กิจการของอัครสาวก 9:1-43

9  ใน​ช่วง​นั้น เซาโล​ยัง​ข่มขู่​สาวก​ของ​ผู้​เป็น​นาย+และ​อยาก​จะ​ฆ่า​พวก​เขา เซาโล​จึง​ไป​พบ​มหา​ปุโรหิต 2  และ​ขอ​ให้​เขียน​จดหมาย​เพื่อ​เอา​ไป​ยื่น​ตาม​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​ดามัสกัส เขา​จะ​ได้​จับ​กุม​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ถือ​ทาง​นั้น+ทั้ง​ผู้​ชาย​ผู้​หญิง และ​พา​ตัว​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม 3  ตอน​ที่​เซาโล​เดิน​ทาง​ใกล้​จะ​ถึง​กรุง​ดามัสกัส จู่ ๆ ก็​มี​แสง​สว่าง​จาก​ฟ้า​ส่อง​มา​ที่​ตัว​เขา+ 4  แล้ว​เขา​ก็​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​และ​ได้​ยิน​เสียง​พูด​ว่า “เซาโล เซาโล คุณ​ข่มเหง​ผม​ทำไม?” 5  เซาโล​ถาม​ว่า “นาย​ท่าน ท่าน​เป็น​ใคร?” ท่าน​ตอบ​ว่า “ผม​คือ​เยซู+ผู้​ที่​คุณ​ข่มเหง+ 6  ลุก​ขึ้น แล้ว​เข้า​ไป​ใน​เมือง จะ​มี​คน​บอก​คุณ​ว่า​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​ต่อ​ไป” 7  พวก​คน​ที่​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เซาโล​ก็​ยืน​งง​พูด​อะไร​ไม่​ออก พวก​เขา​ได้​ยิน​เสียง​พูด​นั้น​แต่​ไม่​เห็น​ใคร+ 8  เซาโล​ลุก​ขึ้น แต่​เขา​มอง​อะไร​ไม่​เห็น​ทั้ง ๆ ที่​ลืม​ตา​อยู่ พวก​ที่​เดิน​ทาง​มา​ด้วย​จึง​จูง​มือ​พา​เซาโล​เข้า​ไป​ใน​กรุง​ดามัสกัส 9  เซาโล​มอง​ไม่​เห็น+และ​ไม่​กิน​ไม่​ดื่ม​อะไร​เลย 3 วัน 10  ใน​กรุง​ดามัสกัส​มี​สาวก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อานาเนีย+ ผู้​เป็น​นาย​พูด​กับ​เขา​ใน​นิมิต​ว่า “อานาเนีย” เขา​ตอบ​ว่า “ผม​อยู่​นี่​ครับ​นาย” 11  ผู้​เป็น​นาย​บอก​เขา​ว่า “ให้​คุณ​ไป​ที่​ถนน​ที่​ชื่อ​ถนน​ตรง ไป​ที่​บ้าน​ยูดาส แล้ว​ตาม​หา​ผู้​ชาย​ชื่อ​เซาโล​ซึ่ง​มา​จาก​เมือง​ทาร์ซัส+ ตอน​นี้​เขา​อธิษฐาน​อยู่ 12  เขา​เห็น​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​นิมิต​ชื่อ​อานาเนีย​ไป​หา​เขา ซึ่ง​ก็​คือ​คุณ เขา​เห็น​คุณ​วาง​มือ​บน​เขา​และ​ทำ​ให้​เขา​มอง​เห็น​ได้​อีก”+ 13  แต่​อานาเนีย​บอก​ว่า “นาย​ท่าน ผม​ได้​ยิน​หลาย​คน​พูด​ถึง​ผู้​ชาย​คน​นี้​ว่า​เขา​ได้​ทำ​ร้าย​พวก​สาวก*ของ​ท่าน​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 14  และ​ตอน​นี้​เขา​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​ให้​มา​จับ​ตัว​ทุก​คน​ที่​พูด​ถึง​ชื่อ​ของ​ท่าน”+ 15  แต่​ผู้​เป็น​นาย​บอก​อานาเนีย​ว่า “ไป​เถอะ เพราะ​ผู้​ชาย​คน​นี้​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​ผม​เลือก​ไว้+เพื่อ​ประกาศ​ชื่อ​ของ​ผม​ให้​กับ​คน​ต่าง​ชาติ+รวม​ทั้ง​กษัตริย์+และ​คน​อิสราเอล 16  ผม​จะ​ทำ​ให้​เขา​รู้​ว่า​เขา​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์​เพื่อ​ชื่อ​ของ​ผม​มาก​ขนาด​ไหน”+ 