ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

พระยะโฮวา ‘ทำให้ชีวิตผมราบรื่น’

พระยะโฮวา ‘ทำให้ชีวิตผมราบรื่น’

วัยรุ่น​คน​หนึ่ง​มา​ถาม​ผม​ว่า “ลุง​ชอบ​ข้อ​คัมภีร์​ข้อ​ไหน​มาก​ที่​สุด​ครับ?” ผม​ตอบ​แบบ​ไม่​ต้อง​คิด​เลย​ว่า “สุภาษิต​บท 3 ข้อ 5 และ 6 ไง ข้อ​นั้น​บอก​ว่า ‘ขอ​ให้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​สุด​หัวใจ และ​อย่า​พึ่ง​ความ​เข้าใจ​ของ​ตัว​เอง คิด​ถึง​พระองค์​เสมอ​ไม่​ว่า​จะ​ทำ​อะไร แล้ว​พระองค์​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​ราบรื่น’” ใช่​แล้ว​ครับ พระ​ยะโฮวา ‘ทำ​ให้​ชีวิต​ผม​ราบรื่น’ จริง ๆ อยาก​รู้​ไหม​ครับ​ว่า​เรื่อง​ราว​มัน​เป็น​ยัง​ไง เดี๋ยว​ผม​จะ​เล่า​ให้​ฟัง

พ่อ​แม่​ช่วย​ผม​ให้​เดิน​ใน​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง

พ่อ​แม่​ของ​ผม​เรียน​ความ​จริง​หลัง​ปี 1920 ตอน​นั้น​พวก​เขา​ยัง​ไม่​ได้​แต่งงาน​กัน ผม​เกิด​ใน​ปี 1939 ที่​ประเทศ​อังกฤษ ผม​ไป​ประชุม​กับ​พ่อ​แม่​ตั้ง​แต่​เด็ก ๆ แล้ว​ผม​ก็​สมัคร​เข้า​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ด้วย ผม​จำ​ได้​ว่า​ครั้ง​แรก​ที่​ผม​เป็น​นัก​เรียน​ตอน​นั้น​ผม 6 ขวบ​เอง ตัว​นิด​เดียว เลย​ต้อง​ยืน​บน​กล่อง​เพื่อ​จะ​สูง​กว่า​โต๊ะ​บรรยาย ผม​ตื่นเต้น​มาก​เพราะ​มอง​ไป​ทาง​ไหน​ก็​มี​แต่​คน​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​เต็ม​ไป​หมด

ประกาศ​ตาม​ถนน​กับ​พ่อ​แม่​ของ​ผม

ตอน​ไป​ประกาศ พ่อ​จะ​พิมพ์​บัตร​เล็ก ๆ ที่​มี​ข้อ​ความ​สั้น ๆ ง่าย ๆ ให้​ผม​เอา​ไว้​ไป​ยื่น​ให้​เจ้า​ของ​บ้าน​อ่าน ตอน 8 ขวบ​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ผม​ไป​คุย​กับ​เจ้า​ของ​บ้าน​เอง ตอน​นั้น​ผม​ยื่น​บัตร​ให้​กับ​เจ้า​ของ​บ้าน เขา​ก็​อ่าน แถม​ยัง​ขอ​หนังสือ “จง​ให้​พระเจ้า​เป็น​องค์​สัตย์​จริง” ด้วย ผม​ดีใจ​มาก​แล้ว​ก็​รีบ​วิ่ง​กลับ​ไป​บอก​พ่อ ผม​ชอบ​ไป​ประกาศ​และ​ไป​ประชุม​มาก​เลย​ครับ มัน​ทำ​ให้​ผม​อยาก​รับใช้​เต็ม​เวลา

หลัง​จาก​ที่​พ่อ​บอกรับ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ให้​ผม​ทุก​เดือน ผม​ก็​เริ่ม​รัก​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ผม​ชอบ​อ่าน​หอ​ฯ มาก พอ​เล่ม​ใหม่​มา​เมื่อไหร่​ผม​ก็​อ่าน​ทันที​เลย​ครับ ผม​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​อุทิศ​ตัว​ให้​กับ​พระองค์

