เขียนโดยยอห์น 2:1-25

2  สอง​วัน​ต่อ​มา มี​งาน​แต่งงาน​ที่​เมือง​คานา​ใน​แคว้น​กาลิลี+ แม่​ของ​พระ​เยซู​ก็​อยู่​ใน​งาน​เลี้ยง​นั้น  พระ​เยซู​กับ​พวก​สาวก​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ไป​ร่วม​งาน​ด้วย  เมื่อ​เหล้า​องุ่น​ใกล้​หมด แม่​ของ​พระ​เยซู​มา​บอก​ท่าน​ว่า “ทำ​ยัง​ไง​ดี เหล้า​องุ่น​จะ​หมด​แล้ว?”  แต่​พระ​เยซู​ตอบ​เธอ​ว่า “เรา​อย่า​ไป​กังวล​เลย​แม่ ตอน​นี้​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​ผม”  แม่​ของ​ท่าน​จึง​บอก​พวก​คน​รับใช้​ว่า “พวก​คุณ​คอย​ทำ​ตาม​ที่​เขา​สั่ง​นะ”  ที่​นั่น​มี​โอ่ง​หิน​ตั้ง​อยู่ 6 ใบ​เพื่อ​ใช้​ใน​พิธี​ชำระ​ล้าง​ตาม​กฎ​ของ​ชาว​ยิว+ แต่​ละ​ใบ​จุ​น้ำ​ได้​ประมาณ 2 หรือ 3 ถัง  พระ​เยซู​บอก​พวก​คน​รับใช้​ว่า “เอา​น้ำ​ใส่​โอ่ง​ให้​เต็ม” พวก​เขา​ก็​เอา​น้ำ​ใส่​จน​เต็ม​ถึง​ปาก​โอ่ง  แล้ว​ท่าน​สั่ง​อีก​ว่า “ตัก​ไป​ให้​ผู้​ดู​แล​งาน​เลี้ยง​สิ” พวก​เขา​ก็​ทำ​ตาม  ตอน​ที่​ผู้​ดู​แล​งาน​เลี้ยง​ชิม​น้ำ​นั้น มัน​กลาย​เป็น​เหล้า​องุ่น​ไป​แล้ว เขา​ไม่​รู้​ว่า​มัน​มา​จาก​ไหน แต่​พวก​คน​รับใช้​รู้ ผู้​ดู​แล​งาน​เลี้ยง​เรียก​เจ้าบ่าว​มา 10  และ​พูด​กับ​เขา​ว่า “ใคร ๆ เขา​ก็​เอา​เหล้า​องุ่น​ดี ๆ มา​ให้​ดื่ม​ก่อน เมื่อ​แขก​เมา​แล้ว​ค่อย​เอา​ที่​ไม่​ค่อย​ดี​มา​ให้ แต่​คุณ​กลับ​เก็บ​เหล้า​องุ่น​ดี ๆ ไว้​จน​ถึง​ตอน​นี้” 11  พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก​นี้​ที่​เมือง​คานา​ใน​แคว้น​กาลิลี เพื่อ​เป็น​หลักฐาน​บอก​ฐานะ​และ​อำนาจ​ของ​ท่าน+ ทำ​ให้​พวก​สาวก​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน 12  หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ก็​ไป​เมือง​คาเปอร์นาอุม+กับ​แม่ พวก​น้อง​ชาย+ และ​พวก​สาวก แต่​พัก​อยู่​ที่​นั่น​ไม่​กี่​วัน 13  เมื่อ​ใกล้​จะ​ถึง​เทศกาล​ปัสกา+ของ​ชาว​ยิว พระ​เยซู​ก็​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม 14  พอ​เข้า​ไป​ใน​บริเวณ​วิหาร ท่าน​เห็น​คน​ขาย​วัว แกะ และ​นก​เขา+ และ​เห็น​พวก​พ่อค้า​รับ​แลก​เงิน​นั่ง​อยู่ 15  ท่าน​จึง​เอา​เชือก​มา​ทำ​เป็น​แส้​แล้ว​ไล่​คน​พวก​นั้น​รวม​ทั้ง​แกะ​และ​วัว​ออก​จาก​บริเวณ​วิหาร ท่าน​ยัง​เท​เงิน​เหรียญ​และ​คว่ำ​โต๊ะ​ของ​พวก​คน​รับ​แลก​เงิน​ด้วย+ 16  พระ​เยซู​บอก​คน​ขาย​นก​เขา​ว่า “เอา​ของ​พวก​นี้​ออก​ไป​ให้​หมด เลิก​ทำ​ให้​บ้าน​ของ​พ่อ​ผม​เป็น​ตลาด​ได้​แล้ว”+ 17  พวก​สาวก​ก็​นึก​ถึง​ข้อ​ความ​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้​ว่า “ความ​รัก​แรง​กล้า​ที่​ผม​มี​ต่อ​วิหาร​ของ​พระองค์​เป็น​เหมือน​ไฟ​ที่​ลุก​โชน”+ 18  พวก​ยิว​ต่อ​ว่า​พระ​เยซู​ว่า “คุณ​มี​สิทธิ์​อะไร​มา​ทำ​อย่าง​นี้? แสดง​หลักฐาน​ให้​เรา​ดูซิ”+ 19  พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “รื้อ​วิหาร​หลัง​นี้​ลง​มา​สิ แล้ว​ผม​จะ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ภาย​ใน 3 วัน”+ 20  พวก​ยิว​จึง​พูด​ว่า “วิหาร​หลัง​นี้​ใช้​เวลา​สร้าง​ตั้ง 46 ปี แล้ว​คุณ​จะ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ภาย​ใน 3 วัน​ได้​ยัง​ไง?” 21  แต่​ที่​จริง พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​วิหาร​ที่​หมาย​ถึง​ร่าง​กาย​ของ​ท่าน​เอง+ 22  หลัง​จาก​พระ​เยซู​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​แล้ว พวก​สาวก​ถึง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ท่าน​เคย​พูด​อย่าง​นี้+ ทำ​ให้​พวก​เขา​เชื่อ​สิ่ง​ที่​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​และ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​เคย​พูด​ไว้ 23  เมื่อ​พระ​เยซู​อยู่​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​เทศกาล​ปัสกา ท่าน​ทำ​การ​อัศจรรย์​หลาย​อย่าง ทำ​ให้​คน​มาก​มาย​เชื่อ​ศรัทธา​ใน​ชื่อ​ของ​ท่าน+ 24  แต่​พระ​เยซู​ไม่​อยาก​จะ​สนิท​กับ​พวก​เขา​มาก เพราะ​ท่าน​อ่าน​ใจ​ทุก​คน​ได้ 25  ท่าน​ไม่​ต้อง​ให้​ใคร​มา​บอก​ว่า​มนุษย์​เป็น​อย่าง​ไร เพราะ​ท่าน​รู้​ว่า​พวก​เขา​คิด​อะไร​อยู่​ใน​ใจ+