17  อานาเนีย​ก็​ไป​ที่​บ้าน​หลัง​นั้น​แล้ว​วาง​มือ​บน​เซาโล​และ​พูด​ว่า “พี่​น้อง​เซาโล พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ซึ่ง​ปรากฏ​กับ​คุณ​ตอน​ที่​เดิน​ทาง​มา​ได้​ใช้​ผม​มา​ช่วย​คุณ​ให้​มอง​เห็น​อีก และ​ช่วย​ให้​คุณ​เต็ม​ไป​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์”+ 18  ทันใด​นั้น ก็​มี​อะไร​ที่​เหมือน​เกล็ด​ตก​ออก​มา​จาก​ตา​ของ​เซาโล เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้​อีก แล้ว​รับ​บัพติศมา 19  หลัง​จาก​กิน​อาหาร​แล้ว​เขา​ก็​มี​แรง​ขึ้น เซาโล​พัก​อยู่​กับ​พวก​สาวก​ใน​กรุง​ดามัสกัส​หลาย​วัน+ 20  แล้ว​ก็​เริ่ม​ไป​ประกาศ​ตาม​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ทันที​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า 21  ทุก​คน​ที่​ได้​ยิน​ก็​แปลก​ใจ​และ​พูด​ว่า “คน​นี้​ไม่​ใช่​หรือ​ที่​ทำ​ร้าย​คน​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ที่​เชื่อ​ใน​ชื่อ​ของ​คน​นั้น?+ เขา​ไม่​ได้​มา​ที่​นี่​เพื่อ​จับ​ตัว​คน​พวก​นั้น​ไป​ให้​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​หรือ?”+ 22  แต่​เซาโล​ยิ่ง​กระตือรือร้น​ขึ้น​เรื่อย ๆ เขา​ให้​ข้อ​พิสูจน์​อย่าง​สม​เหตุ​สม​ผล​ว่า​พระ​เยซู​คือ​พระ​คริสต์ จน​ทำ​ให้​ชาว​ยิว​ที่​อยู่​ใน​กรุง​ดามัสกัส​เถียง​ไม่​ออก+ 23  ต่อ​มา พวก​ยิว​ปรึกษา​กัน​เพื่อ​หา​ทาง​ฆ่า​เซาโล+ 24  แต่​เซาโล​รู้​แผน​ของ​พวก​เขา ถึง​อย่าง​นั้น พวก​ยิว​ก็​ยัง​คอย​เฝ้า​อยู่​ตาม​ประตู​เมือง​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน​เพื่อ​จะ​รอ​ฆ่า​เขา​ให้​ได้ 25  ตอน​กลางคืน พวก​ศิษย์​ของ​เซาโล​จึง​ให้​เขา​นั่ง​ใน​ตะกร้า​ใหญ่​แล้ว​หย่อน​ลง​ทาง​ช่อง​หน้าต่าง​บน​กำแพง​เมือง+ 26  เมื่อ​เซาโล​เดิน​ทาง​มา​ถึง​กรุง​เยรูซาเล็ม+ เขา​พยายาม​เข้า​ร่วม​กับ​พวก​สาวก แต่​พวก​สาวก​ยัง​กลัว​เซาโล​อยู่​เพราะ​ไม่​เชื่อ​ว่า​เขา​เข้า​มา​เป็น​สาวก​จริง ๆ 27  บาร์นาบัส+จึง​มา​ช่วย​เซาโล​และ​พา​ไป​หา​พวก​อัครสาวก แล้ว​เล่า​อย่าง​ละเอียด​ว่า​ระหว่าง​ที่​เซาโล​เดิน​ทาง เขา​ได้​พบ​กับ​ผู้​เป็น​นาย+และ​ผู้​เป็น​นาย​ได้​พูด​กับ​เขา และ​บาร์นาบัส​ยัง​เล่า​อีก​ว่า​เซาโล​ได้​ประกาศ​ชื่อ​ของ​พระ​เยซู​ด้วย​ความ​กล้า​หาญ​ใน​กรุง​ดามัสกัส+ 28  แล้ว​เซาโล​ก็​อยู่​กับ​พวก​อัครสาวก ใช้​ชีวิต​ตาม​ปกติ​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม และ​พูด​ใน​นาม​ของ​ผู้​เป็น​นาย​อย่าง​กล้า​หาญ 29  เขา​คุย​และ​ยก​เหตุ​ผล​แย้ง​กับ​คน​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก คน​พวก​นั้น​จึง​พยายาม​จะ​ฆ่า​เขา+ 30  