ใน​ปี 1950 ครอบครัว​ของ​เรา​ไป​ประชุม​ใหญ่​การ​เพิ่ม​พูน​แห่ง​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ที่​นิวยอร์ก หัวเรื่อง​การ​ประชุม​ของ​วัน​พฤหัสบดี​ที่ 30 สิงหาคม​ก็​คือ “วัน​มิชชันนารี” วัน​นั้น​พี่​น้อง​แครีย์ บาร์เบอร์​ที่​ต่อ​มา​รับใช้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​บรรยาย​คำ​บรรยาย​รับ​บัพติศมา พอ​เขา​ถาม​ผู้​รับ​บัพติศมา 2 คำ​ถาม ผม​ก็​ยืน​ขึ้น​แล้ว​ก็​ตอบ​ว่า “ใช่!” ตอน​นั้น​ผม​อายุ​แค่ 11 แต่​ผม​ก็​รู้​ว่า​ผม​กำลัง​ทำ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​มาก ตอน​จะ​รับ​บัพติศมา ผม​กลัว​มาก​เพราะ​ผม​ยัง​ว่าย​น้ำ​ไม่​เป็น อา​เป็น​คน​พา​ผม​มา​ที่​สระ​แล้ว​เขา​ก็​บอก​กับ​ผม​ว่า​ไม่​ต้อง​กลัว เดี๋ยว​ทุก​อย่าง​จะ​โอ​เค ตอน​ที่​อยู่​ใน​สระ ทุก​อย่าง​มัน​เกิด​ขึ้น​เร็ว​มาก​ครับ เท้า​ของ​ผม​ยัง​ไม่​ทัน​แตะ​พื้น​สระ​เลย​ด้วย​ซ้ำ​ผม​ก็​รับ​บัพติศมา​เสร็จ​แล้ว พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​เป็น​คน​จุ่ม​ตัว​ผม​แล้ว​ก็​ส่ง​ไป​ให้​อีก​คน​หนึ่ง​ดึง​ผม​ขึ้น​จาก​สระ วัน​นั้น​เป็น​วัน​สำคัญ​มาก​ใน​ชีวิต​ของ​ผม ตั้ง​แต่​วัน​นั้น​เป็น​ต้น​มา พระ​ยะโฮวา​ก็​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ผม​ราบรื่น

เลือก​ที่​จะ​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา

ตอน​ที่​ผม​เรียน​จบ ผม​อยาก​เป็น​ไพโอเนียร์ แต่​ครู​ก็​กดดัน​ให้​ผม​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย ผม​ก็​เลย​เรียน​ต่อ แต่​หลัง​จาก​ที่​เรียน​ได้​ไม่​นาน ผม​ก็​ได้​รู้​ว่า​ผม​จะ​พยายาม​ตั้งใจ​เรียน​และ​ยัง​เข้มแข็ง​ใน​ความ​จริง​ไป​พร้อม ๆ กัน​ไม่​ได้ ผม​เลย​ตัดสิน​ใจ​ที่​จะ​ลา​ออก ผม​อธิษฐาน​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​พระ​ยะโฮวา แล้ว​ผม​ก็​เขียน​จดหมาย​บอก​กับ​อาจารย์​ว่า​ผม​ขอ​ลา​ออก​ตอน​จบ​ปี 1 ตอน​ที่​ผม​ออก​จาก​มหาวิทยาลัย ผม​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ที่​และ​ก็​เริ่ม​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ทันที