เชิงอรรถ

ข้อมูลสำหรับศึกษา

คานา: อาจ​มา​จาก​คำ​ฮีบรู คาเนห์ ที่​แปล​ว่า “ต้น​อ้อ” ดัง​นั้น ชื่อ​เมือง​นี้​น่า​จะ​หมาย​ถึง “ที่​ที่​มี​ต้น​อ้อ” มี​เฉพาะ​ยอห์น​เท่า​นั้น​ที่​พูด​ถึง​เมือง​นี้ และ​เรียก​เมือง​นี้​ว่า​เมือง​คานา​ใน​แคว้น​กาลิลี (ยน 2:11; 4:46; 21:2) ที่​เรียก​แบบ​นี้​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​อยาก​ให้​เห็น​ว่า​เมือง​นี้​เป็น​คน​ละ​เมือง​กับ​เมือง​คานาห์ (คำ​ฮีบรู คานาห์) ที่​ตั้ง​อยู่​ใน​เขต​แดน​ของ​ตระกูล​อาเชอร์ (ยชว 19:24, 28) ผู้​เชี่ยวชาญ​หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​ที่​ตั้ง​ของ​เมือง​คานา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ​เมือง​กีร์เบต คานา​ใน​ปัจจุบัน​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ​ไป​ทาง​เหนือ​ประมาณ 13 กม. ใน​เมือง​กีร์เบต คานา​มี​เนิน​เขา​ลูก​หนึ่ง​อยู่​ทาง​เหนือ​สุด​ของ​หุบเขา​เบท เนโทฟา (ที่​ราบเอลบัททุฟ) และ​บน​เนิน​เขา​นี้​มี​ซาก​หมู่​บ้าน​โบราณ​อยู่ ทุก​วัน​นี้​ยัง​มี​การ​เรียก​บริเวณ​นั้น​ใน​ภาษา​อาหรับ​ว่า คานา เอล​เจล​ลิล ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​ว่า​เมือง​คานา​ใน​แคว้น​กาลิลี และ​ใกล้​ ๆ ​บริเวณ​นั้น​ก็​เป็น​ที่​ลุ่ม​ชื้น​แฉะ​ที่​มี​ต้น​อ้อ​อยู่​เยอะ ทำ​ให้​เหมาะ​ที่​จะ​เรียก​เมือง​นั้น​ว่า​เมือง​คานา ที่​นั่น​ยัง​มี​ซาก​ของ​บ่อ​เก็บ​น้ำ​ใต้​ดิน​และ​ซาก​ปรัก​หัก​พัง​ที่​เชื่อ​กัน​ว่า​เคย​เป็น​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว (สร้าง​ขึ้น​ใน​ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 1 หรือ​ศตวรรษ​ที่ 2) นอก​จาก​นั้น ยัง​มี​การ​พบ​เศษ​ภาชนะ​ดิน​เหนียว​และ​เหรียญ​ที่​เชื่อ​กัน​ว่า​ทำ​ขึ้น​ใน​ศตวรรษ​ที่ 1 ด้วย แต่​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร​บอก​ว่า​เมือง​คานา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คือ​เมือง​คาฟ​ร์ คาน​นา ที่​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ 6.5 กม. พวก​เขา​อาจ​เชื่อ​อย่าง​นี้​เพราะ​เมือง​นี้​ตั้ง​อยู่​ใน​ที่​ที่​พวก​นัก​แสวง​บุญ​จาก​นาซาเร็ธ​สามารถ​เดิน​ทาง​ไป​ได้​ง่าย แต่​ชื่อ​ของ​เมือง​นี้​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เมือง​คานา​ใน​แคว้น​กาลิลี​ที่​พูด​ถึง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล

แม่: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ผู้​หญิง” พระ​เยซู​ใช้​คำ​ว่า “ผู้​หญิง” บ่อย​ ๆ ​เพื่อ​เรียก​แม่​ของ​ท่าน​และ​ผู้​หญิง​คน​อื่น​ ๆ (ยน 4:21) และ​ใน​หลาย​ท้อง​เรื่อง​ถือ​ว่า​เป็น​คำ​สุภาพ (มธ 15:28) ไม่​ใช่​คำ​หยาบคาย​หรือ​คำ​ที่​ไม่​แสดง​ความ​นับถือ และ​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาษา​เดิม ทูตสวรรค์​กับ​พระ​เยซู​ซึ่ง​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​แล้ว​ก็​ใช้​คำ​นี้​เรียก​มารีย์​มักดาลา​ตอน​ที่​เธอ​ร้องไห้​อยู่​หน้า​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ของ​พระ​เยซู แสดง​ว่า​คำ​นี้​ไม่​ได้​แสดง​ถึง​ความ​ก้าวร้าว​หรือ​ไม่​นับถือ (ยน 20:13, 15) ตอน​ที่​พระ​เยซู​ถูก​ตรึง​บน​เสา​ทรมาน ท่าน​ก็​ใช้​คำ​นี้​พูด​ถึง​แม่​ของ​ท่าน​เมื่อ​ฝาก​ฝัง​แม่​ไว้​กับ​อัครสาวก​ยอห์น​ที่​ท่าน​รัก (ยน 19:26) ท่าน​ทำ​แบบ​นี้​ตาม​หน้า​ที่​ของ​ลูก​ที่​บอก​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์ (อพย 20:12; ฉธบ 5:16; มธ 15:4) แหล่ง​อ้างอิง​หลาย​แหล่ง​ก็​ยืน​ยัน​ว่า​มี​การ​ใช้​คำ​ว่า “ผู้​หญิง” ใน​แบบ​ที่​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​แบบ​นี้​จริง​ ๆ

เรา​อย่า​ไป​กังวล​เลย​แม่: ตอน​ที่​มารีย์​บอก​พระ​เยซู​ว่า “ทำ​ยัง​ไง​ดี เหล้า​องุ่น​จะ​หมด​แล้ว?” (ยน 2:3) เธอ​น่า​จะ​อยาก​ขอ​ให้​พระ​เยซู​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​สังเกต​เพราะ​จน​ถึง​ตอน​นั้น​พระ​เยซู​ยัง​ไม่​เคย​ทำ​การ​อัศจรรย์​อะไร​เลย พระ​เยซู​ตอบ​แม่​ของ​ท่าน​ด้วย​สำนวน​ภาษา​เซมิติก​ที่​แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เกี่ยว​อะไร​กับ​ผม​และ​คุณ​ล่ะ?” ส่วน​ใหญ่​แล้ว​มี​การ​ใช้​สำนวน​นี้​เพื่อ​แสดง​ความ​ไม่​เห็น​ด้วย แต่​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​จริง​ ๆ ​ก็​ต้อง​ดู​ตาม​ท้อง​เรื่อง ถึง​แม้​บาง​ครั้ง​สำนวน​นี้​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​เกลียด​ชัง​และ​ขับ​ไล่​ไส​ส่ง (มธ 8:29; มก 1:24; 5:7; ลก 4:34; 8:28) แต่​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​การ​ปฏิเสธ​อย่าง​นุ่มนวล (ตัว​อย่าง​การ​ใช้​สำนวน​นี้​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​เพื่อ​ปฏิเสธ​อย่าง​นุ่มนวล​อยู่​ที่ 2​ซม 16:9, 10 และ 1​พก 17:18) คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ใน​ประโยค​ถัด​ไป​ที่​บอก​ว่า​ตอน​นี้​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​ผม​ทำ​ให้​รู้​เหตุ​ผล​ที่​ท่าน​ยัง​ไม่​จัด​การ​อะไร แต่​ก็​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ท่าน​ไม่​คิด​จะ​ช่วย​อะไร​เลย เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​คำ​พูด​ของ​มารีย์​ในข้อ 5