เมื่อ​พวก​พี่​น้อง​รู้​เรื่อง​นี้​ก็​พา​เซาโล​ไป​ที่​เมือง​ซีซารียา​แล้ว​ส่ง​ต่อ​ไป​ที่​เมือง​ทาร์ซัส+ 31  ประชาคม​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย กาลิลี และ​สะมาเรีย+จึง​มี​ช่วง​เวลา​ที่​สงบ​สุข​ช่วง​หนึ่ง และ​ประชาคม​ก็​เข้มแข็ง​ขึ้น พวก​เขา​ใช้​ชีวิต​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​ได้​รับ​กำลังใจ​จาก​พลัง​บริสุทธิ์+ ทำ​ให้​ประชาคม​มี​คน​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ 32  ตอน​นั้น เปโตร​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​ทุก​แห่ง​ใน​แถบ​นั้น เขา​มา​หา​พวก​สาวก*ที่​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​ด้วย+ 33  ที่​นั่น​เขา​ได้​พบ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ไอเนอัส​ซึ่ง​นอน​นิ่ง​อยู่​บน​ที่​นอน 8 ปี​แล้ว​เพราะ​เป็น​อัมพาต 34  เปโตร​พูด​กับ​เขา​ว่า “ไอเนอัส พระ​เยซู​คริสต์​รักษา​คุณ​แล้ว+ ลุก​ขึ้น​เก็บ​ที่​นอน​เถอะ”+ เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ทันที 35  เมื่อ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​และ​ที่​ราบ​ชาโรน​เห็น​เขา ก็​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​ผู้​เป็น​นาย 36  ใน​เมือง​ยัฟฟา​มี​สาวก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ทาบิธา ซึ่ง​ใน​ภาษา​กรีก​เรียก​ว่า โดร์คัส เธอ​ทำ​สิ่ง​ดี ๆ มาก​มาย​และ​ช่วยเหลือ​คน​ยาก​คน​จน 37  แต่​ใน​ช่วง​นั้น เธอ​ป่วย​แล้ว​ก็​ตาย พวก​สาวก​ใน​เมือง​นั้น​จึง​อาบ​น้ำ​ศพ​เธอ​แล้ว​วาง​ไว้​ใน​ห้อง​ชั้น​บน 38  เมือง​ยัฟฟา​อยู่​ใกล้​เมือง​ลิดดา เมื่อ​พวก​สาวก​ได้​ยิน​ว่า​เปโตร​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​ก็​ใช้ 2 คน​ไป​ขอร้อง​ว่า “รีบ​มา​หา​พวก​เรา​ด้วย​เถอะ” 39  เปโตร​จึง​รีบ​ไป​กับ​สอง​คน​นั้น พอ​ไป​ถึง​แล้ว​พวก​เขา​ก็​พา​เปโตร​ขึ้น​ไป​ใน​ห้อง​ชั้น​บน พวก​แม่​ม่าย​เข้า​มา​หา​เขา​และ​ร้องไห้ แล้ว​ให้​เปโตร​ดู​เสื้อ​ผ้า​มาก​มาย​ที่​โดร์คัส​ทำ​ให้​พวก​เธอ​ตอน​ที่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ 40  เปโตร​ให้​ทุก​คน​ออก​ไป​ก่อน+แล้ว​คุกเข่า​ลง​อธิษฐาน และ​เมื่อ​หัน​มา​ทาง​ศพ​นั้น เปโตร​พูด​ว่า “ทาบิธา ลุก​ขึ้น​มา​เถอะ” เธอ​ก็​ลืม​ตา พอ​เห็น​เปโตร​เธอ​ก็​ลุก​ขึ้น​นั่ง+ 41  เปโตร​ยื่น​มือ​พยุง​เธอ​ให้​ลุก​ขึ้น​ยืน แล้ว​เรียก​พวก​สาวก*กับ​พวก​แม่​ม่าย​เข้า​มา​และ​ให้​พวก​เขา​เห็น​ว่า​เธอ​ฟื้น​ขึ้น​มา​มี​ชีวิต​แล้ว+ 42  เรื่อง​นี้​ก็​รู้​กัน​ไป​ทั่ว​เมือง​ยัฟฟา และ​มี​หลาย​คน​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​ผู้​เป็น​นาย+ 43  เปโตร​พัก​อยู่​ใน​เมือง​ยัฟฟา​หลาย​วัน​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง+