ผม​เริ่ม​รับใช้​เต็ม​เวลา​ใน​เดือน​กรกฎาคม​ปี 1957 ที่​เมือง​เวล​ลิง​โบ​โร่ ผม​ถาม​เบเธล​ลอนดอน​ว่า​มี​พี่​น้อง​ไพโอเนียร์​ที่​มี​ประสบการณ์​คน​ไหน​บ้าง​ที่​ผม​จะ​ไป​รับใช้​คู่​กับ​เขา​ได้ ผม​ได้​รับใช้​กับ​พี่​น้อง​เบิร์ต ไวเซย์ เขา​สอน​ผม​หลาย​อย่าง​เลย​ครับ เขา​เป็น​พี่​น้อง​ที่​ขยัน​ประกาศ​มาก​แล้ว​ก็​ช่วย​ให้​ผม​มี​ตาราง​รับใช้​ที่​ดี ใน​ประชาคม​ของ​เรา​มี​แค่​ผม พี่​น้อง​เบิร์ต แล้ว​ก็​พี่​น้อง​หญิง​สูง​อายุ​อีก 6 คน การ​ที่​ผม​ได้​เตรียม​และ​มี​ส่วน​ใน​การ​ประชุม​ทุก​ครั้ง​ทำ​ให้​ผม​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น และ​พอ​ผม​ได้​ตอบ​บ่อย ๆ ผม​ก็​เลย​มี​โอกาส​เยอะ​มาก​ที่​จะ​ได้​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​ตัว​เอง

ผม​ต้อง​ติด​คุก​อยู่​ช่วง​สั้น ๆ เพราะ​ไม่​ยอม​เป็น​ทหาร พอ​ผม​ออก​มา​ก็​ได้​เจอ​กับ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​คน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​บาร์บารา แล้ว​เรา​ก็​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1959 เรา​พร้อม​ที่​จะ​ไป​รับใช้​ที่​ไหน​ก็​ได้​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย ที่​แรก​ที่​เรา​ไป​ก็​คือ​เมือง​แลงคาเชียร์​ที่​อยู่​ตะวัน​ตก​เฉียง​เหนือ​ของ​ประเทศ​อังกฤษ ใน​เดือน​มกราคม​ปี 1961 ผม​ถูก​เชิญ​ให้​เข้า​โรง​เรียน​พระ​ราชกิจ​ที่​เบเธล​ลอนดอน​เป็น​เวลา 1 เดือน พอ​เรียน​จบ ผม​ตกใจ​มาก​ที่​ถูก​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​เดิน​หมวด ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​จาก​ผู้​ดู​แล​หมวด​ที่​มี​ประสบการณ์​ใน​เมือง​เบอร์มิงแฮม​เป็น​เวลา 2 อาทิตย์​และ​บาร์บารา​ก็​ได้​เข้า​ด้วย หลัง​จาก​นั้น​ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​กลับ​ไป​เดิน​หมวด​ที่​แลงคาเชียร์​และ​เชสเชียร์

ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา​มี​ผล​ดี​เสมอ

ใน​เดือน​สิงหาคม​ปี 1962 ตอน​ที่​เรา​กำลัง​ลา​พัก​ร้อน​อยู่ เรา​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​เบเธล ใน​นั้น​มี​ใบ​สมัคร​โรง​เรียน​กิเลียด​ด้วย หลัง​จาก​ที่​เรา​อธิษฐาน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ เรา​ก็​กรอก​ใบ​สมัคร​แล้ว​ก็​รีบ​ส่ง​ไป​ที่​เบเธล ห้า​เดือน​ต่อ​มา​เรา​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ที่​บรุกลิน นิวยอร์ก​เพื่อ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​ชั้น​เรียน​ที่ 38 ซึ่ง​เป็น​หลัก​สูตร​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ใช้​เวลา 10 เดือน

