ทูต​สหรัฐ​ได้​ขอร้อง​ให้​มิชชันนารี​ทุก​คน​ออก​จาก​ประเทศ​เพื่อ​ความ​ปลอด​ภัย. พยาน​ท้องถิ่น​ส่วน​ใหญ่​ก็​ออก​จาก​กรุง​โซล​ด้วย​และ​กระจัด​กระจาย​กัน​ไป​ทาง​ใต้​ของ​ประเทศ.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม รัฐบาล​เกาหลี​ใต้​ได้​ห้าม​ชาย​หนุ่ม​ใน​วัย​เกณฑ์​ทหาร​เช่น​ผม​ไม่​ให้​ออก​จาก​กรุง​โซล. ทันใด​นั้น​กอง​กำลัง​คอมมิวนิสต์​ได้​รุก​เข้า​มา​ใน​เมือง​และ​กรุง​โซล​ก็​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ควบคุม​ของ​ทหาร​คอมมิวนิสต์. แม้​กระทั่ง​ระหว่าง​เวลา​นั้น เมื่อ​ผม​ต้อง​ซ่อน​ตัว​ใน​ห้อง​เล็ก ๆ เป็น​เวลา​สาม​เดือน​ผม​ก็​ยัง​สามารถ​ให้​คำ​พยาน​กับ​ผู้​คน​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ยก​ตัว​อย่าง ผม​พบ​ครู​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ซ่อน​ตัว​จาก​พวก​คอมมิวนิสต์​เหมือน​กัน. ใน​ที่​สุด​เขา​ได้​มา​อยู่​ใน​ห้อง​เล็ก ๆ ห้อง​เดียว​กัน​กับ​ผม​และ​ผม​ได้​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เขา​ทุก​วัน. ใน​เวลา​ต่อ​มา เขา​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ต่อ​มา​ทหาร​คอมมิวนิสต์​เกาหลี​เหนือ​ได้​พบ​พวก​เรา​ใน​ที่​ซ่อน. เรา​แสดง​ตัว​เป็น​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​อธิบาย​คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ให้​กับ​พวก​เขา. เรา​รู้สึก​แปลก​ใจ​ที่​พวก​เขา​ไม่​ได้​จับ​กุม​เรา​แต่​กลับ​แสดง​ความ​สนใจ​ใน​ข่าวสาร​จาก​พระ​คัมภีร์. ที่​จริง พวก​เขา​บาง​คน​ถึง​กับ​กลับ​มา​อีก​สอง​สาม​ครั้ง​และ​ต้องการ​ได้​ยิน​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ประสบการณ์​นี้​ได้​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​เรื่อง​การ​คุ้มครอง​ของ​พระ​ยะโฮวา.

หลัง​จาก​กอง​กำลัง​สหประชาชาติ​ได้​กลับ​เข้า​ยึด​กรุง​โซล ผม​ได้​รับ​อนุญาต​เป็น​พิเศษ​ให้​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เมือง​เด​กู​ใน​เดือน​มีนาคม 1951. ที่​นั่น​ผม​สามารถ​ทำ​งาน​เผยแพร่​พร้อม​กับ​พี่​น้อง​พยาน​ฯ เป็น​เวลา​หลาย​เดือน. ต่อ​มา ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1951 ก่อน​สงคราม​ยุติ ดอน สตีล ก็​กลับ​มา​เกาหลี.

ผม​ช่วย​เขา​ใน​การ​จัด​ระเบียบ​การ​ทำ​งาน​ประกาศ​เผยแพร่​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. หอสังเกตการณ์ และ​พระ​ราชกิจ​ของ​เรา ซึ่ง​ได้​ให้​คำ​แนะ​นำ​แก่​พยาน​ฯ ที่​จะ​ทำ​การ​ประกาศ​ต่อ ๆ ไป ต้อง​ได้​รับ​การ​แปล, พิมพ์, และ​อัดสำเนา​เป็น​ภาษา​เกาหลี. สิ่ง​พิมพ์​นี้​ได้​ส่ง​ไป​ยัง​ประชาคม​ต่าง ๆ ซึ่ง​ใน​ตอน​นั้น​กระจาย​กัน​ใน​หลาย ๆ เมือง. ผม​และ​ดอน​ได้​เดิน​ทาง​ร่วม​กัน​เพื่อ​เยี่ยม​และ​ให้​การ​หนุน​ใจ​ประชาคม​เหล่า​นั้น​เป็น​ครั้ง​คราว.