เชิงอรรถ

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​ผู้​บริสุทธิ์”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​ผู้​บริสุทธิ์”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​ผู้​บริสุทธิ์”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

จดหมาย: ใน​ศตวรรษ​แรก​มี​การ​ใช้​จดหมาย​เพื่อ​แนะ​นำ​ตัว เพื่อ​ยืน​ยัน​ตัว​ตน​หรือ​ยืน​ยัน​อำนาจ​ของ​ใคร​คน​หนึ่ง (รม 16:1; 2คร 3:1-3) ชาว​ยิว​ใน​กรุง​โรม​ก็​พูด​ถึง​การ​สื่อสาร​แบบ​นี้​ด้วย (กจ 28:21) จดหมาย​ที่​เซาโล​ขอ​ให้​มหา​ปุโรหิต​เขียน​ถึง​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​ดามัสกัส​ก็​เพื่อ​อนุญาต​ให้​เขา​ข่มเหง​คริสเตียน​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​นั้น (กจ 9:1, 2) ดู​เหมือน​นี่​เป็น​จดหมาย​ที่​เซาโล​ขอ​ให้​ที่​ประชุม​ทุก​แห่ง​ใน​กรุง​นี้​ร่วม​มือ​กับ​เขา​ใน​การ​รณรงค์​ข่มเหง​คริสเตียน

ดามัสกัส: ปัจจุบัน​นี้​ตั้ง​อยู่​ใน​ประเทศ​ซีเรีย ว่า​กัน​ว่า​กรุง​ดามัสกัส​เป็น​เมือง​หนึ่ง​ที่​เก่าแก่​ที่​สุด​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่​มา​ตลอด อับราฮัม​น่า​จะ​เคย​เดิน​ทาง​ผ่าน​เมือง​นี้​หรือ​แวะ​เข้า​มา​ใน​เมือง​นี้​ตอน​ที่​เขา​เดิน​ทาง​ไป​คานาอัน​ที่​อยู่​ทาง​ใต้ และ​อับราฮัม​มี​คน​รับใช้​คน​หนึ่ง​เป็น “ชาว​ดามัสกัส” ชื่อ​เอลีเอเซอร์ “ชาว​ดามัสกัส” (ปฐก 15:2) เกือบ 1,000 ปี​ต่อ​มา​ก็​มี​การ​พูด​ถึง​กรุง​ดามัสกัส​อีก​ครั้ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล (ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “อารัม, ชาว​อารัม”) ตอน​นั้น​เป็น​ตอน​ที่​ชาว​ซีเรีย (ชาว​อารัม) ทำ​สงคราม​กับ​ชาว​อิสราเอล และ​ทั้ง 2 ชาติ​ก็​เป็น​ศัตรู​กัน (1พก 11:23-25) ใน​ศตวรรษ​แรก ดามัสกัส​เป็น​เมือง​หนึ่ง​ใน​แคว้น​ซีเรีย​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​โรม ตอน​นั้น​กรุง​ดามัสกัส​มี​ชาว​ยิว​อยู่​ประมาณ 20,000 คน และ​มี​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​หลาย​แห่ง​ด้วย เซาโล​อาจ​ตั้งใจ​ข่มเหง​คริสเตียน​ใน​กรุง​นั้น เพราะ​ที่​นั่น​เป็น​ทาง​ผ่าน​ไป​อีก​หลาย​เมือง และ​เขา​กลัว​ว่า​คำ​สอน​ของ​คริสเตียน​จะ​แพร่​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว​จาก​กรุง​ดามัสกัส—ดูภาค​ผนวก ข​13

