เขียนโดยลูกา 20:1-47

20  วัน​หนึ่ง ตอน​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​สอน​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​อยู่​ใน​วิหาร พวก​ปุโรหิต​ใหญ่ พวก​ครู​สอน​ศาสนา และ​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ก็​เข้า​มา​หา 2  และ​พูด​กับ​ท่าน​ว่า “บอก​มา​ซิ คุณ​มี​สิทธิ์​อะไร​มา​ทำ​อย่าง​นี้? ใคร​ให้​อำนาจ​คุณ?”+ 3  พระ​เยซู​พูด​กลับ​ไป​ว่า “ผม​จะ​ถาม​คุณ​ข้อ​หนึ่ง ตอบ​ผม​มา​ก่อน 4  ที่​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​นั้น ใคร​ให้​อำนาจ​เขา พระเจ้า*หรือ​มนุษย์?” 5  พวก​เขา​จึง​ปรึกษา​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘พระเจ้า’ เขา​ก็​จะ​ถาม​ว่า ‘ถ้า​อย่าง​นั้น ทำไม​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น?’ 6  แต่​ถ้า​จะ​ตอบ​ว่า ‘มนุษย์’ เดี๋ยว​คน​จะ​เอา​หิน​ขว้าง​พวก​เรา​เพราะ​พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้​พยากรณ์”+ 7  ดัง​นั้น พวก​เขา​ตอบ​ว่า​ไม่​รู้ 8  พระ​เยซู​จึง​ตอบ​กลับ​ไป​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น ผม​ก็​จะ​ไม่​บอก​พวก​คุณ​เหมือน​กัน​ว่า ผม​มี​สิทธิ์​อะไร​ที่​ทำ​อย่าง​นี้” 9  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ยก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ให้​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ฟัง​ว่า “มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ปลูก​องุ่น+แล้ว​ให้​คน​มา​เช่า​สวน​องุ่น​นั้น จาก​นั้น​เขา​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ​เป็น​เวลา​นาน+ 10  เมื่อ​ถึง​ฤดู​เก็บ​ผล เจ้า​ของ​สวน​ก็​ส่ง​ทาส​คน​หนึ่ง​ไป​หา​คน​เช่า​สวน​เพื่อ​จะ​รับ​ส่วน​แบ่ง​ผล​องุ่น แต่​คน​เช่า​สวน​กลับ​ทุบ​ตี​ทาส​คน​นั้น แล้ว​ไล่​กลับ​ไป​มือ​เปล่า+ 11  เจ้า​ของ​สวน​จึง​ส่ง​ทาส​อีก​คน​หนึ่ง​ไป พวก​นั้น​ก็​ทุบ​ตี​เขา ดูถูก​เหยียด​หยาม* แล้ว​ไล่​เขา​กลับ​ไป​มือ​เปล่า​เหมือน​กัน 12  เจ้า​ของ​สวน​ก็​ส่ง​คน​ไป​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม พวก​นั้น​ก็​ทำ​ร้าย​เขา แล้ว​ไล่​กลับ​ไป​เหมือน​คน​ก่อน ๆ 13  ถึง​ตอน​นี้ เจ้า​ของ​สวน​พูด​กับ​ตัว​เอง​ว่า ‘เรา​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ดี? รู้​แล้ว เรา​จะ​ส่ง​ลูก​ชาย​ที่​รัก​ของ​เรา+ไป​ดี​กว่า พวก​นั้น​คง​จะ​นับถือ​เขา​บ้าง’ 14  เมื่อ​คน​เช่า​สวน​เห็น​ลูก​ชาย​เจ้า​ของ​สวน​ก็​ปรึกษา​กัน​ว่า ‘นี่​ไง คน​ที่​จะ​รับ​มรดก จับ​มัน​ไป​ฆ่า​เลย สวน​นี้​จะ​ได้​ตก​เป็น​ของ​เรา’ 15  พวก​นั้น​จึง​จับ​ตัว​ลูก​ชาย​เจ้า​ของ​สวน​โยน​ออก​ไป​นอก​สวน​องุ่น​แล้ว​ฆ่า​ทิ้ง+ พวก​คุณ​คิด​ว่า เจ้า​ของ​สวน​จะ​ทำ​ยัง​ไง​กับ​พวก​นั้น? 16  เขา​ก็​จะ​มา​ฆ่า​คน​เช่า​พวก​นั้น