ถัง: นัก​วิชาการ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​คน​บอก​ว่า​หน่วย​ตวง​ที่​พูด​ถึง​ใน​ข้อ​นี้ (คำ​กรีก เม็ทเรเทส) มี​ความ​จุ​เท่า​กับ​หน่วย​ตวง​บัท​ของ​ฮีบรู การ​ค้น​พบ​ชิ้น​ส่วน​ไห​ที่​มี​คำ​ว่า “บัท” ซึ่ง​เขียน​ด้วย​ตัว​อักษร​ฮีบรู​โบราณ​ทำ​ให้​นัก​วิชาการ​บาง​คน​เข้าใจ​ว่า 1 บัท​น่า​จะ​มี​ความ​จุ​ประมาณ 22 ลิตร (1พก 7:26; อสร 7:22; อสค 45:14) ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น โอ่ง​หิน​แต่​ละ​ใบ​ใน​บันทึก​นี้​อาจ​มี​ความ​จุ​ตั้ง​แต่ 44 ถึง 66 ลิตร โอ่ง​หิน 6 ใบ​จึง​จุ​ได้​ประมาณ 260 ถึง 390 ลิตร แต่​นัก​วิชาการ​คน​อื่น​ ๆ ​เชื่อ​ว่า​คำ​ว่า​ถัง​ใน​ข้อ​นี้​อาจ​เป็น​หน่วย​ตวง​ของ​กรีก​ที่​มี​ความ​จุ​ได้​ถึง 40 ลิตร—ดูภาค​ผนวก ข​14

ทำ​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก: การ​ที่​พระ​เยซู​เปลี่ยน​น้ำ​เป็น​เหล้า​องุ่น​เป็น​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก​ที่​ท่าน​ทำ และ​มี​ยอห์น​คน​เดียว​ที่​บันทึก​เรื่อง​นี้

เทศกาล​ปัสกา: ดู​เหมือน​เป็น​เทศกาล​ปัสกา​ปี ค.ศ. 32 ซึ่ง​เป็น​ปัสกา​ครั้ง​ที่ 3 ของ​พระ​เยซู​ตอน​ที่​ท่าน​รับใช้​อยู่​บน​โลก—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 2:13; 5:1; 11:55 และภาค​ผนวก ก​7

เทศกาล​ปัสกา: พระ​เยซู​เริ่ม​ทำ​งาน​ประกาศ​หลัง​จาก​ท่าน​รับ​บัพติศมา​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี ค.ศ. 29 ดัง​นั้น ใน​ข้อ​นี้​จึง​ต้อง​พูด​ถึง​เทศกาล​ปัสกา​ที่​พระ​เยซู​ฉลอง​หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ค.ศ. 30 (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ลก 3:1 และภาค​ผนวก ก​7) การ​เปรียบ​เทียบ​บันทึก​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ทั้ง 4 เล่ม​ทำ​ให้​รู้​ว่า​ช่วง​ที่​พระ​เยซู​ทำ​งาน​รับใช้​บน​โลก ท่าน​ได้​ฉลอง​ปัสกา 4 ครั้ง และ​ทำ​ให้​ได้​ข้อ​สรุป​ว่า​งาน​รับใช้​ของ​ท่าน​กิน​เวลา 3 ปี​ครึ่ง หนังสือ​ข่าว​ดี 3 เล่ม​คือ มัทธิว มาระโก และ​ลูกา พูด​ถึง​เทศกาล​ปัสกา​แค่​ครั้ง​เดียว​คือ​ครั้ง​สุด​ท้าย​ที่​พระ​เยซู​ฉลอง​ก่อน​จะ​เสีย​ชีวิต แต่​ยอห์น​พูด​ถึง​เทศกาล​ปัสกา 4 ครั้ง โดย 3 ครั้ง​เขา​ใช้​คำ​ว่า​ปัสกา (ยน 2:13; 6:4; 11:55) และ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ใน ยน 5:1 เขา​ใช้​คำ​ว่า “เทศกาล​ของ​ชาว​ยิว” ตัว​อย่าง​นี้​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​การ​เปรียบ​เทียบ​บันทึก​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ทั้ง 4 เล่ม​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​ภาพ​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​ได้​ครบ​ถ้วน​มาก​ขึ้น—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 5:1; 6:4; 11:55

เทศกาล​ปัสกา: คือ​เทศกาล​ปัสกา​ปี ค.ศ. 33 ดู​เหมือน​เป็น​ปัสกา​ครั้ง​ที่ 4 ซึ่ง​มี​การ​พูด​ถึง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 2:13; 5:1; 6:4

