เขียนโดยลูกา 10:1-42

10  ต่อ​มา พระ​เยซู​เลือก​สาวก​อีก 70 คน แล้ว​ส่ง​ออก​ไป​เป็น​คู่ ๆ+ ให้​พวก​เขา​ล่วง​หน้า​ไป​ตาม​เมือง​และ​ที่​ต่าง ๆ ที่​ท่าน​กำลัง​จะ​ไป+ 2  พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “งาน​เกี่ยว​เป็น​งาน​ใหญ่​จริง ๆ แต่​ยัง​มี​คน​งาน​น้อย​อยู่ ดัง​นั้น ให้​ช่วย​กัน​ขอ​เจ้า​ของ​นา​ให้​ส่ง​คน​ไป​มาก​ขึ้น​เพื่อ​ทำ​งาน​เกี่ยว​ของ​พระองค์+ 3  ไป​เถอะ แต่​ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า เมื่อ​ผม​ใช้​พวก​คุณ​ไป พวก​คุณ​จะ​เป็น​เหมือน​ลูก​แกะ​ใน​ฝูง​หมา​ป่า+ 4  ไม่​ต้อง​เอา​ถุง​เงิน ย่าม​ใส่​อาหาร หรือ​รอง​เท้า​ไป+ และ​อย่า​หยุด​ทักทาย​ใคร​นาน ๆ ระหว่าง​ทาง+ 5  เมื่อ​คุณ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ไหน ให้​อวยพร​เขา​ก่อน​ว่า ‘ขอ​ให้​บ้าน​นี้​มี​ความ​สงบ​สุข’+ 6  ถ้า​บ้าน​นั้น​มี​คน​ที่​ชอบ​ความ​สงบ​สุข เขา​ก็​จะ​ได้​รับ​พร​นั้น แต่​ถ้า​ไม่ คุณ​เอง​ก็​ยัง​มี​ความ​สงบ​สุข​อยู่ 7  ให้​คุณ​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​คน​ที่​ต้อนรับ​คุณ+ ไม่​ต้อง​ย้าย​ไป​บ้าน​อื่น เมื่อ​เขา​เอา​อะไร​มา​ให้​กิน​และ​ดื่ม​ก็​กิน​ได้+ เพราะ​คน​งาน​ควร​จะ​ได้​ค่า​จ้าง+ 8  “เมื่อ​คุณ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ไหน แล้ว​พวก​เขา​ต้อนรับ ก็​ให้​กิน​ของ​ที่​เขา​จัด​ให้ 9  รักษา​คน​ป่วย​ใน​เมือง​นั้น และ​บอก​พวก​เขา​ว่า ‘รัฐบาล*ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​คุณ​แล้ว’+ 10  แต่​เมื่อ​คุณ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ไหน แล้ว​พวก​เขา​ไม่​ต้อนรับ ก็​ให้​ออก​ไป​ที่​ถนน​ใหญ่​และ​พูด​ว่า 11  ‘เรา​ปัด​ฝุ่น​ที่​ติด​เท้า​มา​จาก​เมือง​นี้​เพื่อ​แสดง​ว่า​เรา​เตือน​คุณ​แล้ว+ และ​ขอ​ให้​รู้​ไว้​ว่า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว’ 12  ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ใน​วัน​พิพากษา เมือง​นั้น​จะ​รับ​โทษ​หนัก​กว่า​เมือง​โสโดม​อีก+ 13  “เมือง​โคราซิน เมือง​เบธไซดา พวก​คุณ​ต้อง​เดือดร้อน​แน่ ๆ ถ้า​ผม​ไป​ทำ​การ​อัศจรรย์​ใน​เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซดอน​เหมือน​กับ​ที่​ผม​ทำ​ใน​เมือง​ของ​พวก​คุณ+ ป่าน​นี้​พวก​เขา​คง​ใส่​ผ้า​กระสอบ​นั่ง​บน​กอง​ขี้เถ้า​แสดง​การ​กลับ​ใจ​ไป​นาน​แล้ว+ 14  ดัง​นั้น เมื่อ​ถึง​ตอน​พิพากษา พวก​คุณ​จะ​รับ​โทษ​หนัก​กว่า​เมือง​ไทระ​กับ​เมือง​ไซดอน​อีก 15  ส่วน​เมือง​คาเปอร์นาอุม+ พวก​คุณ​คิด​ว่า​จะ​ถูก​ยก​ขึ้น​ให้​สูง​เสียด​ฟ้า​หรือ? พวก​คุณ​จะ​ต้อง​ลง​ไป​ใน​หลุม​ศพ​ต่าง​หาก 16  “คน​ที่​ฟัง​คุณ​ก็​เท่า​กับ​ฟัง​ผม+ คน​ที่​ปฏิเสธ​คุณ​ก็​เท่า​กับ​ปฏิเสธ​ผม และ​คน​ที่​ปฏิเสธ​ผม​ก็​เท่า​กับ​ปฏิเสธ​พระองค์​ผู้​ที่​ใช้​ผม​มา”+ 17  ต่อ​มา สาวก 70 คน​นั้น​กลับ​มา​ด้วย​ความ​ดีใจ​และ​พูด​ว่า “อาจารย์*ครับ พอ​เรา​อ้าง​ชื่อ​ท่าน แม้​แต่​ปีศาจ​ก็​ยัง​อยู่​ใต้​อำนาจ​เรา​เลย”+ 18  พระ​เยซู​จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผม​เห็น​ซาตาน​ตก​จาก​ฟ้า​แล้ว+เหมือน​ฟ้า​แลบ 19  ผม​ให้​พวก​คุณ​มี​อำนาจ​เหยียบ​งู​พิษ​และ​แมงป่อง+ และ​มี​อำนาจ​เหนือ​ศัตรู​ทั้ง​หมด+ จะ​ไม่​มี​อะไร​มา​ทำ​ร้าย​พวก​คุณ​ได้​เลย 20  อย่า​ดีใจ​ที่​ปีศาจ​อยู่​ใต้​อำนาจ​พวก​คุณ แต่​ให้​ดีใจ​ที่​ชื่อ​ของ​พวก​คุณ​จด​ไว้​แล้ว​ใน​สวรรค์”+ 21  ใน​เวลา​นั้น พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​พระ​เยซู​มี​ความ​สุข​มาก ท่าน​จึง​พูด​ว่า “พ่อ​ครับ พระองค์​มี​อำนาจ​เหนือ​สวรรค์​และ​โลก​นี้ ผม​ขอ​สรรเสริญ​พระองค์​ต่อ​หน้า​ทุก​คน เพราะ​พระองค์​ซ่อน​สิ่ง​เหล่า​นี้​ไว้​อย่าง​มิดชิด​จาก​คน​มี​ความ​รู้​และ​คน​ฉลาด+ แต่​เปิด​เผย​ให้​เด็ก​เล็ก ๆ ได้​รู้ พ่อ​ครับ ผม​ขอ​สรรเสริญ​พระองค์​ที่​ทำ​อย่าง​นั้น”+ 22  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​หัน​มา​พูด​ว่า “ตอน​นี้​พ่อ​ของ​ผม​ให้​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​กับ​ผม​แล้ว ไม่​มี​ใคร​รู้​จัก​ลูก​ของ​พระเจ้า​นอก​จาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ และ​ไม่​มี​ใคร​รู้​จัก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​นอก​จาก​ลูก​ของ​พระองค์+และ​คน​ที่​ท่าน​อยาก​บอก​ให้​รู้”+ 23  เมื่อ​อยู่​กัน​ตาม​ลำพัง​แล้ว​พระ​เยซู​ก็​พูด​กับ​พวก​สาวก​ว่า “คน​ที่​เห็น​สิ่ง​ที่​พวก​คุณ​เห็น​อยู่​นี้​ก็​มี​ความ​สุข+ 24  ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ผู้​พยากรณ์​หลาย​คน​และ​กษัตริย์​หลาย​องค์​อยาก​จะ​เห็น​สิ่ง​ที่​พวก​คุณ​เห็น​อยู่​นี้​แต่​ไม่​ได้​เห็น+ และ​อยาก​จะ​ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​พวก​คุณ​ได้​ยิน​อยู่​นี้​แต่​ก็​ไม่​ได้​ยิน” 25  มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ยืน​ขึ้น​ทดสอบ​พระ​เยซู​และ​ถาม​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​ต้อง​ทำ​อะไร​ถึง​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป?”*+ 26  ท่าน​ตอบ​เขา​ว่า “กฎหมาย​ของ​โมเสส​เขียน​ไว้​ว่า​อะไร? คุณ​อ่าน​แล้ว​เข้าใจ​ยัง​ไง?” 27  เขา​ตอบ​ว่า “‘ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​คุณ​สุด​หัวใจ สุด​ชีวิต สุด​กำลัง และ​สุด​ความ​คิด’+ และ ‘ให้​รัก​คน​อื่น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง’”+ 28  พระ​เยซู​บอก​เขา​ว่า “ถูก​แล้ว ทำ​ตาม​กฎหมาย​สอง​ข้อ​นี้ แล้ว​คุณ​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป”+ 29  แต่​ผู้​ชาย​คน​นั้น​อยาก​จะ​แสดง​ว่า​เขา​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​อยู่​แล้ว+ จึง​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “แล้ว​ใคร​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​รัก?” 30  พระ​เยซู​ตอบ​ว่า “มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​เดิน​ทาง​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ลง​ไป​เมือง​เยรีโค​และ​เขา​ถูก​ปล้น​กลาง​ทาง พวก​โจร​เอา​เสื้อ​ผ้า​และ​ข้าว​ของ​ไป​หมด แถม​ยัง​ทุบ​ตี​เขา​จน​เกือบ​ตาย​แล้ว​ก็​หนี​ไป 31  ปุโรหิต​คน​หนึ่ง​บังเอิญ​ผ่าน​มา​ทาง​นั้น แต่​เมื่อ​เห็น​คน​ที่​ถูก​ปล้น เขา​ก็​ข้าม​ถนน​ไป​เดิน​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง 32  คน​เลวี​คน​หนึ่ง​ก็​ทำ​เหมือน​กัน เมื่อ​เขา​มา​ถึง​ที่​นั่น​และ​เห็น​คน​ที่​ถูก​ปล้น เขา​ก็​ข้าม​ถนน​ไป​เดิน​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง 33  แต่​เมื่อ​คน​สะมาเรีย+คน​หนึ่ง​เดิน​ผ่าน​มา​เห็น​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ก็​รู้สึก​สงสาร 34  เขา​เข้า​ไป​หา เท​น้ำมัน​กับ​เหล้า​องุ่น​ใส่​แผล​และ​พัน​ผ้า​ไว้ แล้ว​ยก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​ขึ้น​ขี่​หลัง​สัตว์​ของ​ตัว​เอง พา​ไป​ที่​โรงแรม และ​คอย​ดู​แล​เขา 35  ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น เขา​ให้​เงิน 2 เดนาริอัน​กับ​เจ้า​ของ​โรงแรม​แล้ว​พูด​ว่า ‘ดู​แล​เขา​ให้​ด้วย ถ้า​มี​ค่า​ใช้​จ่าย​เกิน​นี้ ตอน​กลับ​มา​ผม​จะ​จ่าย​คืน​ให้’ 36  ใน​สาม​คน​นี้ คุณ​ว่า​คน​ไหน​รัก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง?”+ 37  เขา​ตอบ​ว่า “คน​ที่​ช่วยเหลือ​เขา”+ พระ​เยซู​จึง​บอก​เขา​ว่า “ให้​คุณ​ไป​ทำ​อย่าง​นั้น​เหมือน​กัน”+ 38  พระ​เยซู​กับ​พวก​สาวก​เดิน​ทาง​เข้า​ไป​ใน​หมู่​บ้าน​แห่ง​หนึ่ง มี​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ชื่อ​มาร์ธา+ได้​ต้อนรับ​ท่าน​ที่​บ้าน​ของ​เธอ 39  มาร์ธา​มี​น้อง​สาว​ชื่อ​มารีย์ มารีย์​นั่ง​ลง​แทบ​เท้า​พระ​เยซู​และ​ฟัง​ท่าน​พูด*อย่าง​ตั้ง​อก​ตั้งใจ 40  ส่วน​มาร์ธา​ยุ่ง​อยู่​กับ​งาน​หลาย​อย่าง เธอ​เข้า​มา​พูด​กับ​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​คะ ท่าน​ไม่​เห็น​หรือ​ว่า​น้อง​สาว​ปล่อย​ให้​ดิฉัน​ทำ​งาน​อยู่​คน​เดียว? ช่วย​บอก​เธอ​ให้​มา​ช่วย​หน่อย​สิ​คะ” 41  ท่าน​ตอบ​เธอ​ว่า “มาร์ธา มาร์ธา คุณ​กังวล​และ​วุ่นวาย​กับ​หลาย​อย่าง​เกิน​ไป 42  สิ่ง​ที่​จำเป็น​มี​แค่​ไม่​กี่​อย่าง หรือ​แค่​อย่าง​เดียว​ก็​พอ​แล้ว+ มารีย์​เลือก​สิ่ง​ที่​ดี+ และ​จะ​ไม่​มี​ใคร​มา​แย่ง​สิ่ง​นั้น​ไป​จาก​เธอ​ได้”