แล้ว​ให้​คน​อื่น​มา​เช่า​สวน​องุ่น​แทน” เมื่อ​คน​ที่​ฟัง​อยู่​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ก็​พูด​ว่า “ขอ​อย่า​ให้​เรื่อง​แบบ​นี้​เกิด​ขึ้น​เลย” 17  แต่​พระ​เยซู​มอง​พวก​เขา​และ​พูด​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น ข้อ​ความ​นี้​ใน​พระ​คัมภีร์​หมาย​ถึง​อะไร​ที่​ว่า ‘หิน​ที่​ช่าง​ก่อ​สร้าง​ทิ้ง​ไป​แล้ว กลาย​มา​เป็น​หิน​หัว​มุม​หลัก’?+ 18  ทุก​คน​ที่​ล้ม​ไป​กระแทก​หิน​ก้อน​นั้น ตัว​เขา​เอง​จะ​แหลก​ละเอียด+ และ​ถ้า​หิน​ก้อน​นั้น​ตก​ทับ​ใคร คน​นั้น​ก็​จะ​แหลก​ไป​เหมือน​กัน” 19  เมื่อ​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​และ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​พวก​เขา ก็​หา​ทาง​จะ​จับ​ท่าน​ใน​ตอน​นั้น แต่​ไม่​กล้า​ลง​มือ​เพราะ​กลัว​ประชาชน+ 20  พวก​เขา​จึง​คอย​จับตา​ดู​พระ​เยซู แล้ว​แอบ​จ้าง​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ให้​แกล้ง​ทำ​ตัว​เป็น​คน​ดี และ​ใช้​ให้​ไป​จับ​ผิด​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู+ เพื่อ​จะ​จับ​ตัว​ท่าน​ส่ง​ให้​ผู้​ว่า​ราชการ​ซึ่ง​มี​อำนาจ​ตัดสิน​ลง​โทษ 21  พวก​นั้น​มา​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​ครับ พวก​เรา​รู้​ว่า​คำ​พูด​และ​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ถูก​ต้อง​เสมอ​และ​ท่าน​ไม่​ลำเอียง ท่าน​สอน​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา 22  ขอ​ถาม​หน่อย​ว่า ถูก​ต้อง​ไหม​ที่​เรา​จะ​เสีย​ภาษี​ให้​ซีซาร์?” 23  แต่​พระ​เยซู​รู้​ทัน​เล่ห์​เหลี่ยม​ของ​พวก​เขา จึง​ตอบ​ว่า 24  “เอา​เหรียญ​เดนาริอัน​มา​ให้​ผม​สิ นี่​รูป​ใคร และ​ชื่อ​ของ​ใคร​อยู่​บน​เหรียญ​นี้?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ซีซาร์” 25  ท่าน​จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น อะไร​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์​ก็​ต้อง​ให้​กับ​ซีซาร์+ และ​อะไร​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​ก็​ต้อง​ให้​กับ​พระเจ้า”+ 26  พวก​เขา​จึง​จับ​ผิด​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ไม่​สำเร็จ ได้​แต่​ทึ่ง​กับ​คำ​ตอบ​ของ​ท่าน​จน​พูด​อะไร​ไม่​ออก 27  มี​พวก​สะดูสี​บาง​คน​มา​หา​พระ​เยซู​ด้วย พวก​นี้​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย+ พวก​เขา​ถาม​ว่า+ 28  “อาจารย์​ครับ โมเสส​เขียน​บอก​เรา​ไว้​ว่า ‘ถ้า​ผู้​ชาย​คน​ไหน​ตาย​ไป​และ​ทิ้ง​ภรรยา​ไว้ แต่​ยัง​ไม่​มี​ลูก พี่​ชาย​หรือ​น้อง​ชาย​ของ​เขา​ควร​แต่งงาน​กับ​ภรรยา​ของ​ผู้​ตาย และ​มี​ลูก​ให้​กับ​ผู้​ตาย​นั้น’+ 29  แล้ว​ถ้า​ครอบครัว​หนึ่ง​มี​ลูก​ชาย 7 คน คน​โต​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​แล้ว​ก็​ตาย​ไป​ตอน​ที่​ยัง​ไม่​มี​ลูก 