เทศกาล​ของ​ชาว​ยิว: ถึง​แม้​ยอห์น​ไม่​ได้​บอก​ว่า​เทศกาล​นี้​คือ​เทศกาล​อะไร แต่​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​หลาย​อย่าง​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​เทศกาล​นี้​น่า​จะ​เป็น​เทศกาล​ปัสกา​ปี ค.ศ. 31 ปกติ​แล้ว​ยอห์น​จะ​บันทึก​เหตุ​การณ์​ต่าง​ ๆ ​เรียง​ตาม​ลำดับ​เวลา ใน​ท้อง​เรื่อง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​การ​ฉลอง​เทศกาล​นี้​ไม่​นาน​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​บอก​ว่า “อีก 4 เดือน​จะ​ถึง​ฤดู​เกี่ยว​ข้าว” (ยน 4:35) ฤดู​เกี่ยว​ข้าว​โดย​เฉพาะ​ข้าว​บาร์เลย์​เป็น​ช่วง​เดียว​กับ​เทศกาล​ปัสกา (วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน) ดัง​นั้น ดู​เหมือน​พระ​เยซู​พูด​ประโยค​นี้​ประมาณ 4 เดือน​ก่อน​หน้า​นั้น ก็​คือ​ช่วง​เดือน​คิสเลฟ (พฤศจิกายน/ธันวาคม) จริง​ ๆ ​แล้ว​ใน​ช่วง​เดือน​คิสเลฟ​ถึง​เดือน​นิสาน​ยัง​มี​เทศกาล​อีก 2 อย่าง​ที่​ฉลอง​กัน คือ​เทศกาล​ฉลอง​การ​อุทิศ​วิหาร​และ​เทศกาล​ปูริม แต่​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ไม่​ได้​กำหนด​ให้​ชาว​อิสราเอล​ต้อง​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​ฉลอง​เทศกาล 2 อย่าง​นี้ ดัง​นั้น คำ​ว่า “เทศกาล​ของ​ชาว​ยิว” ใน​ข้อ​นี้​จึง​น่า​จะ​หมาย​ถึง​เทศกาล​ปัสกา​ซึ่ง​เป็น​เทศกาล​ที่​พระ​เยซู​ต้อง​ไป​เข้า​ร่วม​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม (ฉธบ 16:16) จริง​ที่​ยอห์น​บันทึก​อีก​แค่​ไม่​กี่​เหตุ​การณ์​ก่อน​ที่​จะ​พูด​ถึง​เทศกาล​ปัสกา (ยน 6:4) แต่​เมื่อ​ดูภาค​ผนวก ก​7 ก็​จะ​เห็น​ว่า​ยอห์น​พูด​ถึง​การ​รับใช้​ช่วง​แรก​ ๆ ​ของ​พระ​เยซู​ไม่​มาก และ​เขา​ไม่​ได้​พูด​ถึง​หลาย​เหตุ​การณ์​ที่​ผู้​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​อีก 3 คน​ได้​พูด​ถึง​แล้ว ที่​จริง เรื่อง​ราว​ของ​พระ​เยซู​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​อีก 3 เล่ม​ก็​สนับสนุน​ข้อ​สรุป​ที่​ว่า เทศกาล​ปัสกา​ประจำ​ปี​ที่​ยอห์น​พูด​ถึง​ใน​ข้อ​นี้​เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​เหตุ​การณ์​ที่​บันทึก​ใน ยน 2:13 และ ยน 6:4—ดูภาค​ผนวก ก​7 และข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่​ยน 2:13

ปี​ที่ 15 ที่​ซีซาร์​ทิเบริอัส​ปกครอง: ซีซาร์​ออกัสตัส​ตาย​ใน​วัน​ที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 14 (ตาม​ปฏิทิน​เกรกอเรียน) ใน​วัน​ที่ 15 กันยายน​ของ​ปี​นั้น​ทิเบริอัส​ยอม​ให้​สภา​สูง​ของ​โรม​ประกาศ​แต่ง​ตั้ง​เขา​เป็น​จักรพรรดิ ถ้า​นับ​จาก​ตอน​ที่​ออกัสตัส​ตาย ปี​ที่ 15 ที่​ทิเบริอัส​ปกครอง​ก็​จะ​เริ่ม​ตั้ง​แต่​เดือน​สิงหาคม ค.ศ. 28 ไป​จน​ถึง​เดือน​สิงหาคม ค.ศ. 29 แต่​ถ้า​นับ​จาก​ตอน​ประกาศ​แต่ง​ตั้ง​ทิเบริอัส​เป็น​จักรพรรดิ ปี​ที่ 15 ที่​เขา​ปกครอง​ก็​จะ​เริ่ม​ตั้ง​แต่​เดือน​กันยายน ค.ศ. 28 ไป​จน​ถึง​เดือน​กันยายน ค.ศ. 29 ดู​เหมือน​ยอห์น​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ค.ศ. 29 (ตาม​เวลา​ใน​ซีก​โลก​เหนือ) ซึ่ง​อยู่​ใน​ช่วง​ปี​ที่ 15 ที่​ทิเบริอัส​ปกครอง ใน​ปี​นั้น​ยอห์น​น่า​จะ​มี​อายุ​ประมาณ 30 ปี​ซึ่ง​เป็น​อายุ​ที่​ปุโรหิต​ใน​ตระกูล​เลวี​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​วิหาร (กดว 4:2, 3) คล้าย​กัน ใน ลก 3:21-23 ก็​บอก​ว่า​พระ​เยซู​รับ​บัพติศมา​จาก​ยอห์น​และ “เริ่ม​งาน​ประกาศ​เมื่อ​อายุ​ได้ 30 ปี” พระ​เยซู​ตาย​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​เดือน​นิสาน ดัง​นั้น ดู​เหมือน​ว่า​งาน​รับใช้ 3 ปี​ครึ่ง​ของ​ท่าน​จะ​เริ่ม​ต้น​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง ​คือ​ประมาณ​เดือน​เอธานิม (กันยายน/ตุลาคม) ยอห์น​น่า​จะ​อายุ​มาก​กว่า​พระ​เยซู 6 เดือน​และ​ดู​เหมือน​เขา​เริ่ม​งาน​รับใช้​ก่อน​พระ​เยซู 6 เดือน​ด้วย (ลก บท 1) จึง​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​สรุป​ว่า​ยอห์น​เริ่ม​งาน​รับใช้​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ค.ศ. 29—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ลก 3:23; ยน 2:13