โรง​เรียน​กิเลียด​ไม่​ได้​สอน​เรา​แค่​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​องค์การ​เท่า​นั้น แต่​ยัง​สอน​เกี่ยว​กับ​พี่​น้อง​ทั่ว​โลก​ด้วย ตอน​นั้น​เรา​อายุ​แค่ 20 กว่า ๆ แต่​ก็​ได้​เรียน​หลาย​อย่าง​จาก​พี่​น้อง​ที่​อยู่​ใน​ชั้น​เรียน ผม​ได้​ทำ​งาน​มอบหมาย​ของ​เบเธล​กับ​พี่​น้อง​เฟรด รัสก์​ซึ่ง​เป็น​ผู้​สอน​ใน​โรง​เรียน​กิเลียด​คน​หนึ่ง ผม​รู้สึก​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​มาก​เลย​ครับ​ที่​ได้​ทำ​งาน​กับ​เขา​ทุก​วัน เรื่อง​หนึ่ง​ที่​เขา​เน้น​มาก​ก็​คือ ทุก​ครั้ง​ที่​เรา​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใคร เรา​ต้อง​มั่น​ใจ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​นั้น​ถูก​ต้อง​ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​นั้น​ต้อง​มา​จาก​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ใน​ช่วง​ที่​เรียน​มี​พี่​น้อง​ที่​มี​ประสบการณ์​หลาย​คน​มา​บรรยาย​ให้​เรา​ฟัง เช่น พี่​น้อง​นาธาน นอร์ พี่​น้อง​เฟรเดอริก แฟรนซ์ แล้ว​ก็​มี​พี่​น้อง​คาร์ล ไคลน์​ด้วย และ​เรา​ยัง​ได้​เรียน​จาก​ความ​ถ่อม​ของ​พี่​น้อง​อเล็กซานเดอร์ แมกมิลแลน เขา​มา​บรรยาย​และ​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ชี้​นำ​คน​ของ​พระองค์​ให้​ผ่าน​การ​ทดสอบ​ยัง​ไง​ใน​ช่วง​ปี 1914 ถึง​ช่วง​ต้น​ปี 1919

เปลี่ยน​งาน​มอบหมาย

พอ​ใกล้​เรียน​จบ พี่​น้อง​นอร์​ก็​บอก​เรา​สอง​คน​ว่า​เรา​จะ​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ใน​ประเทศ​บุรุนดี​ใน​แอฟริกา พอ​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น เรา​ก็​รีบ​ไป​ที่​ห้อง​สมุด​ของ​เบเธล เรา​พยายาม​ไป​ค้น​ดู​ใน​หนังสือ​ประจำ​ปี ว่า​ใน​ประเทศ​บุรุนดี​มี​พี่​น้อง​กี่​คน แต่​เรา​ก็​ไม่​เจอ​เลย เรา​ต้อง​ไป​ใน​ทวีป​ที่​เรา​แทบ​จะ​ไม่​รู้​จัก​และ​ใน​เขต​ที่​ไม่​เคย​มี​ใคร​ไป​ประกาศ​มา​ก่อน ตอน​แรก​เรา​กังวล​มาก​เลย​ครับ แต่​พอ​เรา​อธิษฐาน เรา​ก็​รู้สึก​สบาย​ใจ​ขึ้น