30  คน​ที่​สอง 31  แล้ว​ก็​คน​ที่​สาม​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ​ด้วย ใน​ที่​สุด ทั้ง 7 คน​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ และ​ทุก​คน​ตาย​ไป​ตอน​ที่​ยัง​ไม่​มี​ลูก 32  สุด​ท้าย ผู้​หญิง​คน​นั้น​ก็​ตาย​ด้วย 33  แล้ว​อย่าง​นี้ ตอน​ที่​ทุก​คน​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย ผู้​หญิง​คน​นั้น​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ใคร​ล่ะ เพราะ​ทั้ง 7 คน​เคย​เป็น​สามี​ของ​เธอ?” 34  พระ​เยซู​ตอบ​กับ​พวก​เขา​ว่า “คน​ใน​ยุค​นี้​แต่งงาน​กัน 35  แต่​คน​ที่​สม​ควร​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​ได้​ชีวิต​ใน​ยุค​หน้า จะ​ไม่​แต่งงาน+ 36  พวก​เขา​จะ​ตาย​อีก​ไม่​ได้​และ​จะ​เป็น​เหมือน​ทูตสวรรค์ พวก​เขา​จะ​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​เพราะ​พระองค์​ปลุก​เขา​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย 37  แต่​เรื่อง​ที่​คน​ตาย​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​นั้น แม้​แต่​โมเสส​ก็​ยัง​เขียน​ไว้​ใน​เรื่อง​พุ่ม​หนาม+ ตอน​นั้น​เขา​เรียก​พระ​ยะโฮวา​ว่า ‘พระเจ้า​ของ​อับราฮัม พระเจ้า​ของ​อิสอัค และ​พระเจ้า​ของ​ยาโคบ’+ 38  พระองค์​ไม่​ได้​เป็น​พระเจ้า​ของ​คน​ตาย แต่​เป็น​พระเจ้า​ของ​คน​เป็น เพราะ​พระองค์​มอง​ว่า​พวก​เขา​ทุก​คน​มี​ชีวิต​อยู่”+ 39  ครู​สอน​ศาสนา​บาง​คน​ชม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์ ท่าน​พูด​ได้​ดี​มาก” 40  แล้ว​ก็​ไม่​มี​ใคร​กล้า​ถาม​อะไร​ท่าน​อีก 41  แล้ว​พระ​เยซู​ถาม​พวก​เขา​กลับ​ว่า “ทำไม​คน​ถึง​พูด​กัน​ว่า​พระ​คริสต์​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด?+ 42  ดาวิด​เอง​ก็​บอก​ไว้​ใน​หนังสือ​สดุดี​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​ผู้​เป็น​นาย​ของ​ผม​ว่า “นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​เรา​ไป​ก่อน 43  จน​กว่า​เรา​จะ​ทำ​ให้​พวก​ศัตรู​ของ​เจ้า​เป็น​ที่​วาง​เท้า​ของ​เจ้า”’+ 44  ถ้า​ดาวิด​เรียก​พระ​คริสต์​ว่า ‘ผู้​เป็น​นาย’ แล้ว​พระ​คริสต์​จะ​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด​ได้​ยัง​ไง?” 45  พระ​เยซู​บอก​พวก​สาวก​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ที่​กำลัง​ฟัง​อยู่​ว่า 46  “ระวัง​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​ให้​ดี พวก​เขา​ชอบ​ใส่​เสื้อ​คลุม​ยาว​เดิน​อวด​ไป​มา ชอบ​ให้​คน​คำนับ​ใน​ที่​สาธารณะ ชอบ​นั่ง​แถว​หน้า​สุด​ใน​ที่​ประชุม และ​ชอบ​นั่ง​ใน​ที่​ที่​มี​เกียรติ​ที่​สุด​ใน​งาน​เลี้ยง+ 47  พวก​เขา​โกง​เอา​บ้าน*ของ​แม่​ม่าย และ​อธิษฐาน​ยาว ๆ เพื่อ​อวด​คน​อื่น พวก​เขา​จะ​ต้อง​ได้​รับ​โทษ​หนัก​กว่า​คน​ทั่ว​ไป”