เชิงอรรถ

หรือ “ราชอาณาจักร”
หรือ “นาย”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป​เป็น​มรดก”
หรือ “สอน”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

ต่อ​มา: เหตุ​การณ์​ที่​บันทึก​ใน ลก 10:1 ถึง 18:14 ไม่​มี​พูด​ถึง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เล่ม​อื่น ถึง​แม้​จะ​มี​บาง​เรื่อง​ใน​บท​เหล่า​นั้น​ที่​ผู้​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เล่ม​อื่น​ก็​บันทึก​ด้วย แต่​ดู​เหมือน​พวก​เขา​พูด​ถึง​เรื่อง​เหล่า​นี้​ใน​ช่วง​เวลา​ก่อน​หน้า​นั้น เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​ลูกา​บันทึก​น่า​จะ​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​เทศกาล​อยู่​เพิง​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี ค.ศ. 32 (ดูภาค​ผนวก ก​7) ตอน​นั้น พระ​เยซู​เน้น​งาน​รับใช้​ใน​เขต​แดน​ทาง​ใต้​คือ​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​และ​บริเวณ​โดย​รอบ รวม​ถึง​เขต​ต่าง ๆ ใน​แคว้น​ยูเดีย​และ​พีเรีย พระ​เยซู​ให้​ความ​สนใจ​กับ​การ​ประกาศ​ใน​พื้น​ที่​เหล่า​นั้น​ใน​ช่วง 6 เดือน​สุด​ท้าย​ที่​ท่าน​รับใช้​อยู่​บน​โลก