งาน​มอบหมาย​ที่​บุรุนดี​เป็น​อะไร​ที่​ใหม่​มาก​สำหรับ​เรา มี​หลาย​อย่าง​เลย​ที่​เรา​ไม่​คุ้น​เคย​ทั้ง​อากาศ ทั้ง​วัฒนธรรม และ​ก็​ภาษา เรา​ต้อง​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส และ​เรา​ยัง​มี​ปัญหา​อื่น ๆ อีก เช่น เรื่อง​ที่​พัก แต่​หลัง​จาก​ที่​เรา​ไป​ถึง​ได้ 2 วัน พี่​น้อง​แฮร์รี อาร์นอตต์ นัก​เรียน​กิเลียด​ชั้น​เดียว​กัน​กับ​เรา​ก็​แวะ​มา​เยี่ยม​เรา​ก่อน​ที่​เขา​จะ​กลับ​ไป​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​แซมเบีย เขา​ช่วย​เรา​หา​อพาร์ตเมนต์ และ​ใน​ที่​สุด​ที่​นั่น​ก็​เป็น​บ้าน​มิชชันนารี​หลัง​แรก​ของ​เรา แต่​ไม่​นาน​หลัง​จาก​ที่​เรา​อยู่​ที่​นั่น พวก​เจ้าหน้าที่​รัฐบาล​ก็​ต่อ​ต้าน​เรา​ทั้ง ๆ ที่​พวก​เขา​ไม่​รู้​อะไร​เลย​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา พอ​เรา​เริ่ม​มี​ความ​สุข​กับ​การ​รับใช้​ที่​นั่น พวก​เจ้าหน้าที่​ก็​มา​บอก​กับ​เรา​ว่า​เรา​จะ​อยู่​ที่​นั่น​ต่อ​ไป​ไม่​ได้​ถ้า​เรา​ไม่​มี​ใบ​อนุญาต​ทำ​งาน เรา​รู้สึก​เสียใจ​จริง ๆ ที่​เรา​ต้อง​ออก​จาก​บุรุนดี เรา​ต้อง​ย้าย​ไป​อีก​ประเทศ​หนึ่ง​คือ​ยูกันดา

ตอน​ที่​ไป​ยูกันดา เรา​กังวล​มาก​เพราะ​ไม่​มี​วีซ่า แต่​เรา​ก็​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา พี่​น้อง​แคนาดา​ที่​รับใช้​อยู่​ที่​นั่น​ช่วย​คุย​กับ​เจ้าหน้าที่​กอง​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ให้​เรา และ​เจ้าหน้าที่​ก็​อนุญาต​ให้​เรา​อยู่​ที่​นั่น​ต่อ 2-3 เดือน​จน​กว่า​จะ​ได้​วีซ่า เรา​เห็น​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เรา​จริง ๆ

ยูกันดา​ไม่​เหมือน​กับ​บุรุนดี​เลย ถึง​ที่​นั่น​จะ​มี​พยาน​ฯ แล้ว แต่​ทั้ง​ประเทศ​ก็​มี​พยาน​ฯ แค่ 28 คน​เท่า​นั้น ตอน​ที่​ไป​ประกาศ เรา​เจอ​หลาย​คน​ที่​พูด​ภาษา​อังกฤษ​ได้ แต่​ที่​นั่น​มี​ภาษา​พื้นเมือง​เยอะ​มาก ต่อ​มา​เรา​รู้​ว่า​เพื่อ​จะ​ช่วย​คน​ที่​นั่น​ให้​ก้าว​หน้า​ใน​ความ​จริง​ได้ เรา​ต้อง​เรียน​ภาษา​พื้นเมือง​อย่าง​น้อย​ซัก​ภาษา​หนึ่ง เรา​เริ่ม​ประกาศ​ที่​เมือง​กัมปาลา คน​ส่วน​ใหญ่​ที่​นั่น​พูด​ภาษา​ลู​กันดา เรา​ก็​เลย​ตัดสิน​ใจ​เรียน​ภาษา​นี้ ถึง​จะ​ต้อง​ใช้​เวลา​หลาย​ปี​กว่า​จะ​พูด​เก่ง​แต่​มัน​ช่วย​ให้​งาน​ประกาศ​เกิด​ผล​ดี​กว่า​เดิม​เยอะ​จริง ๆ เรา​เข้าใจ​นัก​ศึกษา​มาก​ขึ้น​และ​รู้​ว่า​ต้อง​สอน​อะไร​พวก​เขา และ​นัก​ศึกษา​ก็​กล้า​เล่า​ความ​รู้สึก​ให้​เรา​ฟัง​ว่า​เขา​รู้สึก​ยัง​ไง​กับ​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน

เดิน​ทาง​ไป​หลาย​ที่

การ​เดิน​ทาง​ของ​เรา​ใน​ช่วง​ที่​อยู่​ที่​ยูกันดา

นอก​จาก​เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ช่วย​หลาย​คน​ให้​เรียน​รู้​ความ​จริง​แล้ว เรา​ยัง​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ที่​เรา​ไม่​ได้​คิด​มา​ก่อน เรา​ได้​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด สาขา​เคนยา​ให้​เรา​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​ประเทศ​เพื่อ​จะ​ดู​ว่า​จะ​ส่ง​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ไป​เปิด​เขต​ที่​ไหน​บ้าง หลาย​ครั้ง​เรา​เจอ​ชาว​บ้าน​ที่​ไม่​เคย​เจอ​พยาน​ฯ มา​ก่อน พวก​เขา​มี​น้ำใจ​มาก พวก​เขา​ต้อนรับ​เรา​และ​ถึง​กับ​ทำ​กับ​ข้าว​ให้​เรา​ด้วย

มี​ครั้ง​หนึ่ง​ผม​นั่ง​รถไฟ 2 วัน​จาก​กัมปาลา​ไป​ที่​มอมบาซา​ประเทศ​เคนยา แล้ว​ก็​ต่อ​เรือ​ไป​หมู่​เกาะ​เซเชลส์​ซึ่ง​อยู่​ใน​มหาสมุทร​อินเดีย หลัง​จาก​นั้น​ตั้ง​แต่​ปี 1965 จน​ถึง​ปี 1972 บาร์บารา​ก็​ไป​เยี่ยม​หมวด​ที่​เซเชลส์​กับ​ผม​ด้วย ตอน​แรก​ที่​นั่น​มี​ผู้​ประกาศ​แค่ 2 คน จาก​นั้น​ก็​กลาย​เป็น​กลุ่ม แล้ว​ก็​เป็น​ประชาคม และ​ผม​ก็​ได้​เดิน​ทาง​ไป​เยี่ยม​พี่​น้อง​ที่​เอริเทรีย เอธิโอเปีย และ​ซูดาน​ด้วย

หลัง​จาก​ที่​มี​การ​รัฐประหาร​ที่​ยูกันดา สถานการณ์​ทาง​การ​เมือง​ที่​นั่น​ก็​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว หลาย​ปี​ต่อ​จาก​นั้น​เป็น​ช่วง​ที่​ลำบาก​มาก และ​ผม​ได้​เรียน​รู้​ว่า​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ที่​บอก​ว่า “อะไร​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์​ก็​ให้​กับ​ซีซาร์” (มก. 12:17) ตอน​นั้น​คน​ต่าง​ชาติ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ที่​ยูกันดา​ต้อง​ไป​ลง​ทะเบียน​ที่​สถานี​ตำรวจ​ที่​ใกล้​บ้าน​ที่​สุด เรา​ก็​ทำ​ทันที 2-3 วัน​ต่อ​มา​ผม​กับ​เพื่อน​มิชชันนารี​ขับ​รถ​ผ่าน​เมือง​กัมปาลา​แล้ว​ก็​ถูก​ตำรวจ​นอก​เครื่อง​แบบ​โบก​ให้​หยุด เรา​สอง​คน​หัวใจ​เต้น​แรง​มาก พวก​เขา​หา​ว่า​เรา​เป็น​สาย​ลับ​แล้ว​ก็​พา​เรา​ไป​ที่​สถานี​ตำรวจ เรา​พยายาม​อธิบาย​ว่า​เรา​เป็น​มิชชันนารี​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​ผิด​และ​ก็​ลง​ทะเบียน​แล้ว แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​ฟัง​เลย แล้ว​เรา​ก็​ถูก​พา​ตัว​ไป​ที่​สถานี​ตำรวจ​ใกล้​บ้าน​มิชชันนารี แต่​พอ​ไป​ถึง เรา​ดีใจ​มาก​ที่​เจอ​กับ​ตำรวจ​ที่​เรา​เคย​เจอ​ตอน​ที่​ลง​ทะเบียน​ก่อน​หน้า​นี้ เขา​จำ​เรา​ได้ แล้ว​ก็​สั่ง​ให้​ปล่อย​เรา

