เขียนโดยยอห์น 12:1-50
เชิงอรรถ
ข้อมูลสำหรับศึกษา
หกวันก่อนถึงเทศกาลปัสกา: พระเยซูคงต้องมาถึงหมู่บ้านเบธานีในวันที่ 8 เดือนนิสาน (ตอนดวงอาทิตย์ตก) ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของวันสะบาโต หลังจากวันสะบาโตสิ้นสุดลง (ตอนเริ่มต้นของวันที่ 9 เดือนนิสาน) พระเยซูกับมาร์ธา มารีย์ และลาซารัสก็ไปกินอาหารเย็นที่บ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคเรื้อน—ยน 12:2-11; ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 26:6 และภาคผนวก ก7 และ ข12
เบธานี: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 21:17
ลาซารัส: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ลก 16:20
อาหารเย็น: คืออาหารเย็นที่กินในบ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคเรื้อนหลังดวงอาทิตย์ตก ซึ่งเป็นตอนเริ่มต้นของวันที่ 9 เดือนนิสาน—มธ 26:6; มก 14:3
มารีย์: คือพี่น้องของมาร์ธาและลาซารัส (ยน 11:1, 2) บันทึกเหตุการณ์เดียวกันที่ มธ 26:7 และ มก 14:3 เรียกเธอว่า “ผู้หญิงคนหนึ่ง”
น้ำมันหอม . . . ที่มีราคาแพงมาก: ในบันทึกของยอห์น ยูดาสอิสคาริโอทบอกว่าถ้าเอาน้ำมันนี้ไปขายก็อาจได้เงิน “300 เดนาริอัน” (ยน 12:5) ซึ่งเท่ากับค่าแรงปกติของคนงานประมาณ 1 ปี เชื่อกันว่าน้ำมันหอมนี้ได้จากพืชที่มีกลิ่นหอมชนิดหนึ่ง (Nardostachys jatamansi) ซึ่งขึ้นในแถบเทือกเขาหิมาลัย มักมีการเอาน้ำมันที่ด้อยกว่ามาผสมและบางครั้งก็มีการปลอมแปลง แต่ทั้งมาระโกกับยอห์นบอกว่าน้ำมันที่ใช้กับพระเยซูนี้เป็นน้ำมันหอมนารดาบริสุทธิ์—มก 14:3; ดูส่วนอธิบายศัพท์คำว่า “นารดา”
ครึ่งลิตร: หรือ “1 ปอนด์โรมัน” คำกรีก ลิตรา เท่ากับ 1 ปอนด์โรมัน (ภาษาละติน ลิบรา) ซึ่งหนักประมาณ 327 กรัม—ดูภาคผนวก ข14
เทลงบนเท้าของพระเยซู: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มก 14:3
ที่กำลังจะทรยศพระเยซู: ข้อความนี้มีคำกริยากรีก 2 คำ (คือ คำว่า “กำลังจะ” และคำว่า “ทรยศ”) ซึ่งอยู่ในรูปคำที่แสดงว่าการทรยศของยูดาสไม่ได้เป็นแค่ความคิดชั่ววูบ แต่เกิดจากการไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อสรุปนี้สอดคล้องกับบันทึกใน ยน 6:64—ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 6:64
300 เดนาริอัน: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มก 14:5
เป็นการเตรียมผมไว้สำหรับพิธีฝังศพผม: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 26:12
วันต่อมา: คือเช้าวันที่ 9 เดือนนิสาน ปี ค.ศ. 33 วันที่ 9 เริ่มต้นตอนดวงอาทิตย์ตกในคืนก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นคืนที่พระเยซูไปกินอาหารที่บ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคเรื้อน—ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ยน 12:1 และภาคผนวก ข12