70 คน: สำเนา​พระ​คัมภีร์​เก่าแก่​บาง​ฉบับ​บอก​ว่า “72 คน” และ​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ก็​แปล​แบบ​นี้ แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​เก่าแก่​และ​น่า​เชื่อถือ​ส่วน​ใหญ่​ใช้​คำ​ว่า “70 คน” สำเนา​เหล่า​นี้​รวม​ถึง​โคเดกซ์​ไซนายติคุส​ซีเรีย​คุ​ส​จาก​ศตวรรษ​ที่ 4 และ​โคเดกซ์​อะเล็กซานดรินุส​กับ​โคเดกซ์​เอแฟรมิ ซีรี เรสคริป​ทุส​จาก​ศตวรรษ​ที่ 5 ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เหตุ​ผล​หลาย​อย่าง​สำหรับ​ความ​แตกต่าง​นี้ แต่​จริง ๆ แล้ว​นี่​เป็น​ความ​แตกต่าง​ที่​เล็ก​น้อย​ซึ่ง​ไม่​ได้​ส่ง​ผล​ต่อ​เรื่อง​ราว​โดย​รวม การ​ที่​สำเนา​เก่าแก่​และ​ฉบับ​แปล​ต่าง ๆ มาก​มาย​ให้​ข้อมูล​หลัก​ที่​สอดคล้อง​กัน​ทั้ง​หมด​ยืน​ยัน​ว่า​พระ​เยซู​ได้​ส่ง​สาวก​กลุ่ม​ใหญ่​ออก​ไป​ประกาศ​เป็น​คู่ ๆ จริง ๆ

อีก 70 คน: ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​ส่ง​สาวก​ออก​ไป​อีก 70 คน​นอก​เหนือ​จาก​อัครสาวก 12 คน​ที่​ถูก​ฝึก​และ​ถูก​ส่ง​ไป​ก่อน​หน้า​นี้—ลก 9:1-6

รอง​เท้า: ที่​พระ​เยซู​บอก​ว่า​ไม่​ต้อง​เอา​รอง​เท้า​ไป​น่า​จะ​หมาย​ถึง​ไม่​ต้อง​เอา​รอง​เท้า​อีก​คู่​หนึ่ง​ไป​เผื่อ เป็น​เรื่อง​ปกติ​ที่​จะ​เอา​รอง​เท้า​อีก​คู่​ไป​เผื่อ​เมื่อ​เดิน​ทาง​ไกล​เพราะ​พื้น​รอง​เท้า​ที่​ใส่​อยู่​อาจ​สึก​จน​ใส่​ไม่​ได้​หรือ​สาย​รัด​อาจ​ขาด ตอน​ให้​คำ​แนะ​นำ​คล้าย ๆ กัน​ก่อน​หน้า​นี้​พระ​เยซู​บอก​สาวก​ว่า “รอง​เท้า​ก็​มี​แค่​คู่​ที่​ใส่​อยู่​ก็​พอ” (มก 6:8, 9) และ​ตาม​บันทึก​ที่ มธ 10:9, 10 ท่าน​แนะ​นำ​ให้​พวก​เขา “ไม่​ต้อง​มี” รอง​เท้า​อีก​คู่​หนึ่ง ซึ่ง​ก็​คือ​ไม่​ต้อง​เอา​รอง​เท้า​อีก​คู่​ไป​เผื่อน​อก​จาก​คู่​ที่​พวก​เขา​ใส่​อยู่

ทักทาย​ใคร: หรือ “กอด​ทักทาย​ใคร” ใน​บาง​สถานการณ์ คำ​กรีก อาสพาศอไม (“ทักทาย”) อาจ​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​แค่​การ​พูด​ทักทาย​ว่า “สวัสดี” แต่​อาจ​รวม​ถึง​การ​กอด​และ​พูด​คุย​กัน​ยืด​ยาว​เหมือน​เวลา​เพื่อน​เจอ​กัน พระ​เยซู​ไม่​ได้​สอน​ให้​สาวก​ของ​ท่าน​เป็น​คน​ไม่​มี​มารยาท แต่​ท่าน​กำลัง​เน้น​ว่า​สาวก​ต้อง​ไม่​สนใจ​สิ่ง​อื่น​ที่​ไม่​จำเป็น​และ​ใช้​เวลา​ให้​เกิด​ประโยชน์​มาก​ที่​สุด ผู้​พยากรณ์​เอลีชา​ก็​เคย​ให้​คำ​แนะ​นำ​คล้าย ๆ กัน​นี้​กับ​เกหะซี​คน​รับใช้​ของ​เขา (2พก 4:29) ใน​ทั้ง​สอง​กรณี งาน​มอบหมาย​เป็น​เรื่อง​เร่ง​ด่วน​มาก​และ​ไม่​ควร​ชักช้า​เสีย​เวลา

คน​ที่​ชอบ​ความ​สงบ​สุข: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ลูก​ของ​ความ​สงบ​สุข” สำนวน​ภาษา​กรีก​นี้​ทำ​ให้​คิด​ถึง​สำนวน​หนึ่ง​ใน​ภาษา​ฮีบรู​ที่​หมาย​ถึง​คน​ที่​รัก​สันติ​หรือ​มี​ความ​สงบ​สุข ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ คำ​นี้​หมาย​ถึง​คน​ที่​อยาก​คืน​ดี​กับ​พระเจ้า​พร้อม​ทั้ง​เชื่อ​ฟัง​และ​ตอบรับ “ข่าว​ดี​ที่​ว่า​คน​เรา​จะ​มี​สันติ​สุข​กับ​พระเจ้า” สิ่ง​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​เขา​มี​สันติ​สุข​กับ​พระเจ้า—กจ 10:36