วิหาร: ดู​เหมือน​ว่า​หมาย​ถึง​ส่วน​ของ​วิหาร​ที่​เรียก​ว่า​ลาน​สำหรับ​คน​ต่าง​ชาติ—ดูภาค​ผนวก ข​11

คน​ขาย​วัว แกะ และ​นก​เขา: ชาว​อิสราเอล​ต้อง​ไป​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ที่​วิหาร​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า และ​ชาว​อิสราเอล​ที่​มา​จาก​เมือง​อื่น​ ๆ ​จำเป็น​ต้อง​มี​อาหาร​กิน​ใน​ช่วง​ที่​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม พวก​เขา​บาง​คน​มา​จาก​เมือง​ที่​ไกล​มาก กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​จึง​อนุญาต​ให้​พวก​เขา​ขาย​ผล​ผลิต​และ​สัตว์​ที่​มี​อยู่ แล้ว​เอา​เงิน​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​จะ​ซื้อ​สัตว์​ที่​ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา เช่น วัว แกะ แพะ และ​นก​เขา รวม​ทั้ง​สิ่ง​จำเป็น​อื่น​ ๆ (ฉธบ 14:23-26) ต่อ​มา พวก​พ่อค้า​เริ่ม​เอา​สัตว์​ที่​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา​เข้า​ไป​ขาย​ถึง​ใน​วิหาร (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​คำ​ว่า​วิหาร​ใน​ข้อ​นี้) พ่อค้า​บาง​คน​อาจ​ฉ้อ​โกง​โดย​คิด​ราคา​เกิน​จริง​ด้วย

คน​รับ​แลก​เงิน: ใน​สมัย​นั้น​มี​การ​ใช้​เหรียญ​หลาย​ชนิด แต่​ดู​เหมือน​มี​เหรียญ​บาง​ชนิด​เท่า​นั้น​ที่​ใช้​สำหรับ​จ่าย​ภาษี​บำรุง​วิหาร​และ​ซื้อ​สัตว์​ที่​ใช้​เป็น​เครื่อง​บูชา ดัง​นั้น ชาว​ยิว​ซึ่ง​เดิน​ทาง​มา​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​จะ​ต้อง​แลก​เงิน​เพื่อ​เอา​ไป​ใช้​ที่​วิหาร พระ​เยซู​คง​รู้สึก​ว่า​พวก​คน​รับ​แลก​เงิน​เรียก​เก็บ​ค่า​ธรรมเนียม​สูง​มาก​จน​เป็น​เหมือน​การ​ขูดรีด​ประชาชน

เอา​เชือก​มา​ทำ​เป็น​แส้: คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เชือก” (ซะฆอยนีออน) อาจ​หมาย​ถึง​เชือก​ที่​ทำ​จาก​ต้น​กก ต้น​อ้อ หรือ​วัสดุ​อื่น​ ๆ เมื่อ​พระ​เยซู​ใช้​แส้​ไล่ “แกะ​และ​วัว​ออก​จาก​บริเวณ​วิหาร” พ่อค้า​ที่​ขาย​สัตว์​เหล่า​นี้​ก็​คง​จะ​ตาม​สัตว์​ของ​พวก​เขา​ออก​จาก​วิหาร​ด้วย ใน​ข้อ​ถัด​ไป​ที่​บอก​ว่า​พระ​เยซู​ไล่​คน​ขาย​นก​เขา​ออก​ไป​จาก​วิหาร​ไม่​มี​การ​พูด​ถึง​แส้ แสดง​ว่า​ท่าน​ไม่​ได้​ใช้​แส้​เพื่อ​ไล่​พวก​พ่อค้า ถึง​อย่าง​นั้น สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทำ​ก็​ทำ​ให้​พวก​ที่​มา​ค้า​ขาย​ต้อง​ออก​ไป​จาก​วิหาร

ไล่​คน​พวก​นั้น​รวม​ทั้ง​แกะ​และ​วัว​ออก​จาก​บริเวณ​วิหาร: ตอน​อยู่​บน​โลก พระ​เยซู​ขับ​ไล่​พวก​พ่อค้า​ออก​จาก​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 2 ครั้ง เหตุ​การณ์​ใน​ข้อ​นี้​เป็น​การ​ขับ​ไล่​ครั้ง​แรก​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​เทศกาล​ปัสกา​ปี ค.ศ. 30 ตอน​นั้น​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​พระ​เยซู​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​ฐานะ​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม (ดูภาค​ผนวก ก​7) หลัง​จาก​นั้น ใน​วัน​ที่ 10 เดือน​นิสาน ปี ค.ศ. 33 ท่าน​ขับ​ไล่​พวก​พ่อค้า​ออก​จาก​วิหาร​เป็น​ครั้ง​ที่ 2 เหตุ​การณ์​นี้​มี​บันทึก​อยู่​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​มัทธิว (21:12, 13) มาระโก (11:15-18) และ​ลูกา (19:45, 46)—ดูภาค​ผนวก ก​7