เทศกาล: จากท้องเรื่องทำให้รู้ว่าเทศกาลนี้คือเทศกาลปัสกา (ยน 11:55; 12:1; 13:1) เทศกาลปัสกาจะฉลองในวันที่ 14 เดือนนิสาน และเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อจะฉลองตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 21 เดือนนิสาน (ลนต 23:5, 6; กดว 28:16, 17; ดูภาคผนวก ข15) ในสมัยพระเยซู 2 เทศกาลนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากจนทำให้ผู้คนมองว่าเป็นเทศกาลเดียวกันซึ่งมีทั้งหมด 8 วัน คือตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 21 เดือนนิสาน (ลก 22:1) โยเซฟุสเคยพูดถึง “การฉลอง 8 วันซึ่งเรียกว่าเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ”—ดูภาคผนวก ข12
ขอให้ท่านอายุยืนยาว: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 21:9
พระยะโฮวา: ข้อความนี้ยกมาจาก สด 118:25, 26 ซึ่งในต้นฉบับภาษาฮีบรูมีชื่อของพระเจ้าเขียนด้วยอักษรฮีบรู 4 ตัว (ตรงกับเสียงอักษรไทย ยฮวฮ)—ดูภาคผนวก ก5
ชาวศิโยน: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 21:5
ลูกลา: ในบันทึกเหตุการณ์นี้ มาระโก (11:2) ลูกา (19:35) และยอห์นพูดถึงแต่ลูกลาเท่านั้น แต่บันทึกของมัทธิว (21:2-7) บอกว่ามีแม่ลาอยู่กับลูกของมันด้วย—ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 21:2, 5
อุโมงค์ฝังศพ: หรือ “อุโมงค์รำลึก”—ดูส่วนอธิบายศัพท์คำว่า “อุโมงค์รำลึก”
ชาวกรีก: ในศตวรรษแรก มีชุมชนชาวกรีกหลายชุมชนอยู่ในประเทศอิสราเอล แต่ในท้องเรื่องนี้ คำนี้น่าจะหมายถึงชาวกรีกที่เปลี่ยนมานับถือศาสนายิว น่าสังเกตว่าที่ ยน 12:32 พระเยซูพยากรณ์ว่า “ผมจะชักนำคนทุกชนิดมาหาผม”
รับใช้: มาจากคำกริยากรีก เดียคอเนะโอ คำนี้เกี่ยวข้องกับคำนามคนรับใช้ (เดียคอนอส) ที่อยู่ในข้อนี้ด้วย คัมภีร์ไบเบิลมักใช้คำกรีก เดียคอนอส ที่แปลว่า “คนรับใช้” เพื่อหมายถึงคนที่ทำงานรับใช้คนอื่นอย่างถ่อมตัวและไม่ย่อท้อ—ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ มธ 20:26
ผม: หรือ “ใจของผม” คำกรีก พะซูเฆ ในข้อนี้พระคัมภีร์หลายฉบับมักแปลว่า “จิตใจ, ใจ” จริง ๆ แล้วคำนี้หมายถึงตัวตนทั้งหมดของคนหนึ่ง ดังนั้น จึงอาจแปลได้ว่า “ตัวตนทั้งหมดของผม” หรือแค่ “ผม”
เสียงพูด: นี่เป็นครั้งที่สามในทั้งหมด 3 ครั้งที่มีการบันทึกในหนังสือข่าวดีว่าพระยะโฮวาพูดกับมนุษย์โดยตรง ครั้งแรกเป็นตอนที่พระเยซูรับบัพติศมาในปี ค.ศ. 29 ซึ่งมีบันทึกอยู่ที่ มธ 3:16, 17; มก 1:11 และ ลก 3:22 ครั้งที่ 2 เป็นตอนที่พระเยซูเปลี่ยนรูปกายในปี ค.ศ. 32 ซึ่งมีบันทึกอยู่ที่ มธ 17:5; มก 9:7 และ ลก 9:35 ส่วนครั้งที่ 3 มีบันทึกอยู่ในหนังสือข่าวดีของยอห์นเท่านั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานก่อนที่พระเยซูจะฉลองปัสกาครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 33 ตอนนั้น พระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานที่พระเยซูขอให้พระยะโฮวาทำให้ชื่อของพระองค์เองได้รับการยกย่อง
ผู้ปกครองโลก: คำเดียวกันนี้มีอยู่ที่ ยน 14:30 และ 16:11 ซึ่งหมายถึงมารซาตาน ในท้องเรื่องนี้ คำว่า “โลก” (คำกรีก คอสม็อส) หมายถึงมนุษย์บนโลกที่ไม่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าและทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความประสงค์ของพระองค์ พระเจ้าไม่ได้เป็นผู้สร้างโลกชั่วนี้ แต่โลกนี้ “อยู่ในอำนาจซาตานตัวชั่วร้าย” (1ยน 5:19) ซาตานและ “กองทัพปีศาจชั่วในสวรรค์” เป็น “ผู้ปกครองโลก [คำกรีก คอสม็อคราโทร์] ที่มืดมิดนี้”—อฟ 6:11, 12