ไม่​ต้อง​ย้าย​ไป​บ้าน​อื่น: ก่อน​หน้า​นี้​พระ​เยซู​เคย​ให้​คำ​แนะ​นำ​คล้าย​กัน​กับ​อัครสาวก 12 คน (มธ 10:11; มก 6:10; ลก 9:4) ตอน​นี้​ท่าน​แนะ​นำ​สาวก 70 คน​ว่า​เมื่อ​พวก​เขา​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ใด​เมือง​หนึ่ง พวก​เขา​ควร​พัก​อยู่​ใน​บ้าน​ที่​แสดง​น้ำใจ​ต้อนรับ การ​ที่​พวก​สาวก​ไม่​ย้าย​ไป​บ้าน​ที่​สะดวก​สบาย น่า​อยู่​กว่า หรือ​ให้​ความ​บันเทิง​ได้​มาก​กว่า​เป็น​การ​แสดง​ว่า​พวก​เขา​ให้​งาน​ประกาศ​สำคัญ​กว่า​เรื่อง​พวก​นี้

รับ​โทษ​หนัก​กว่า: ดู​เหมือน​ว่า​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ใน​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร แต่​เป็น​อติพจน์​หรือ​คำ​พูด​เกิน​จริง (เทียบ​กับ​อติพจน์​อื่น ๆ ที่​พระ​เยซู​ใช้ เช่น​ที่ มธ 5:18; ลก 16:17; 21:33) เมื่อ​พระ​เยซู​พูด​ว่า “ใน​วัน​พิพากษา เมือง​นั้น​จะ​รับ​โทษ​หนัก​กว่า​เมือง​โสโดม​อีก” (มธ 10:15; 11:22, 24; ลก 10:14) ท่าน​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ยัง​มี​เมือง​โสโดม​อยู่​ใน​ตอน​นั้น (เทียบ​กับ ยด 7) แต่​พระ​เยซู​กำลัง​เน้น​ว่า​คน​ส่วน​ใหญ่​ใน​เมือง​โคราซิน เบธไซดา และ​คาเปอร์นาอุม​ไม่​ตอบรับ​และ​สม​ควร​จะ​ถูก​ลง​โทษ​ขนาด​ไหน (ลก 10:13-15) น่า​สังเกต​ว่า​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​เมือง​โสโดม​โบราณ​กลาย​มา​เป็น​ภาษิต​หรือ​คำ​เปรียบ​เทียบ​ที่​มัก​ใช้​เมื่อ​พูด​ถึง​ความ​โกรธ​และ​การ​พิพากษา​ลง​โทษ​จาก​พระเจ้า—ฉธบ 29:23; อสย 1:9; พคค 4:6

เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซดอน: เมือง​ของ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว​ใน​เขต​ฟีนิเซีย​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​บน​ชายฝั่ง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน—ดูภาค​ผนวก ข​10

ผม​เห็น​ซาตาน​ตก​จาก​ฟ้า​แล้ว​เหมือน​ฟ้า​แลบ: ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​พูด​ใน​เชิง​พยากรณ์​ว่า​เห็น​ซาตาน​ถูก​เหวี่ยง​ลง​มา​จาก​สวรรค์ และ​ท่าน​พูด​เหมือน​กับ​ว่า​เรื่อง​นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​แล้ว ที่ วว 12:7-9 พูด​ถึง​การ​สู้​รบ​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​สวรรค์​และ​เชื่อม​โยง​การ​ที่​ซาตาน​ตก​ลง​มา​กับ​การ​ก่อ​ตั้ง​รัฐบาล​เมสสิยาห์ พระ​เยซู​เน้น​ว่า​ซาตาน​และ​ปีศาจ​พรรค​พวก​ของ​มัน​จะ​ต้อง​แพ้​อย่าง​แน่นอน​ใน​การ​สู้​รบ​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​อนาคต เพราะ​พระเจ้า​ได้​ให้​อำนาจ​สาวก 70 คน​ที่​เป็น​แค่​คน​ไม่​สมบูรณ์​ให้​ขับ​ไล่​ปีศาจ​ได้—ลก 10:17

งู​พิษ​และ​แมงป่อง: ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ พระ​เยซู​พูด​ถึง​สัตว์​เหล่า​นี้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย​เพื่อ​เป็น​สัญลักษณ์​ถึง​สิ่ง​ที่​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​เสียหาย—เทียบ​กับ อสค 2:6

พระ​ยะโฮวา: ข้อ​ความ​นี้​ยก​มา​จาก ฉธบ 6:5 ซึ่ง​ใน​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​มี​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​เขียน​ด้วย​อักษร​ฮีบรู 4 ตัว (ตรง​กับ​เสียง​อักษร​ไทย ยฮวฮ)

หัวใจ . . . ชีวิต . . . กำลัง . . . ความ​คิด: ใน​ข้อ​นี้​ผู้​ชาย​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ยก​ข้อ​ความ​จาก ฉธบ 6:5 ซึ่ง​ใน​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​ใช้​คำ 3 คำ​คือ หัวใจ ชีวิต และ​กำลัง แต่​ใน​บันทึก​ของ​ลูกา​ซึ่ง​เขียน​เป็น​ภาษา​กรีก​ผู้​ชาย​คน​นี้​ใช้​คำ 4 คำ​คือ หัวใจ ชีวิต กำลัง และ​ความ​คิด คำ​ตอบ​ของ​ผู้​ชาย​คน​นี้​แสดง​ว่า​ใน​สมัย​พระ​เยซู​คน​ทั่ว​ไป​ยอม​รับ​ว่า​คำ​กรีก 4 คำ​นี้​มี​ความ​หมาย​เท่า​กับ​คำ​ฮีบรู 3 คำ​ใน​ข้อ​ความ​ดั้งเดิม—สำหรับ​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 12:30