เชิงอรรถ

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “สวรรค์”
หรือ “ไม่​ให้​เกียรติ”
หรือ “ทรัพย์​สิน”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 13:3

ให้​คน​มา​เช่า: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 21:33

เป็น​เวลา​นาน: ลูกา​เป็น​คน​เดียว​ที่​เพิ่ม​ราย​ละเอียด​นี้​ใน​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​คน​เช่า​สวน​องุ่น—เทียบ​กับ​บันทึก​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน​ที่ มธ 21:33 และ มก 12:1

หิน​หัว​มุม​หลัก: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 21:42

เดนาริอัน: เหรียญ​เงิน​ของ​โรมัน​มี​รูป​ซีซาร์​อยู่​ด้าน​หนึ่ง เหรียญ​นี้​ใช้​จ่าย “ภาษี” ที่​รัฐบาล​โรมัน​เรียก​เก็บ​จาก​ชาว​ยิว (มธ 22:17, 19; ลก 20:22) คน​งาน​ใน​ไร่​นา​สมัย​พระ​เยซู​จะ​ได้​รับ​ค่า​จ้าง 1 เดนาริอัน​สำหรับ​การ​ทำ​งาน 1 วัน​ที่​ยาว 12 ชั่วโมง และ​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​มัก​จะ​ใช้​เดนาริอัน​เป็น​หลัก​ใน​การ​คำ​น​วน​ค่า​เงิน​อื่น ๆ (มธ 20:2; มก 6:37; 14:5; วว 6:6) มี​การ​ใช้​เหรียญ​ทองแดง​และ​เหรียญ​เงิน​หลาย​ชนิด​ใน​อิสราเอล รวม​ทั้ง​เหรียญ​เงิน​ที่​ทำ​จาก​เมือง​ไทระ​ซึ่ง​ใช้​จ่าย​ภาษี​บำรุง​วิหาร แต่​เมื่อ​จ่าย​ภาษี​ต่าง ๆ ให้​รัฐบาล​โรมัน ดู​เหมือน​ว่า​ผู้​คน​จะ​ใช้​เหรียญ​เงิน​เดนาริอัน​ที่​มี​รูป​ซีซาร์—ดูส่วน​อธิบาย​ศัพท์ และภาค​ผนวก ข​14

รูป . . . และ​ชื่อ: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 22:20

ให้​กับ: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 22:21

อะไร​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์​ก็​ให้​กับ​ซีซาร์: คำ​ตอบ​ของ​พระ​เยซู​ใน​ข้อ​นี้​และ​ใน​บันทึก​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน​ที่ มธ 22:21 และ มก 12:17 เป็น​ครั้ง​เดียว​ที่​มี​การ​บันทึก​ว่า​พระ​เยซู​พูด​ถึง​จักรพรรดิ​โรมัน สำนวน​ที่​ว่า “อะไร​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์” หมาย​ถึง​เงิน​ที่​จ่าย​สำหรับ​บริการ​ต่าง ๆ ที่​ได้​รับ​จาก​รัฐ และ​ยัง​รวม​ถึง​การ​ให้​เกียรติ​และ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​เจ้าหน้าที่​รัฐ​อย่าง​เหมาะ​สม—รม 13:1-7

อะไร​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​ก็​ให้​กับ​พระเจ้า: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 22:21

สะดูสี: นี่​เป็น​ครั้ง​เดียว​ที่​มี​การ​พูด​ถึง​พวก​สะดูสี​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ลูกา (ดูส่วน​อธิบาย​ศัพท์) ชื่อ​สะดูสี (คำ​กรีก ซาดดู่ไคออส) อาจ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาโดก (มัก​สะกด​ว่า ซาดโดก ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์) ที่​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​มหา​ปุโรหิต​ใน​สมัย​โซโลมอน และ​ดู​เหมือน​ว่า​ลูก​หลาน​ของ​เขา​ทำ​หน้า​ที่​ปุโรหิต​ต่อ​มา​อีก​หลาย​ศตวรรษ—1พก 2:35

การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย: คำ​กรีก อานาสทาซิส แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ทำ​ให้​ลุก​ขึ้น, ยืน​ขึ้น” มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ประมาณ 40 ครั้ง​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​เพื่อ​พูด​ถึง​การ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น (มธ 22:23, 31; ลก 20:33; กจ 4:2; 24:15; 1คร 15:12, 13) ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ​ที่ อสย 26:19 ซึ่ง​มี​ข้อ​ความ​ว่า “คน​ของ​พวก​เจ้า​ที่​ตาย​แล้ว​จะ​มี​ชีวิต​อีก” มี​การ​ใช้​คำ​กริยา อา​นา​ส​ทา​ซิ​ส เพื่อ​แปล​คำ​กริยา​ฮีบรู “มี​ชีวิต”—ดูส่วน​อธิบาย​ศัพท์

คน: หรือ “ลูก” แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ชาย” ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ลูก​ชาย” มี​ความ​หมาย​กว้าง​และ​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​ลูก​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​เท่า​นั้น แต่​หมาย​ถึง​คน​ทั้ง​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง ที่​สรุป​ได้​อย่าง​นี้​เพราะ​ใน​ข้อ​นี้​ยัง​ใช้​คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า​แต่งงาน​กัน​ซึ่ง​เป็น​คำ​ที่​ใช้​กับ​ผู้​หญิง​ด้วย ดัง​นั้น คำ​ว่า “คน​ใน​ยุค​นี้” เป็น​สำนวน​หมาย​ถึง​คน​ที่​มี​ทัศนคติ​และ​รูป​แบบ​ชีวิต​เหมือน​คน​ทั่ว​ไป​ใน​ปัจจุบัน

ยุค​นี้: คำ​กรีก ไอโอน ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​หลัก​ว่า “ยุค” อาจ​หมาย​ถึง​สภาพการณ์​หรือ​ลักษณะ​เด่น​ของ​โลก​หรือ​บาง​ส่วน​ของ​โลก​ใน​ช่วง​เวลา​หนึ่ง​หรือ​สมัย​หนึ่ง ซึ่ง​ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​หมาย​ถึง​โลก​ใน​สมัย​ปัจจุบัน—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 12:32; มก 10:30 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “ยุค, โลก​นี้

ยุค​หน้า: คำ​กรีก ไอโอน ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​หลัก​ว่า “ยุค” อาจ​หมาย​ถึง​สภาพการณ์​หรือ​ลักษณะ​เด่น​ของ​โลก​หรือ​บาง​ส่วน​ของ​โลก​ใน​ช่วง​เวลา​หนึ่ง​หรือ​สมัย​หนึ่ง ใน​ข้อ​นี้​กำลัง​พูด​ถึง​ช่วง​เวลา​ใน​อนาคต​ที่​พระเจ้า​ปกครอง​ซึ่ง​ตอน​นั้น​จะ​มี​การ​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 12:32; มก 10:30 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “ยุค, โลก​นี้

ลูก: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ชาย” คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “ลูก​ชาย” มี 2 ครั้ง​ใน​ข้อ​นี้ ใน​บาง​ท้อง​เรื่อง​มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​ความ​หมาย​กว้าง​และ​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​ลูก​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​เท่า​นั้น—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ลก 20:34

แม้​แต่​โมเสส​ก็​ยัง​เขียน​ไว้: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 12:26

ตอน​นั้น​เขา​เรียก​พระ​ยะโฮวา​ว่า ‘พระเจ้า​ของ​อับราฮัม’: หรือ “ตอน​นั้น​เขา​พูด​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม’” ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​กำลัง​อธิบาย​ว่า​โมเสส​เคย​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า​ยัง​เป็น​พระเจ้า​ของ​บรรพบุรุษ​ที่​ตาย​ไป​นาน​แล้ว ข้อ​ความ​นั้น​มา​จาก อพย 3:6 ซึ่ง​ใน​ข้อ​ก่อน​หน้า​นั้น (อพย 3:4, 5) แสดง​ให้​เห็น​ว่า “พระ​ยะโฮวา” เป็น​ผู้​พูด และ​ที่ อพย 3:6 พระ​ยะโฮวา​บอก​โมเสส​ว่า “เรา​เป็น​พระเจ้า​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​เจ้า คือ​พระเจ้า​ของ​อับราฮัม พระเจ้า​ของ​อิสอัค และ​พระเจ้า​ของ​ยาโคบ” ตอน​นั้น อับราฮัม​ตาย​ไป​แล้ว 329 ปี อิสอัค​ตาย​ไป​แล้ว 224 ปี และ​ยาโคบ​ก็​ตาย​ไป​แล้ว 197 ปี ถึง​อย่าง​นั้น พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​ได้​บอก​ว่า ‘เรา​เคย​เป็น ​พระเจ้า​ของ​พวก​เขา’ แต่​บอก​ว่า ‘เรา​เป็น ​พระเจ้า​ของ​พวก​เขา’ นี่​เป็น​เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ​ใช้​ชื่อ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ข้อ​นี้