จะถูกขับไล่: นี่เป็นคำพยากรณ์ของพระเยซูที่บอกว่าในอนาคตซาตานจะถูกไล่ให้พ้นจากตำแหน่งผู้ปกครองโลก
ผมถูกยกขึ้นแขวนไว้: แปลตรงตัวว่า “ผมถูกยกขึ้นจากโลก” น่าจะหมายถึงตอนที่พระเยซูถูกประหารบนเสาเหมือนที่บอกไว้ในข้อถัดไป
คนทุกชนิด: พระเยซูบอกว่าท่านจะชักนำคนจากทุกภูมิหลังให้มาหาท่าน ไม่ว่าพวกเขาจะมีเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ หรือจะยากดีมีจนอย่างไร (กจ 10:34, 35; วว 7:9, 10; ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 6:44) น่าสังเกตว่าในช่วงนั้นมีคนกรีกบางคนซึ่งมานมัสการที่วิหารอยากพบพระเยซู (ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 12:20) พระคัมภีร์หลายฉบับแปลคำกรีก พาส (“ทุกคน”) ในแบบที่ทำให้คิดว่าในที่สุดมนุษย์ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนเดียวจะถูกชักนำให้มาหาพระเยซู แต่การแปลแบบนี้ไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์ที่ได้รับการดลใจส่วนที่เหลือ (สด 145:20; มธ 7:13; ลก 2:34; 2ธส 1:9) แม้คำกรีกนี้จะแปลตรงตัวว่า “ทุกคน” (รม 5:12) แต่ที่ กจ 10:12 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคำกรีกนี้อาจหมายถึง “คนทุกชนิด” ก็ได้ เพราะในข้อนั้นแปลคำกรีกนี้ว่า “ทุกชนิด”—ยน 1:7; 1ทธ 2:4
พระยะโฮวา: ข้อความนี้ยกมาจาก อสย 53:1 ซึ่งในต้นฉบับภาษาฮีบรูมีชื่อพระเจ้าแค่ครั้งเดียวในสำนวนที่บอกว่า “พระยะโฮวาแสดงพลังอำนาจของพระองค์” แต่ดูเหมือนว่ายอห์นยกข้อความนี้จากฉบับเซปตัวจินต์ ซึ่งข้อความภาษากรีกในฉบับนี้ขึ้นต้นด้วยรูปหนึ่งของคำว่า คูริออส (องค์พระผู้เป็นเจ้า) (ดู รม 10:16 ซึ่งยกข้อความจาก อสย 53:1 ด้วย) ผู้แปลฉบับเซปตัวจินต์ อาจใส่ชื่อพระเจ้าเข้าไปแทนคำว่า คูริออส ที่ปรากฏครั้งแรกในข้อคัมภีร์เพื่อช่วยผู้อ่านให้รู้ว่าผู้พยากรณ์อิสยาห์กำลังพูดกับพระเจ้า อย่างที่รู้กันว่าสำเนาของฉบับเซปตัวจินต์ ในยุคหลัง ๆ มักจะใช้คำว่า คูริออส แทนเททรากรัมมาทอนที่อยู่ในต้นฉบับภาษาฮีบรู ดังนั้น ฉบับแปลโลกใหม่ จึงใช้ชื่อพระเจ้า 2 ครั้งในข้อนี้ และพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกหลายฉบับที่แปลเป็นภาษาฮีบรูก็ใช้ชื่อพระเจ้า 2 ครั้งที่ ยน 12:38 เหมือนกัน
เห็นพระยะโฮวาแสดงพลังอำนาจของพระองค์: หรือ “เห็นแขนของพระยะโฮวา” ข้อความนี้ยกมาจาก อสย 53:1 ซึ่งในต้นฉบับภาษาฮีบรูมีชื่อของพระเจ้าเขียนด้วยอักษรฮีบรู 4 ตัว (ตรงกับเสียงอักษรไทย ยฮวฮ) (ดูข้อมูลสำหรับศึกษาคำว่าพระยะโฮวาในข้อนี้ และภาคผนวก ก5) ในคัมภีร์ไบเบิล คำว่าแขนในภาษาฮีบรูและกรีกมักใช้ในความหมายเป็นนัยเพื่อหมายถึงความสามารถในการใช้พลังและอำนาจ พระยะโฮวาแสดงให้เห็นแขนหรือ “พลังอำนาจ” ของพระองค์ผ่านทางการอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่พระเยซูทำ