คน​อื่น: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 22:39

คน​สะมาเรีย​คน​หนึ่ง: โดย​ทั่ว​ไป​คน​ยิว​จะ​ดูถูก​คน​สะมาเรีย​และ​ไม่​คบหา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พวก​เขา​เลย (ยน 4:9) คน​ยิว​บาง​คน​ถึง​กับ​ใช้​คำ​ว่า “คน​สะมาเรีย” เพื่อ​สบประมาท​และ​ด่า​ว่า​คน​อื่น (ยน 8:48) หนังสือ​มิชนาห์​พูด​ถึง​คำ​พูด​ของ​รับบี​คน​หนึ่ง​ที่​บอก​ว่า “คน​ที่​กิน​ขนมปัง​ของ​คน​สะมาเรีย​ก็​เหมือน​คน​ที่​กิน​เนื้อ​หมู” (เชบิธ 8:10) คน​ยิว​หลาย​คน​ไม่​เชื่อ​คำ​ให้​การ​ของ​คน​สะมาเรีย​และ​ไม่​ยอม​รับ​การ​บริการ​ใด ๆ จาก​คน​สะมาเรีย พระ​เยซู​รู้​ว่า​คน​ยิว​โดย​ทั่ว​ไป​ดูถูก​คน​สะมาเรีย ท่าน​จึง​ใช้​เรื่อง​นี้​เพื่อ​สอน​บทเรียน​สำคัญ​ใน​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​ท่าน

เท​น้ำมัน​กับ​เหล้า​องุ่น​ใส่​แผล​และ​พัน​ผ้า​ไว้: ใน​ข้อ​นี้​ลูกา​ที่​เป็น​หมอ​บันทึก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ละเอียด​โดย​อธิบาย​วิธี​ทำ​แผล​ที่​สอดคล้อง​กับ​สิ่ง​ผู้​คน​ทำ​กัน​ใน​สมัย​นั้น คือ​ใช้​น้ำมัน​และ​เหล้า​องุ่น​เป็น​ยา​สามัญ​ประจำ​บ้าน​ใน​การ​รักษา​แผล บาง​ครั้ง​มี​การ​ใช้​น้ำมัน​เพื่อ​ทำ​ให้​แผล​อ่อน​นุ่ม (เทียบ​กับ อสย 1:6) และ​เหล้า​องุ่น​มี​คุณสมบัติ​เป็น​ยา​ฆ่า​เชื้อ​อ่อน ๆ ลูกา​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​มี​การ​เอา​ผ้า​พัน​แผล​ไว้​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​แผล​แย่​ลง

โรงแรม: คำ​กรีก​นี้​แปล​ตรง​ตัว​ว่า “สถาน​ที่​ที่​รับ​ทุก​คน​เข้า​มา” โรงแรม​แบบ​นี้​เป็น​ที่​ที่​นัก​เดิน​ทาง​พัก​ค้าง​คืน​ได้​พร้อม​กับ​สัตว์​ของ​พวก​เขา เจ้า​ของ​โรงแรม​จะ​ให้​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน​กับ​นัก​เดิน​ทาง และ​เขา​จะ​คิด​เงิน​เพิ่ม​ถ้า​นัก​เดิน​ทาง​ต้องการ​ฝาก​ให้​เขา​ดู​แล​บาง​อย่าง

เดนาริอัน: ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เดนาริอัน” และภาค​ผนวก ข​14

คน​ที่​ช่วยเหลือ​เขา: ผู้​ชาย​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​อาจ​ไม่​อยาก​ตอบ​ว่า “คน​สะมาเรีย” ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร คำ​ตอบ​ของ​ผู้​ชาย​คน​นี้​รวม​ทั้ง​คำ​พูด​ตอน​ท้าย​ของ​พระ​เยซู​ก็​แสดง​ให้​เห็น​จุด​สำคัญ​ของ​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​อย่าง​ชัดเจน​นั่น​คือ เพื่อน​บ้าน​ที่​ดี​คือ​คน​ที่​แสดง​ความ​เมตตา

หมู่​บ้าน​แห่ง​หนึ่ง: น่า​จะ​เป็น​หมู่​บ้าน​เบธานี ซึ่ง​อยู่​บน​ไหล่​เขา​ด้าน​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ของ​ภูเขา​มะกอก​ห่าง​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ประมาณ 3 กม. (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 11:18) บ้าน​ของ​มาร์ธา มารีย์ และ​ลาซารัส​อยู่​ใน​หมู่​บ้าน​นี้ เบธานี​เป็น​เหมือน​บ้าน​ของ​พระ​เยซู​ใน​แคว้น​ยูเดีย เหมือน​กับ​ที่​เมือง​คาเปอร์นาอุม​เป็น​เหมือน​บ้าน​ของ​ท่าน​ใน​แคว้น​กาลิลี—มก 2:1