ทาง​นั้น: คำ​นี้​ใน​หนังสือ​กิจการ​มี​ความ​หมาย​ได้ 2 อย่าง อย่าง​แรก​ก็​คือ​การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​คริสเตียน และ​อย่าง​ที่​สอง คือ​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก คำ​นี้​อาจ​มา​จาก​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่ ยน 14:6 ที่​บอก​ว่า “ผม​เป็น​ทาง​นั้น” คน​ทั่ว​ไป​มัก​เรียก​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ว่า​พวก “ทาง​นั้น” เพราะ​พวก​สาวก​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​และ​ใช้​ชีวิต​ตาม​แนว​ทาง​ของ​ท่าน (กจ 19:9) พระ​เยซู​ทุ่มเท​ชีวิต​ของ​ท่าน​ให้​กับ​การ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว​เท่า​นั้น นอก​จาก​นั้น เพื่อ​คริสเตียน​จะ​ใช้​ชีวิต​แบบ​นี้​ได้ พวก​เขา​ก็​ต้อง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ด้วย ไม่​นาน​หลัง​ปี ค.ศ. 44 ที่​เมือง​อันทิโอก​ใน​แคว้น​ซีเรีย​ก็​เริ่ม​มี​การ​เรียก​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ว่า​เป็น “คริสเตียน . . . ตาม​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า” (กจ 11:26) ถึง​แม้​พวก​สาวก​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คริสเตียน​แล้ว แต่​ลูกา​ก็​ยัง​เรียก​ประชาคม​คริสเตียน​ว่า “ทาง​นั้น”—กจ 19:23; 22:4; 24:22; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 18:25; 19:23

ได้​ยิน​เสียง​พูด​นั้น: ที่ กจ 22:6-11 เปาโล​ได้​เล่า​ว่า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​กับ​เขา​ตอน​ที่​เขา​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​ดามัสกัส ถึง​แม้​ใน​ข้อ​นั้น​บอก​ว่า​คน​ที่​เดิน​ทาง​ไป​กับ​เปาโล “ไม่​ได้​ยิน​เสียง​ที่​พูด” แต่​ใน กจ 9:7 บอก​ว่า​พวก​เขา “ได้​ยิน​เสียง​พูด” บันทึก​ใน 2 บท​นั้น​ใช้​คำ​กรีก​เดียว​กัน​คือ โฟเน แต่​มี​ไวยากรณ์​ที่​แตกต่าง​กัน ซึ่ง​คำ​กรีก​นี้​อาจ​หมาย​ถึง “แค่​ได้​ยิน​เสียง” หรือ “ได้​ยิน​ชัด​ว่า​พูด​อะไร” ไวยากรณ์​ที่​ใช้​ใน​บท​นี้​ทำ​ให้​รู้​ว่า​หมาย​ถึง “แค่​ได้​ยิน​เสียง” (ส่วน​ไวยากรณ์​ที่​ใช้​ใน กจ 22:9 หมาย​ถึง “พวก​เขา​ไม่​ได้​ยิน​ว่า​พูด​อะไร”) ดัง​นั้น พวก​คน​ที่​ไป​กับ​เปาโล​ได้​ยิน​เสียง​แต่​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พูด​อะไร​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​ได้​ยิน​เสียง​นั้น​ชัดเจน หรือ​พูด​ง่าย ๆ ก็​คือ เขา​ไม่​ได้​ยิน​เสียง​พูด​เหมือน​กับ​ที่​เปาโล​ได้​ยิน—กจ 26:14; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 22:9