คน​รับ​แลก​เงิน: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 21:12

ตลาด: หรือ “ที่​ค้า​ขาย” สำนวน​กรีก ออน​คอน เอ็ม​พอ​ริ​ออน ที่​แปล​ว่า “ตลาด” หมาย​ถึง “ที่​ที่​ผู้​คน​มา​ค้า​ขาย” สำนวน​นี้​มี​ที่​เดียว​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​คือ​ใน​ข้อ​นี้ การ​ขาย​สัตว์​สำหรับ​เป็น​เครื่อง​บูชา​ใน​วิหาร​เป็น​แหล่ง​ราย​ได้​หลัก​ที่​สร้าง​ความ​มั่งคั่ง​ร่ำรวย​และ​อิทธิพล​ให้​กับ​ครอบครัว​ของ​ปุโรหิต​ใหญ่​อันนาส

ความ​รัก​แรง​กล้า​ที่​ผม​มี​ต่อ​วิหาร​ของ​พระองค์: คำ​กรีก (เศลอส) ที่​แปล​ว่า “ความ​รัก​แรง​กล้า” ใน​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​ความ​สนใจ​อย่าง​จริงจัง​และ​กระตือรือร้น​ใน​แง่​ดี​ซึ่ง​แสดง​ออก​โดย​การ​ทุ่มเท​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​สิ่ง​ใด​สิ่ง​หนึ่ง ข้อ​คัมภีร์​ที่​พวก​สาวก​นึก​ถึง​คือ สด 69:9 ใน​ข้อ​นั้น​มี​คำ​นาม​ฮีบรู (คินอาห์) ที่​แปล​ว่า “ความ​รัก​แรง​กล้า” ซึ่ง​อาจ​หมาย​ถึง “การ​เรียก​ร้อง​ความ​เลื่อมใส​โดย​เฉพาะ หรือ​การ​ไม่​ยอม​ให้​มี​คู่​แข่ง” ตอน​ที่​พระ​เยซู​เห็น​ว่า​มี​การ​ค้า​ขาย​ใน​บริเวณ​วิหาร ท่าน​ก็​โกรธ​มาก และ​ความ​รัก​แรง​กล้า​ก็​กระตุ้น​ท่าน​ให้​ไล่​พวก​เขา​ออก​ไป

รื้อ​วิหาร​หลัง​นี้​ลง​มา​สิ แล้ว​ผม​จะ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ภาย​ใน 3 วัน: มี​เฉพาะ​ยอห์น​เท่า​นั้น​ที่​บันทึก​คำ​พูด​นี้​ของ​พระ​เยซู ชาว​ยิว​คิด​ว่า​ท่าน​กำลัง​พูด​ถึง​วิหาร​ของ​เฮโรด ตอน​ที่​พระ​เยซู​ถูก​พิจารณา​คดี พวก​ผู้​ต่อ​ต้าน​ยก​คำ​พูด​นี้​ของ​ท่าน​ขึ้น​มา​และ​เอา​มา​ใช้​อย่าง​บิดเบือน (มธ 26:61; 27:40; มก 14:58) เหมือน​ที่​บอก​ไว้​ใน ยน 2:21 พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​วิหาร​ที่​หมาย​ถึง​ร่าง​กาย​ของ​ท่าน​เอง ท่าน​เปรียบ​เทียบ​การ​ตาย​และ​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ​ท่าน​ว่า​เป็น​เหมือน​การ​รื้อ​วิหาร​และ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่ ถึง​แม้​พระ​เยซู​จะ​บอก​ว่า “ผม​จะ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่” แต่​พระ​คัมภีร์​ข้อ​อื่น​ ๆ ​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​พระเจ้า​เป็น​ผู้​ปลุก​ท่าน​ให้​ฟื้น​ขึ้น​มา (กจ 10:40; รม 8:11; ฮบ 13:20) หลัง​จาก​ถูก​ประหาร​และ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใน​วัน​ที่ 3 (มธ 16:21; ลก 24:7, 21, 46) พระ​เยซู​ได้​รับ​ร่าง​กาย​ใหม่ ซึ่ง​เป็น​ร่าง​กาย​สำหรับ​สวรรค์​ที่​พ่อ​ของ​ท่าน​สร้าง​ขึ้น (กจ 2:24; 1​ปต 3:18) ใน​พระ​คัมภีร์ การ​เปรียบ​วิหาร​เป็น​เหมือน​คน​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก เช่น มี​การ​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​เมสสิยาห์​จะ​เป็น “หิน​หัว​มุม​หลัก” (สด 118:22; อสย 28:16, 17; กจ 4:10, 11) เปาโล​กับ​เปโตร​ก็​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​แบบ​เดียว​กัน​นี้​กับ​พระ​เยซู​และ​สาวก​ของ​ท่าน​ใน 1​คร 3:16, 17; 6:19; อฟ 2:20; และ 1ปต 2:6, 7