มาร์ธา: ใน​ข้อ​นี้​พูด​ถึง​มาร์ธา​คน​เดียว​ที่​ได้​ต้อนรับ​พระ​เยซู​ที่​บ้าน​ของ​เธอ มาร์ธา​มัก​เป็น​คน​เริ่ม​ทำ​อะไร ๆ ก่อน (ลก 10:40; ยน 11:20) ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เธอ​อาจ​เป็น​พี่​สาว​ของ​มารีย์—ลก 10:39

สิ่ง​ที่​จำเป็น​มี​แค่​ไม่​กี่​อย่าง หรือ​แค่​อย่าง​เดียว​ก็​พอ​แล้ว: สำเนา​พระ​คัมภีร์​โบราณ​บาง​ฉบับ​มี​ข้อ​ความ​ที่​สั้น​กว่า​ซึ่ง​แปล​ได้​ว่า “สิ่ง​ที่​จำเป็น​นั้น​มี​เพียง​สิ่ง​เดียว” และ​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ฉบับ​ก็​แปล​แบบ​นี้ แต่​สำเนา​ที่​น่า​เชื่อถือ​ส่วน​ใหญ่​สนับสนุน​การ​แปล​แบบ​ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้ ไม่​ว่า​จะ​แปล​แบบ​ไหน​ความ​หมาย​โดย​รวม​ของ​พระ​เยซู​ก็​ยัง​เหมือน​เดิม นั่น​คือ​ต้อง​ให้​การ​นมัสการ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ชม​มารีย์​ว่า​เธอ​ได้​เลือก “สิ่ง​ที่​ดี” เพราะ​เธอ​ให้​ความ​สำคัญ​กับ​การ​นมัสการ​พระเจ้า​ก่อน​สิ่ง​อื่น

สิ่ง​ที่​ดี: หรือ “ส่วน​ที่​ดี​ที่​สุด” ใน​ฉบับ​เซปตัวจินต์ ​คำ​กรีก เมะริส ที่​แปล​ว่า “ส่วน” หรือ “สิ่ง” ใน​ข้อ​นี้​เป็น​คำ​ที่​ใช้​กับ​ส่วน​แบ่ง​อาหาร (ปฐก 43:34; ฉธบ 18:8) และ​ยัง​ใช้​กับ “ส่วน​แบ่ง” ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระเจ้า​ด้วย (สด 16:5; 119:57) ใน​กรณี​ของ​มารีย์ “สิ่ง​ที่​ดี” รวม​ถึง​การ​ได้​รับ​อาหาร​บำรุง​ความ​เชื่อ​จาก​ลูก​ของ​พระเจ้า

วีดีโอและรูปภาพ

หมา​ป่า
หมา​ป่า

หมา​ป่า​ใน​อิสราเอล​เป็น​นัก​ล่า​ที่​ชอบ​ออก​หา​กิน​ตอน​กลางคืน (ฮบก 1:8) หมา​ป่า​เป็น​สัตว์​ที่​ดุ​ร้าย ตะกละ ใจ​กล้า และ​โลภ มัน​มัก​จะ​ฆ่า​แกะ​มาก​เกิน​กว่า​ที่​มัน​จะ​กิน​ได้​หรือ​ลาก​ไป​ได้ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล มัก​มี​การ​ใช้​สัตว์​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​ลักษณะ​นิสัย​ของ​มัน​เป็น​ภาพ​เปรียบ​เทียบ​ทั้ง​ใน​ด้าน​ดี​และ​ไม่​ดี ตัว​อย่าง​เช่น ก่อน​ตาย​ยาโคบ​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​ตระกูล​เบนยามิน​ว่า​เป็น​นัก​สู้​เหมือน​หมา​ป่า (Canis lupus) (ปฐก 49:27) แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​มัก​มี​การ​เปรียบ​หมา​ป่า​กับ​คน​ที่​มี​นิสัย​ไม่​ดี เช่น ดุ​ร้าย โลภ ตะกละ และ​เจ้า​เล่ห์ คน​ที่​ถูก​เปรียบ​ว่า​เป็น​หมา​ป่า​มี​ทั้ง​ผู้​พยากรณ์​เท็จ (มธ 7:15) ผู้​ต่อ​ต้าน​ที่​โหด​ร้าย​ซึ่ง​ต่อ​ต้าน​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน (มธ 10:16; ลก 10:3) และ​พวก​ผู้​สอน​เท็จ​ซึ่ง​ทำ​ให้​ประชาคม​คริสเตียน​ตก​อยู่​ใน​อันตราย (กจ 20:29, 30) ผู้​เลี้ยง​แกะ​จะ​ต้อง​รู้​ว่า​หมา​ป่า​จะ​มา​ทำ​อันตราย​อะไร พระ​เยซู​พูด​ถึง “ลูกจ้าง” ซึ่ง “เมื่อ​เห็น​หมา​ป่า​มา เขา​ก็​ทิ้ง​ฝูง​แกะ​แล้ว​หนี​ไป” พระ​เยซู​ต่าง​จาก​ลูกจ้าง​คน​นั้น​ที่ “ไม่​ได้​เป็น​ห่วง​แกะ​จริง ๆ” ท่าน​เป็น “คน​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี” ซึ่ง​ยอม “สละ​ชีวิต​เพื่อ​แกะ”—ยน 10:11-13