ถนน​ที่​ชื่อ​ถนน​ตรง: นี่​เป็น​ที่​เดียว​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ที่​พูด​ถึง​ชื่อ​ถนน ว่า​กัน​ว่า​ถนน​นี้​เป็น​ถนน​สาย​หลัก​ที่​ผ่า​กลาง​กรุง​ดามัสกัส​จาก​ทิศ​ตะวัน​ออก​ถึง​ทิศ​ตะวัน​ตก ใน​ศตวรรษ​แรก​กรุง​นี้​มี​ผัง​เมือง​เป็น​ตาราง ถนน​ตรง​มี​ความ​ยาว​ประมาณ 1.5 กม. และ​กว้าง​ประมาณ 26 เมตร ถนน​นี้​มี​ทาง​สำหรับ​คน​เดิน​และ​มี​เสา​เรียง​ราย​อยู่ 2 ข้าง​ทาง ปัจจุบัน​นี้​ยัง​มี​ถนน​ที่​วิ่ง​ผ่าน​ย่าน​เมือง​เก่า​ของ​ดามัสกัส​ซึ่ง​เป็น​ถนน​ที่​ต่อ​จาก​ถนน​ตรง ชื่อ​ภาษา​ละติน​ของ​ถนน​ตรง​คือ​เวีย เรคตา

ใน​นิมิต: มี​คำ​นี้​อยู่​ใน​สำเนา​พระ​คัมภีร์​เก่าแก่​หลาย​ฉบับ

จับ​ตัว: หรือ “จับ​เข้า​คุก” แปล​ตรง​ตัว​ว่า “มัด, กัก​ขัง” ซึ่ง​ก็​คือ​ขัง​ไว้​ใน​คุก—เทียบ​กับ คส 4:3

คน​อิสราเอล: หรือ “ลูก​หลาน​อิสราเอล”—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “อิสราเอล

ตะกร้า​ใหญ่: ใน​ข้อ​นี้​ลูกา​ใช้​คำ​กรีก สพูรีส ซึ่ง​เป็น​คำ​เดียว​กับ​ที่​มัทธิว​และ​มาระโก​ใช้​เมื่อ​พูด​ถึง​ตะกร้า 7 ใบ​ที่​ใช้​เก็บ​อาหาร​เหลือ​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​เลี้ยง​อาหาร​ผู้​ชาย 4,000 คน (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 15:37) คำ​นี้​หมาย​ถึง​ตะกร้า​ใหญ่​หรือ​กระบุง แต่​ตอน​ที่​เปาโล​เล่า​ให้​คริสเตียน​ใน​เมือง​โครินธ์​ฟัง​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​เขา​หนี เขา​ใช้​คำ​กรีก ซาร์กาเน ที่​หมาย​ถึง​ตะกร้า​สาน หรือ “ตะกร้า​หวาย” ซึ่ง​ทำ​มา​จาก​เชือก​หรือ​กิ่ง​ไม้ คำ​กรีก​ทั้ง 2 คำ​นี้​สามารถ​ใช้​เพื่อ​หมาย​ถึง​ตะกร้า​ใหญ่​ชนิด​เดียว​กัน—2คร 11:32, 33

ใช้​ชีวิต​ตาม​ปกติ: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เข้า​มา​และ​ออก​ไป” มา​จาก​สำนวน​ภาษา​เซมิติก​ที่​หมาย​ถึง​การ​ทำ​กิจกรรม​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​ได้​อย่าง​เป็น​ปกติ และ​พบ​ปะ​ผู้​คน​ได้​อย่าง​อิสระ—เทียบ​กับ ฉธบ 28:6, 19; สด 121:8; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 1:21