เพราะ​พระองค์​มอง​ว่า​พวก​เขา​ทุก​คน​มี​ชีวิต​อยู่: คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​แต่​ไม่​มี​สาย​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า​ก็​เท่า​กับ​ตาย​แล้ว​ใน​สายตา​ของ​พระองค์ (อฟ 2:1; 1ทธ 5:6) ใน​ทำนอง​เดียว​กัน สำหรับ​ผู้​รับใช้​ที่​พระเจ้า​ยอม​รับ แม้​พวก​เขา​จะ​ตาย​ไป แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สายตา​ของ​พระ​ยะโฮวา เพราะ​พระองค์​จะ​ปลุก​พวก​เขา​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ตาม​ที่​พระองค์​ต้องการ​แน่นอน—รม 4:16, 17

พระ​ยะโฮวา: ข้อ​ความ​นี้​ยก​มา​จาก สด 110:1 ซึ่ง​ใน​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​มี​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​เขียน​ด้วย​อักษร​ฮีบรู 4 ตัว (ตรง​กับ​เสียง​อักษร​ไทย ยฮวฮ)

วีดีโอและรูปภาพ

แถว​หน้า​สุด​ใน​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว
แถว​หน้า​สุด​ใน​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว

แบบ​จำลอง​ใน​วีดีโอ​นี้​ทำ​ขึ้น​โดย​อาศัย​ข้อมูล​ส่วน​หนึ่ง​จาก​ซาก​ปรัก​หัก​พัง​ของ​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว​ใน​ศตวรรษ​แรก​ใน​เมือง​กัมลา ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​ทะเลสาบ​กาลิลี​ไป​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ประมาณ 10 กม. ไม่​มี​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว​จาก​ศตวรรษ​แรก​ที่​ยัง​คง​อยู่​ใน​สภาพ​สมบูรณ์​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ จึง​ไม่​รู้​แน่ชัด​ว่า​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว​มี​ลักษณะ​อย่าง​ไร​จริง ๆ แบบ​จำลอง​นี้​มี​การ​ใส่​ราย​ละเอียด​ที่​น่า​จะ​มี​อยู่​ใน​ที่​ประชุม​หลาย​แห่ง​ใน​สมัย​นั้น

1. แถว​หน้า​สุด​หรือ​ที่​นั่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​ที่​ประชุม​อาจ​อยู่​ใกล้​หรือ​อยู่​บน​เวที​ของ​ผู้​บรรยาย

2. เวที​ที่​ครู​ขึ้น​ไป​อ่าน​กฎหมาย​ของ​โมเสส ที่​ตั้ง​เวที​ใน​ที่​ประชุม​แต่​ละ​แห่ง​อาจ​แตกต่าง​กัน

3. ที่​นั่ง​ข้าง​ผนัง​จะ​เป็น​ของ​คน​สำคัญ​ใน​ชุมชน ส่วน​คน​อื่น ๆ อาจ​ปู​เสื่อ​นั่ง​บน​พื้น ดู​เหมือน​ที่​ประชุม​ใน​กัมลา​มี​ที่​นั่ง 4 แถว