ใน​เดือน​มกราคม 1953 ผม​ตื่นเต้น​ที่​ได้​รับ​จดหมาย​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​ใน​นิวยอร์ก​เพื่อ​รับ​การ​อบรม​เป็น​มิชชันนารี. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลัง​จาก​ที่​ได้​สำรอง​เที่ยว​บิน ผม​ได้​รับ​การ​แจ้ง​จาก​หน่วย​งาน​รัฐบาล​เกาหลี​ให้​ไป​รายงาน​ตัว​เข้า​รับ​ราชการ​ทหาร.

สถานการณ์​ความ​เป็น​ความ​ตาย​ของ​ผม

ที่​หน่วย​คัดเลือก ผม​ได้​อธิบาย​กับ​เจ้าหน้าที่​เรื่อง​ความ​เป็น​กลาง​ของ​ผม​และ​การ​ที่​ผม​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร. มา​ถึง​ตอน​นี้​เขา​ก็​ส่ง​ผม​ไป​ให้​กับ​หน่วย​ปฏิบัติการ​ต่อ​ต้าน​การ​จาร​กรรม​เพื่อ​สอบสวน​ว่า​ผม​เป็น​คอมมิวนิสต์​หรือ​ไม่. นั่น​เป็น​คราว​ที่​ผม​เผชิญ​สถานการณ์​ความ​เป็น​ความ​ตาย​ตาม​ที่​ได้​พูด​ถึง​ตอน​ต้น. แต่​แทน​ที่​จะ​ยิง​ผม ผู้​กอง​ก็​ยืน​ขึ้น​กะทันหัน​และ​ส่ง​ท่อน​ไม้​ให้​กับ​ทหาร​คน​หนึ่ง​และ​สั่ง​ให้​ตี​ผม. แม้​จะ​รู้สึก​ทรมาน​เพราะ​ความ​เจ็บ​ปวด แต่​ผม​ก็​ดีใจ​ที่​สามารถ​ทน​ได้.

หน่วย​ต่อ​ต้าน​จาร​กรรม​ส่ง​ผม​กลับ​ไป​ยัง​หน่วย​เกณฑ์​ทหาร​ซึ่ง​พวก​นาย​ทหาร​ต่าง​เพิกเฉย​ความ​เชื่อ​ของ​ผม ยัดเยียด​หมาย​เลข​ประจำ​ตัวการ​เป็น​ทหาร​และ​ส่ง​ผม​ไป​ยัง​ศูนย์​ฝึก​อบรม​ทาง​ทหาร​บน​เกาะ​เช​จู​ใกล้​กับ​แผ่นดิน​ใหญ่​เกาหลี. เช้า​ต่อ​มา​ทหาร​เกณฑ์​ใหม่​รวม​ทั้ง​ผม​จะ​ต้อง​ปฏิญาณ​ตัว​เป็น​ทหาร. แต่​ผม​ปฏิเสธ. ด้วย​เหตุ​นั้น ผม​จึง​ถูก​พิจารณา​ใน​ศาล​ทหาร​และ​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​เป็น​เวลา​สาม​ปี.

หลาย​พัน​คน​ยืนหยัด​มั่นคง

ใน​วัน​นั้น​ที่​ผม​ควร​จะ​ได้​เดิน​ทาง​เพื่อ​ไป​รับ​การ​อบรม​เป็น​มิชชันนารี ผม​เห็น​เครื่องบิน​ลำ​หนึ่ง​บน​ฟ้า. นั่น​เป็น​เที่ยว​บิน​ที่​ผม​สำรอง​ไว้. แทน​ที่​จะ​รู้สึก​เสียใจ​เพราะ​ไม่​ได้​ไป​กิเลียด ผม​กลับ​อิ่ม​ใจ​อยู่​ลึก ๆ ที่​ผม​ได้​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ต่อ​พระ​ยะโฮวา. และ​ผม​ไม่​ใช่​พยาน​ฯ ชาว​เกาหลี​เพียง​คน​เดียว​ที่​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร. ที่​จริง พยาน​ฯ มาก​กว่า 13,000 คน​ใน​ปี​ต่อ ๆ มา​ได้​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เช่น​เดียว​กัน. เวลา​ที่​พวก​เขา​อยู่​ใน​คุก​เกาหลี​รวม​กัน​แล้ว​มาก​กว่า 26,000 ปี.