ไม้เท้า​และ​ย่าม​ใส่​อาหาร
ไม้เท้า​และ​ย่าม​ใส่​อาหาร

ชาว​ฮีบรู​โบราณ​นิยม​ใช้​ไม้เท้า ไม้เท้า​เป็น​อุปกรณ์​ที่​มี​ประโยชน์​หลาย​อย่าง เช่น พยุง​ตัว (อพย 12:11; ศคย 8:4; ฮบ 11:21) ป้องกัน​อันตราย (2ซม 23:21) นวด​ข้าว (อสย 28:27) ตี​กิ่ง​มะกอก (ฉธบ 24:20; อสย 24:13) และ​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย ย่าม​ใส่​อาหาร​เป็น​กระเป๋า​สะพาย​ไหล่​ที่​มัก​ทำ​จาก​หนัง ซึ่ง​คน​เดิน​ทาง คน​เลี้ยง​แกะ ชาว​นา​ชาว​ไร่ และ​คน​อื่น ๆ ชอบ​ใช้​กัน ย่าม​นี้​ใช้​ใส่​อาหาร เสื้อ​ผ้า และ​ของ​อื่น ๆ ตอน​ที่​พระ​เยซู​ส่ง​อัครสาวก​ออก​ไป​เดิน​ทาง​ประกาศ ท่าน​ก็​พูด​เรื่อง​ไม้เท้า​และ​ย่าม​ใส่​อาหาร​ด้วย ท่าน​สั่ง​ให้​พวก​อัครสาวก​เอา​ไป​แต่​ไม้เท้า​และ​ย่าม​ที่​มี​อยู่​เท่า​นั้น พวก​เขา​ไม่​ต้อง​กังวล​และ​ไม่​ต้อง​เอา​สิ่ง​เหล่า​นี้​ไป​เผื่อ เพราะ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ดู​แล​พวก​เขา

คาเปอร์นาอุม โคราซิน และ​เบธไซดา
คาเปอร์นาอุม โคราซิน และ​เบธไซดา

ภาพ​มุม​กว้าง​ใน​วีดีโอ​นี้​ถ่าย​จาก​จุด​ชม​วิว​โอฟีร์ ซึ่ง​อยู่​ใกล้​ชายฝั่ง​ด้าน​ทิศ​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ทะเลสาบ​กาลิลี โคราซิน (หมาย​เลข 2) อยู่​ห่าง​จาก​บริเวณ​ที่​น่า​จะ​เป็น​เมือง​คาเปอร์นาอุม​สมัย​โบราณ (หมาย​เลข 1) ประมาณ 3 กิโลเมตร พระ​เยซู​มัก​จะ​พัก​อยู่​ที่​เมือง​คาเปอร์นาอุม​ใน​ช่วง 2 ปี​กว่า​ที่​ท่าน​รับใช้​ใน​แคว้น​กาลิลี อัครสาวก​เปโตร​กับ​อันดรูว์​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​นี้ ด่าน​เก็บ​ภาษี​ของ​มัทธิว​ก็​อยู่​ที่​นี่​หรือ​ใกล้ ๆ เมือง​นี้​ด้วย (มก 1:21, 29; 2:1, 13, 14; 3:16; ลก 4:31, 38) บ้าน​เกิด​ของ​เปโตร​กับ​อันดรูว์​รวม​ทั้ง​ฟีลิป​อยู่​ใกล้​เมือง​เบธไซดา (หมาย​เลข 3) (ยน 1:44) พระ​เยซู​ทำ​การ​อัศจรรย์​หลาย​อย่าง​ใน 3 เมือง​นี้​หรือ​ใน​บริเวณ​ใกล้ ๆ—ดู​ภาค​ผนวก ก​7-ง, แผนที่ 3​ข และ ก​7-จ, แผนที่ 4

ถนน​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ไป​เมือง​เยรีโค
ถนน​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ไป​เมือง​เยรีโค

ถนน​จาก​เยรูซาเล็ม​ไป​เยรีโค​ใน​สมัย​โบราณ​น่า​จะ​มี​เส้น​ทาง​คล้าย​กับ​ถนน​ใน​ปัจจุบัน​อย่าง​ที่​เห็น​ใน​วีดีโอ​สั้น​นี้ (หมาย​เลข 1) ถนน​จาก​เยรูซาเล็ม​ไป​เยรีโค​มี​ระยะ​ทาง​ยาว​กว่า 20 กม. และ​เป็น​ทาง​คดเคี้ยว​ที่​ลาด​ชัน​ลง​ไป 1 กม. เนื่อง​จาก​ที่​นี่​เป็น​ทาง​เปลี่ยว​และ​มัก​มี​โจร​ดัก​ปล้น​ผู้​คน​บ่อย​ ๆ จึง​มี​การ​ตั้ง​กอง​ทหาร​รักษา​การณ์​ไว้​เพื่อ​ปก​ป้อง​คน​เดิน​ทาง ตรง​จุด​ที่​ถนน​เส้น​นี้​แยก​ออก​มา​จาก​ที่​กันดาร คุณ​จะ​เห็น​ที่​ตั้ง​เมือง​เยรีโค​ของ​ชาว​โรมัน (หมาย​เลข 2) และ​ที่​ตั้ง​เมือง​เยรีโค​เก่า (หมาย​เลข 3) ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​เยรีโค​ของ​ชาว​โรมัน​เกือบ 2 กม.