อิสยาห์ . . . เห็นฐานะที่สูงส่งของท่าน: ตอนที่อิสยาห์เห็นนิมิตที่พระยะโฮวานั่งอยู่บนบัลลังก์ที่สูงส่งในสวรรค์ พระองค์ถามอิสยาห์ว่า “เรา จะส่งใครไปดี?” (อสย 6:1, 8-10) การใช้คำสรรพนามในรูปพหูพจน์แบบนี้แสดงว่า ในนิมิตที่อิสยาห์เห็นต้องมีอย่างน้อยอีกผู้หนึ่งอยู่กับพระเจ้า ดังนั้น ตอนที่ยอห์นเขียนว่าอิสยาห์ได้ “เห็นฐานะที่สูงส่งของท่าน” ก็มีเหตุผลที่จะสรุปว่าท่านผู้นี้คือพระเยซูซึ่งอยู่กับพระยะโฮวาก่อนที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์ (ยน 1:14) นี่สอดคล้องกับข้อคัมภีร์หลายข้อ เช่น ปฐก 1:26 พระเจ้าพูดว่า “ให้เรา สร้างมนุษย์ตามแบบเรา” (ดูที่ สภษ 8:30, 31; ยน 1:1-3; คส 1:15, 16 ด้วย) และยอห์นยังเขียนด้วยว่าอิสยาห์บอกเกี่ยวกับพระคริสต์ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสืออิสยาห์เน้นไปที่คำพยากรณ์เกี่ยวกับเมสสิยาห์
พวกผู้นำ: คำกรีกที่แปลว่า “พวกผู้นำ” ในข้อนี้น่าจะหมายถึงสมาชิกของศาลแซนเฮดรินซึ่งเป็นศาลสูงของชาวยิว คำนี้ใช้ใน ยน 3:1 ตอนที่พูดถึงนิโคเดมัสสมาชิกของศาลนั้น—ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 3:1
ไล่ออกจากที่ประชุมของชาวยิว: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 9:22
ตัดสิน: ดูข้อมูลสำหรับศึกษาที่ ยน 3:17
วีดีโอและรูปภาพ

ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล มีต้นอินทผลัมซึ่งเป็นปาล์มชนิดหนึ่ง (Phoenix dactylifera) ขึ้นอยู่มากมายในอิสราเอลและบริเวณใกล้เคียง ว่ากันว่าต้นปาล์มสามารถเจริญเติบโตได้ดีบริเวณชายฝั่งทะเลสาบกาลิลีและส่วนปลายของหุบเขาจอร์แดนที่อยู่ใกล้ทะเลซึ่งมีอากาศร้อน มีต้นปาล์มขึ้นอยู่มากเป็นพิเศษรอบเมืองเยรีโคจนเมืองนี้ถูกเรียกว่า “เมืองที่มีต้นปาล์ม” (ฉธบ 34:3; วนฉ 1:16; 3:13; 2พศ 28:15) ต้นอินทผลัมอาจสูงถึง 30 เมตร กิ่งหรือใบของมันอาจยาว 3-5 เมตร ชาวยิวเก็บใบปาล์มมาใช้ในช่วงเทศกาลอยู่เพิงที่น่ายินดี (ลนต 23:39-43; นหม 8:14, 15) ดูเหมือนว่าประชาชนถือใบปาล์มออกไปต้อนรับพระเยซู “กษัตริย์ของอิสราเอล” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการยกย่องสรรเสริญและการยอมรับตำแหน่งกษัตริย์ของท่าน (ยน 12:12, 13) ใน วว 7:9, 10 ก็พูดถึง “ชนฝูงใหญ่” ที่ “ถือใบปาล์ม” เพื่อแสดงว่าพวกเขายกย่องพระเจ้าและลูกแกะของพระองค์ว่าเป็นผู้ช่วยให้รอด

ลามีกีบเท้าแข็งและอยู่ในตระกูลเดียวกับม้า แต่ต่างกันตรงที่ลาจะตัวเล็กกว่า แผงคอสั้นกว่า หูยาวกว่า มีขนที่หางสั้นกว่าและมีขนเฉพาะตรงปลายหางเท่านั้น แม้จะมีคำเปรียบว่าลาเป็นสัตว์ที่โง่และดื้อ แต่จริง ๆ แล้วมันฉลาดกว่าม้าและเป็นสัตว์ที่อดทนมาก ผู้ชายและผู้หญิงชาวอิสราเอลและแม้แต่คนที่มีชื่อเสียงก็ขี่ลา (ยชว 15:18; วนฉ 5:10; 10:3, 4; 12:14; 1ซม 25:42) ตอนที่โซโลมอนลูกชายของดาวิดได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์เขาก็ขี่ล่อของดาวิด ล่อตัวเมียนี้เป็นลูกผสมระหว่างม้ากับลา (1พก 1:33-40) จึงเหมาะสมที่สุดที่พระเยซูผู้ยิ่งใหญ่กว่าโซโลมอนจะขี่ลูกลาไม่ใช่ม้า และนี่ทำให้คำพยากรณ์ที่ ศคย 9:9 เป็นจริง