คน​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “พวก​เฮเลน” ดู​เหมือน​เป็น​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก คน​กลุ่ม​นี้​เดิน​ทาง​มา​กรุง​เยรูซาเล็ม​จาก​ที่​ต่าง ๆ ใน​จักรวรรดิ​โรมัน ที่ กจ 6:1 มี​การ​ใช้​คำ​นี้​กับ​คริสเตียน แต่​ใน​ท้อง​เรื่อง​ของ​ข้อ​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คำ​นี้​ถูก​ใช้​เพื่อ​หมาย​ถึง​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก​ที่​ไม่​ใช่​คริสเตียน ศิลา​จารึก​ของ​ทีโอโดทุส​ซึ่ง​พบ​ที่​เนิน​เขา​โอเฟล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ให้​หลักฐาน​ว่า​มี​คน​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก​จำนวน​มาก​เดิน​ทาง​มา​กรุง​เยรูซาเล็ม—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 6:1

ใช้​ชีวิต​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา: หรือ “ใช้​ชีวิต​ด้วย​ความ​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา” มี​สำนวน “เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา” หลาย​ครั้ง​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู ซึ่ง​สำนวน​นี้​มา​จาก​คำ​ฮีบรู 2 คำ​คือ “เกรง​กลัว” และ​เททรากรัมมาทอน (ตัว​อย่าง​ของ​สำนวน​นี้​อยู่​ที่ 2พศ 19:7, 9; สด 19:9; 111:10; สภษ 2:5; 8:13; 9:10; 10:27; 19:23; อสย 11:2, 3) แต่​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ไม่​เคย​มี​สำนวน “ความ​เกรง​กลัว​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” อยู่​เลย ถึง​แม้​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​กรีก​ส่วน​ใหญ่​จะ​ไม่​มี​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​ใน​ข้อ​นี้ แต่​ก็​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ที่​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ใช้​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ข้อ​นี้—ดูภาค​ผนวก ก​5

ทาบิธา: ทาบิธา​เป็น​ชื่อ​ภาษา​อาราเมอิก​ที่​มี​ความ​หมาย​ว่า “กวาง” และ​ดู​เหมือน​ว่า​ชื่อ​นี้​จะ​ตรง​กับ​ชื่อ​ฮีบรู (เซไวยา) ที่​มี​ความ​หมาย​ว่า “กวาง​ตัว​เมีย” (พซม 4:5; 7:3) ชื่อ​นี้​ใน​ภาษา​กรีก​คือ​โดร์คัส​ก็​มี​ความ​หมาย​ว่า “กวาง” ด้วย ใน​เมือง​ยัฟฟา​ที่​เป็น​เมือง​ท่า​ซึ่ง​มี​ทั้ง​คน​ยิว​และ​คน​ต่าง​ชาติ จึง​อาจ​เป็น​ไป​ได้​ว่า​ทาบิธา​จะ​เป็น​ที่​รู้​จัก​ทั้ง​ใน​ชื่อ​อาราเมอิก​และ​ชื่อ​กรีก หรือ​ลูกา​อาจ​แปล​ชื่อ​นี้​เพื่อ​ให้​คน​อ่าน​ที่​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​เข้าใจ

เสื้อ​ผ้า: หรือ “เสื้อ​ชั้น​นอก” คำ​กรีก ฮิมาทิออน อาจ​หมาย​ถึง​เสื้อ​คลุม​ยาว​หลวม ๆ หรือ​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​เป็น​แค่​ผ้า​สี่​เหลี่ยม​คลุม​ตัว