ใน​ช่วง​นั้น​พวก​ทหาร​ตั้ง​ด่าน​เต็ม​ไป​หมด และ​ตอน​ที่​เรา​เจอ​ด่าน​เรา​รู้สึก​เครียด​มาก โดย​เฉพาะ​ตอน​ที่​พวก​ทหาร​ที่​กำลัง​เมา​อยู่​โบก​ให้​เรา​หยุด ทุก​ครั้ง​ที่​เรา​เจอ​ด่าน​เรา​จะ​อธิษฐาน มัน​ช่วย​ให้​เรา​สงบ​ใจ แล้ว​เรา​ก็​ผ่าน​ด่าน​พวก​นั้น​ได้​อย่าง​ปลอด​ภัย​ตลอด เรา​เสียใจ​มาก​ที่​ใน​ปี 1973 มิชชันนารี​ทุก​คน​ต้อง​ออก​จาก​ประเทศ​ยูกันดา

อัดสำเนา​งาน​รับใช้​พระเจ้า ตอน​อยู่​ที่​อา​บิด​จัน​ประเทศ​โกตดิวัวร์

เรา​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ใหม่​อีก​แล้ว​ครับ ตอน​นี้​เรา​ต้อง​ไป​ประเทศ​โกตดิวัวร์​ที่​อยู่​ใน​แอฟริกา​ตะวัน​ตก เรา​ต้อง​ปรับ​ตัว​หลาย​อย่าง​เลย​ครับ เรา​ต้อง​เรียน​รู้​วัฒนธรรม​ใหม่ ต้อง​กลับ​ไป​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ตลอด​เวลา​อีก​ครั้ง แล้ว​ก็​ต้อง​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​เพื่อน​มิชชันนารี​คน​อื่น ๆ ที่​มา​จาก​หลาย ๆ ประเทศ​ด้วย นี่​เป็น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ครับ​ที่​เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​คน​ถ่อม​และ​คน​ที่​หัวใจ​ดี​ที่​นั่น​ให้​ฟัง​ความ​จริง​และ​ก้าว​หน้า​อย่าง​รวด​เร็ว เรา​สอง​คน​เห็น​ชัด​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​ราบรื่น

แล้ว​อยู่​ดี ๆ บาร์บารา​ก็​ตรวจ​เจอ​ว่า​เป็น​โรค​มะเร็ง มัน​ทำ​ให้​เรา​ต้อง​กลับ​ไป​รักษา​ตัว​ที่​ยุโรป​อยู่​หลาย​ครั้ง แต่​พอ​ถึง​ปี 1983 เรา​ก็​เริ่ม​รู้​ว่า​เรา​คง​รับใช้​ต่อ​ไป​ที่​แอฟริกา​ไม่​ไหว​แล้ว เรา​สอง​คน​เสียใจ​มาก

ชีวิต​ที่​เปลี่ยน​ไป

แล้ว​เรา​ก็​กลับ​ไป​รับใช้​ที่​เบเธล​ลอนดอน อาการ​ของ​บาร์บารา​แย่​ลง แล้ว​เธอ​ก็​จาก​ผม​ไป ครอบครัว​เบเธล​ช่วย​ผม​เยอะ​มาก​เลย​ครับ โดย​เฉพาะ​มี​สามี​ภรรยา​คู่​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ผม​ให้​ปรับ​ตัว​และ​ยัง​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​ไป​ได้ แล้ว​ผม​ก็​ได้​เจอ​กับ​แอน พี่​น้อง​ที่​ทำ​งาน​อาสา​สมัคร​ไป​กลับ​เบเธล เธอ​เคย​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​และ​เธอ​ก็​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1989 แล้ว​เรา​ก็​รับใช้​ที่​เบเธล​ด้วย​กัน​ตั้ง​แต่​นั้น​เป็น​ต้น​มา