4. หีบ​เก็บ​ม้วน​หนังสือ​ศักดิ์สิทธิ์​อาจ​อยู่​ที่​ผนัง​ด้าน​หลัง

การ​จัด​ที่​นั่ง​ใน​ที่​ประชุม​แบบ​นี้​เตือน​ให้​คน​ที่​มา​ประชุม​ไม่​ลืม​ว่า​แต่​ละ​คน​มี​ฐานะ​ตำแหน่ง​อย่าง​ไร​ใน​สังคม ใคร​เป็น​ใหญ่​กว่า​ใคร ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ชอบ​เถียง​กัน​บ่อย ๆ—มธ 18:1-4; 20:20, 21; มก 9:33, 34; ลก 9:46-48

ที่​นั่ง​ที่​มี​เกียรติ​ใน​งาน​เลี้ยง
ที่​นั่ง​ที่​มี​เกียรติ​ใน​งาน​เลี้ยง

ใน​ศตวรรษ​แรก ปกติ​แล้ว​ผู้​คน​จะ​นั่ง​เอน​ตัว​ที่​โต๊ะ​เพื่อ​กิน​อาหาร แต่​ละ​คน​จะ​เอา​ศอก​ซ้าย​ยัน​หมอน​อิง​ไว้​และ​กิน​อาหาร​โดย​ใช้​มือ​ขวา ตาม​ธรรมเนียม​ของ​กรีก​และ​โรมัน​ห้อง​อาหาร​โดย​ทั่ว​ไป​จะ​มี​เก้าอี้​ยาว 3 ตัว​ตั้ง​อยู่​รอบ​โต๊ะ​อาหาร​เตี้ย ๆ ชาว​โรมัน​เรียก​ห้อง​อาหาร​แบบ​นี้​ว่า ไตรคลิเนียม (คำ​ละติน​ที่​มา​จาก​คำ​กรีก​ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​ว่า “ห้อง​ที่​มี​เก้าอี้​ยาว 3 ตัว”) แม้​ตาม​ปกติ​แล้ว​การ​ตั้ง​เก้าอี้​แบบ​นี้​จะ​นั่ง​ได้ 9 คน โดย​นั่ง​ตัว​ละ 3 คน แต่​เพื่อ​จะ​รับรอง​คน​ได้​มาก​ขึ้น​ก็​อาจ​ใช้​เก้าอี้​ที่​ยาว​ขึ้น​ได้ เชื่อ​กัน​ว่า​ที่​นั่ง​แต่​ละ​ที่​ใน​ห้อง​อาหาร​บ่ง​บอก​ถึง​ฐานะ​หรือ​เกียรติ​ของ​คน​คน​นั้น เก้าอี้​ยาว​ตัว​หนึ่ง​สำหรับ​คน​ที่​มี​เกียรติ​น้อย​ที่​สุด (ก) อีก​ตัว​หนึ่ง​อยู่​ตรง​กลาง (ข) และ​อีก​ตัว​ไว้​สำหรับ​คน​ที่​มี​เกียรติ​มาก​ที่​สุด (ค) ตำแหน่ง​ที่​นั่ง​บน​เก้าอี้​ยาว​แต่​ละ​ตัว​ก็​มี​ความ​สำคัญ​แตกต่าง​กัน​ด้วย คน​ที่​นั่ง​ข้าง​ซ้าย​จะ​มี​เกียรติ​มาก​กว่า​คน​ที่​นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​เขา แต่​ถ้า​งาน​เลี้ยง​นั้น​เป็น​งาน​เลี้ยง​แบบ​เป็น​ทาง​การ เจ้าภาพ​มัก​จะ​นั่ง​อยู่​ตรง​ที่​นั่ง​แรก (หมาย​เลข 1) บน​เก้าอี้​ยาว​ที่​มี​เกียรติ​น้อย​ที่​สุด ส่วน​แขก​ที่​สำคัญ​ที่​สุด (หมาย​เลข 2) จะ​ได้​นั่ง​ติด​กับ​เจ้า​ภาพ​บน​เก้าอี้​ยาว​ที่​อยู่​ตรง​กลาง ถึง​แม้​เรา​ไม่​รู้​แน่ชัด​ว่า​ชาว​ยิว​เอา​ธรรมเนียม​นี้​ไป​ใช้​มาก​ขนาด​ไหน แต่​ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​ธรรมเนียม​นี้​เพื่อ​สอน​สาวก​เรื่อง​ความ​ถ่อม