วิหาร​หลัง​นี้​ใช้​เวลา​สร้าง​ตั้ง 46 ปี: พวก​ยิว​กำลัง​พูด​ถึง​วิหาร​ที่​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​โดย​กษัตริย์​เฮโรด วิหาร​หลัง​แรก​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ที่​สร้าง​โดย​กษัตริย์​โซโลมอน​ถูก​ทำลาย​ใน​ปี 607 ก่อน ค.ศ. และ​หลัง​จาก​ชาว​ยิว​กลับ​จาก​การ​เป็น​เชลย​ที่​บาบิโลน วิหาร​ก็​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​เศรุบบาเบล (อสร 6:13-15; ฮกก 2:2-4) ตาม​บันทึก​ของ​โยเซฟุส (Jewish Antiquities, XV, 380 [xi, 1]) เฮโรด​เริ่ม​สร้าง​วิหาร​ขึ้น​ใหม่​ใน​ปี​ที่ 18 ที่​เขา​ปกครอง ถ้า​นับ​ตาม​วิธี​ของ​ชาว​ยิว ปี​ที่​เริ่ม​สร้าง​ก็​น่า​จะ​ตรง​กับ​ปี​ที่ 18/17 ก่อน ค.ศ. ที่​จริง​มี​การ​ต่อ​เติม​วิหาร​นี้​อยู่​เรื่อย​ ๆ ​จน​ถึง 6 ปี​ก่อน​ที่​วิหาร​นี้​จะ​ถูก​ทำลาย​ใน​ปี ค.ศ. 70

วิหาร​ที่​หมาย​ถึง​ร่าง​กาย​ของ​ท่าน: คำ​พูด​ของ​อัครสาวก​ยอห์น​ใน​ข้อ​นี้​บอก​ให้​รู้​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​เปรียบ​เทียบ​การ​ตาย​และ​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ​ท่าน​ว่า​เป็น​เหมือน​การ​รื้อ​วิหาร​และ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่

ท่าน​รู้​ว่า​พวก​เขา​คิด​อะไร​อยู่​ใน​ใจ: พระ​เยซู​สามารถ​รู้​ความ​คิด การ​หา​เหตุ​ผล และ​แรง​กระตุ้น​ของ​มนุษย์​ได้ ผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​ก็​บอก​ล่วง​หน้า​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ เขา​พูด​ถึง​เมสสิยาห์​ว่า “ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​ได้​รับ​พลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา” ดัง​นั้น พระ​เยซู​จะ​ไม่​ตัดสิน “ตาม​ที่​ตา​เห็น”—อสย 11:2, 3; มธ 9:4; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 2:8

พระ​เยซู​รู้: คำ​กรีก พะนือมา ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​พลัง​หรือ​ความ​สามารถ​ของ​พระ​เยซู​ที่​จะ​หยั่ง​รู้​หรือ​เข้าใจ​เรื่อง​ต่าง ๆ คำ​พยากรณ์​ใน อสย 11:2, 3 บอก​เกี่ยว​กับ​เมสสิยาห์​ว่า “ท่าน​ผู้​นั้น​จะ​ได้​รับ​พลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา” ท่าน​จึง​ไม่​ได้​ตัดสิน “ตาม​ที่​ตา​เห็น” พลัง​นี้​ทำ​ให้​พระ​เยซู​สามารถ​เข้าใจ​ว่า​คน​อื่น​คิด​อะไร​และ​มี​เจตนา​อะไร—ยน 2:24, 25

วีดีโอและรูปภาพ

โอ่ง​หิน
โอ่ง​หิน

ภาพ​ที่​เห็น​นี้​เป็น​โอ่ง​หิน​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​ศตวรรษ​แรก แม้​ปกติ​จะ​มี​การ​ทำ​โอ่ง​หรือ​ไห​จาก​ดิน​เผา (อสย 30:14; พคค 4:2) แต่​ใน​งาน​แต่งงาน​ที่​คานา คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​โอ่ง​นั้น​เป็น​โอ่ง​หิน (ยน 2:6) มี​การ​พบ​โอ่ง​หิน​จำนวน​มาก​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม เชื่อ​กัน​ว่า​ผู้​คน​ชอบ​ใช้​โอ่ง​แบบ​นี้​เพราะ​มัน​ถูก​มอง​ว่า​เป็น​ภาชนะ​ที่​สะอาด​ทาง​พิธีกรรม ซึ่ง​ต่าง​จาก​ภาชนะ​ที่​ทำ​จาก​วัสดุ​อื่น​ ๆ เช่น ดิน​เผา (ลนต 11:33) นี่​ทำ​ให้​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​อัครสาวก​ยอห์น​จึง​พูด​ถึง​โอ่ง​หิน​ที่​ใช้​ใส่​น้ำ​สำหรับ “พิธี​ชำระ​ล้าง​ตาม​กฎ​ของ​ชาว​ยิว”