ผม​กับ​แอน​ยืน​อยู่​หน้า​เบเธล​สาขา​บริเตน​ที่​กำลัง​ก่อ​สร้าง

ตั้ง​แต่​ปี 1995 ถึง 2018 ผม​รู้สึก​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​มาก​ที่​ได้​ทำ​งาน​รับใช้​เป็น​ตัว​แทน​จาก​สำนักงาน​ใหญ่ (ที่​เมื่อ​ก่อน​เรียก​ว่า​ผู้​ดู​แล​โซน) ผม​มี​โอกาส​ได้​ไป​เยี่ยม​เกือบ 60 ประเทศ ทุก​ครั้ง​ที่​ผม​ไป​เยี่ยม​ที่​ต่าง ๆ ผม​ได้​เจอ​กับ​พี่​น้อง​หลาย​คน​ที่​ทำ​ให้​ผม​เห็น​หลักฐาน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดู​แล​ผู้​รับ​ใช้​ของ​พระองค์​จริง ๆ ไม่​ว่า​ชีวิต​ของ​พวก​เขา​จะ​เป็น​ยัง​ไง

ใน​ปี 2017 ผม​ได้​มี​โอกาส​กลับ​ไป​เยี่ยม​ที่​แอฟริกา​อีก​ครั้ง ผม​ดีใจ​มาก​เลย​ครับ​ที่​ได้​พา​แอน​ไป​บุรุนดี​เป็น​ครั้ง​แรก เรา​สอง​คน​ทึ่ง​มาก​กับ​ความ​ก้าว​หน้า​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​เขต​นี้ ตอนนี้​เบเธล​ตั้ง​อยู่​บน​ถนน​ที่​ผม​เคย​ไป​ประกาศ​ใน​ช่วง​ปี 1964 ทั่ว​ทั้ง​ประเทศ​มี​ผู้​ประกาศ​มาก​กว่า 15,500 คน

ตอน​ที่​ได้​รับ​ตาราง​การ​เยี่ยม​ของ​ปี 2018 ผม​ดีใจ​มาก​เลย​ครับ​เพราะ​ว่า​หนึ่ง​ใน​ประเทศ​ที่​เรา​ต้อง​ไป​เยี่ยม​ก็​คือ​โกตดิวัวร์ พอ​เรา​ไป​ถึง​อา​บิด​จัน​เมือง​ที่​ใหญ่​ที่​สุด​ของ​ที่​นั่น ผม​ก็​รู้สึก​เหมือน​ได้​กลับ​บ้าน พอ​เรา​ไป​ถึง​เบเธล ผม​ก็​ดู​ราย​ชื่อ​และ​เบอร์​โทร​ของ​พี่​น้อง​เบเธล แล้ว​ผม​ก็​เห็น​ว่า​คน​ที่​พัก​อยู่​ห้อง​ข้าง ๆ ผม​ชื่อ​ว่า​โซ​ซู ผม​จำ​ได้​ว่า​เขา​เคย​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​นคร *ที่​อา​บิด​จัน แต่​ผม​เดา​ผิด นั่น​มัน​ไม่​ใช่​เขา แต่​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ต่าง​หาก​ที่​ชื่อ​ว่า​โซ​ซู​เหมือน​กัน

พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​รักษา​สัญญา​จริง ๆ ความ​ลำบาก​และ​ปัญหา​ต่าง ๆ ที่​เข้า​มา​ใน​ชีวิต​ผม​สอน​ผม​ว่า ถ้า​เรา​ไว้​ใจ​พระ​ยะโฮวา พระองค์​ก็​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​ราบรื่น ตอน​นี้​เรา​อยาก​จะ​เดิน​อยู่​ใน​ทาง​นี้​ต่อ ๆ ไป ทาง​ที่​จะ​พา​เรา​ไป​ถึง​โลก​ใหม่​ที่​มี​อนาคต​ที่​สดใส​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า—สภษ. 4:18

^ วรรค 33 ปัจจุบัน​ไม่​มี​ผู้​ดู​แล​นคร​แล้ว