หลัง​จาก​ถูก​คุม​ขัง​เป็น​เวลา​สอง​ปี​จาก​โทษ​สาม​ปี ผม​ได้​รับ​การ​อภัยโทษ​ใน​ปี 1955 เนื่อง​จาก​เป็น​นัก​โทษ​ตัว​อย่าง​และ​ถูก​ปล่อย​ตัว. ผม​ได้​เริ่ม​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​อีก​และ​ต่อ​มา​ใน​เดือน​ตุลาคม 1956 ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​สำนักงาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เกาหลี​ใต้. ต่อ​มา​ใน​ปี 1958 ผม​ได้​รับ​การ​เชิญ​ไป​กิเลียด​อีก​ครั้ง. เมื่อ​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ผม​ถูก​มอบหมาย​ให้​กลับ​มา​ยัง​เกาหลี.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​กลับ​เกาหลี ผม​ได้​พบ​กับ อิน-ฮอน ซอง พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์ และ​เรา​ได้​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​พฤษภาคม 1962. เธอ​เติบโต​มา​ใน​ครอบครัว​ที่​นับถือ​ศาสนา​พุทธ​และ​ได้​รู้​จัก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จาก​เพื่อน​ร่วม​ชั้น. ระหว่าง​สาม​ปี​แรก​ของ​การ​สมรส เรา​ได้​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ กัน​ทุก​สัปดาห์​ด้วย​เป้าหมาย​ใน​การ​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​ของ​พี่​น้อง​คริสเตียน. ตั้ง​แต่​ปี 1965 เรา​ได้​ทำ​งาน​ที่​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​ฯ ซึ่ง​ปัจจุบัน​ตั้ง​อยู่​ห่าง​จาก​กรุง​โซล​ประมาณ 60 กิโลเมตร.

คิด​คำนึง​ถึง​การ​เปลี่ยน​แปลง

ขณะ​ที่​ผม​มอง​ย้อน​หลัง ผม​รู้สึก​ทึ่ง​ที่​ได้​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​มาก​มาย​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ประเทศ​นี้. หลัง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​และ​สงคราม​กับ​เกาหลี​เหนือ เกาหลี​ใต้​ถูก​ทำลาย​เกือบ​สิ้นเชิง. เมือง​ต่าง ๆ และ​ถนน​หน​ทาง​พัง​พินาศ. ไฟฟ้า​และ​ระบบ​ทำ​ความ​ร้อน​มี​ใช้​แบบ​เอา​แน่​เอา​นอน​ไม่​ได้​และ​บาง​ครั้ง​ไม่​มี​ใช้​เลย. และ​เศรษฐกิจ​ก็​ย่ำแย่. ใน​เวลา 50 ปี​ต่อ​มา เกาหลี​ใต้​ได้​ฟื้น​ตัว​อย่าง​น่า​ทึ่ง.

ทุก​วัน​นี้​เกาหลี​ใต้​มี​เศรษฐกิจ​ใหญ่​เป็น​อันดับ​ที่ 11 ของ​โลก. เกาหลี​ใต้​เป็น​ที่​รู้​จัก​เรื่อง​เมือง​ที่​ทัน​สมัย, ระบบ​รถไฟ​ความ​เร็ว​สูง, อุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์, และ​ความ​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​ผลิต​รถยนต์. ปัจจุบัน​เกาหลี​ใต้​เป็น​ประเทศ​ที่​ผลิต​รถยนต์​ราย​ใหญ่​เป็น​อันดับ​ห้า​ของ​โลก. แต่​สิ่ง​ที่​สำคัญ​เป็น​พิเศษ​สำหรับ​ผม​คือ​มี​การ​เคารพ​สิทธิ​มนุษยชน​ของ​ประชาชน​เกาหลี​ใต้​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​มาก.

เมื่อ​ผม​ถูก​ตัดสิน​โดย​ศาล​ทหาร​ใน​ปี 1953 รัฐบาล​เกาหลี​ไม่​เข้าใจ​ว่า​การ​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​คือ​อะไร. พวก​เรา​บาง​คน​ถูก​กล่าวหา​ว่า​เป็น​คอมมิวนิสต์​และ​เพื่อน​พยาน​ฯ บาง​คน​ถูก​ทุบ​ตี​จน​ตาย. หลาย​คน​ที่​ตอน​เป็น​หนุ่ม​ถูก​คุม​ขัง​เพราะ​ปฏิเสธ​โดย​อาศัย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ได้​เห็น​ลูก​ชาย​หรือ​แม้​กระทั่ง​หลาน​ชาย​เข้า​คุก​ด้วย​เหตุ​ผล​เดียว​กัน.

ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา สื่อมวลชน​ได้​รายงาน​ใน​แง่​ดี​เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ปฏิเสธ​เพราะ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​เข้า​ส่วน​ใน​กิจการ​ทาง​ทหาร​ไม่​ว่า​ของ​ประเทศ​ใด. ทนาย​ความ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​ฟ้อง​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ที่​ปฏิเสธ​เพราะ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ถึง​กับ​เขียน​จดหมาย​เปิด​ผนึก​ขอ​อภัย​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​ทำ และ​จดหมาย​นั้น​ได้​รับ​การ​ตี​พิมพ์​ใน​วารสาร​ฉบับ​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​อย่าง​ดี.

ผม​หวัง​ว่า​จะ​มี​การ​เคารพ​สิทธิ​ใน​การ​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ใน​เกาหลี​ใต้​เช่น​เดียว​กับ​ใน​ประเทศ​อื่น ๆ อีก​หลาย​ประเทศ. ผม​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ทาง​การ​เกาหลี​ใต้​ผ่อน​ผัน​ให้​แก่​บุคคล​ที่​มี​ความ​เชื่อ​เช่น​เดียว​กับ​ผม​และ​ยุติ​การ​ส่ง​คน​หนุ่ม​ที่​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​เนื่อง​ด้วย​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ไป​คุม​ขัง​ใน​เรือน​จำ “เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​สงบ.”—1 ติโมเธียว 2:1, 2.

ใน​ฐานะ​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า เรา​เห็น​คุณค่า​ความ​สำคัญ​ที่​จะ​สนับสนุน​สิทธิ​ของ​พระองค์​ใน​การ​เป็น​ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง​ของ​เรา. (กิจการ 5:29) ความ​ปรารถนา​จาก​หัวใจ​ของ​เรา​คือ​ที่​จะ​ทำ​ให้​พระทัย​ของ​พระองค์​ยินดี​เนื่อง​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์​ภักดี​ต่อ​พระองค์. (สุภาษิต 27:11) ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้​คน​หลาย​ล้าน​ซึ่ง​ได้​เลือก​ที่​จะ ‘วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​สุด​ใจ​ของ​เรา​และ​ไม่​พึ่ง​ใน​ความ​เข้าใจ​ของ​ตน​เอง.’—สุภาษิต 3:5, 6.

[คำ​โปรย​หน้า 13]

“เรา​รู้สึก​แปลก​ใจ​ที่​พวก​เขา​ไม่​ได้​จับ​กุม​เรา​แต่​กลับ​แสดง​ความ​สนใจ​ใน​ข่าวสาร​จาก​พระ​คัมภีร์”

[จุด​เด่น​หน้า 14]

พยาน​ฯ ชาว​เกาหลี​ได้​ใช้​เวลา 26,000 ปี​ใน​เรือน​จำ​เพราะ​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร

[ภาพ​หน้า 12]

ใน​เรือน​จำ​ทหาร​ปี 1953

[ภาพ​หน้า 15]

เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ กับ​ดอน สตีล ระหว่าง​สงคราม ปี 1952

[ภาพ​หน้า 15]

ก่อน​งาน​แต่งงาน​ของ​เรา ปี 1961

[ภาพ​หน้า 15]

ช่วย​เป็น​ผู้​แปล​ให้​กับ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง ปี 1956

[ภาพ​หน้า 15]

กับ อิน-ฮอน ซอง ใน​ปัจจุบัน