ทาบิธา ลุก​ขึ้น​มา​เถอะ: ตอน​ที่​เปโตร​ปลุก​ทาบิธา​เขา​ทำ​เหมือน​กับ​ตอน​ที่​พระ​เยซู​ปลุก​ลูก​สาว​ไยรอส (มก 5:38-42; ลก 8:51-55) นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​มี​รายงาน​ว่า​อัครสาวก​ปลุก​คน​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​ผู้​คน​จำนวน​มาก​เข้า​มา​เชื่อถือ​ใน​เมือง​ยัฟฟา—กจ 9:39-42

ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ 10:6

วีดีโอและรูปภาพ

เซาโล​และ​กรุง​ดามัสกัส
เซาโล​และ​กรุง​ดามัสกัส

กรุง​ดามัสกัส​ใน​ศตวรรษ​แรก​น่า​จะ​มี​ผัง​เมือง​เหมือน​ใน​ภาพ​นี้​และ​เป็น​ศูนย์กลาง​การ​ค้า​ที่​สำคัญ การ​มี​น้ำ​จาก​แม่น้ำ​บา​รา​ดา (แม่น้ำ​อาบานา​ที่​พูด​ถึง​ใน 2พก 5:12) หล่อ​เลี้ยง​อยู่​ทำ​ให้​กรุง​นี้​เป็น​เหมือน​โอเอซิส กรุง​ดามัสกัส​มี​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​หลาย​แห่ง เซาโล​มา​ที่​กรุง​นี้​เพื่อ “จะ​ได้​จับ​กุม​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ถือ​ทาง​นั้น” ซึ่ง​ก็​คือ​สาวก​ของ​พระ​เยซู (กจ 9:2; 19:9, 23; 22:4; 24:22) แต่​ระหว่าง​ทาง​ไป​กรุง​ดามัสกัส พระ​เยซู​ที่​กลับ​ไป​สวรรค์​แล้ว​มา​ปรากฏ​ตัว​ต่อ​เซาโล หลัง​จาก​นั้น เซาโล​ก็​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ยูดาส​ใน​กรุง​ดามัสกัส​ซึ่ง​อยู่​ที่​ถนน​ตรง (กจ 9:11) ใน​นิมิต พระ​เยซู​สั่ง​ให้​สาวก​อานาเนีย​ไป​ที่​บ้าน​ของ​ยูดาส​เพื่อ​ช่วย​ให้​เซาโล​มอง​เห็น​อีก​ครั้ง แล้ว​เซาโล​ก็​รับ​บัพติศมา ดัง​นั้น แทน​ที่​เซาโล​จะ​ไป​จับ​คริสเตียน​ชาว​ยิว เขา​กลับ​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​แทน เขา​เริ่ม​ประกาศ​ข่าว​ดี​เต็ม​เวลา​ใน​ที่​ประชุม​ต่าง​ ๆ ​ของ​ชาว​ยิว​ใน​กรุง​ดามัสกัส หลัง​จาก​นั้น เซาโล​ก็​เดิน​ทาง​ไป​แถบ​อาหรับ​และ​กลับ​มา​ที่​กรุง​ดามัสกัส จาก​นั้น​เขา​ก็​กลับ​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ประมาณ​ปี ค.ศ. 36—กจ 9:1-6, 19-22; กท 1:16, 17

ก. กรุง​ดามัสกัส

1. ถนน​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม

2. ถนน​ที่​ชื่อ​ถนน​ตรง

3. อา​กอ​รา

4. วิหาร​จู​ปิเตอ​ร์

5. โรง​ละคร

6. โรง​แสดง​ดนตรี (?)

ข. กรุง​เยรูซาเล็ม

เซาโล​บน​ถนน​ไป​กรุง​ดามัสกัส
เซาโล​บน​ถนน​ไป​กรุง​ดามัสกัส

เซาโล​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​บน​ถนน​ใกล้​กรุง​ดามัสกัส แสง​สว่าง​จ้า​ที่​ส่อง​มา​จาก​ฟ้า​ทำ​ให้​เขา​ตา​บอด เขา​ได้​ยิน​เสียง​พูด​ว่า “เซาโล เซาโล คุณ​ข่มเหง​ผม​ทำไม?” (กจ 9:3, 4; 22:6-8; 26:13, 14) เซาโล​วาง​แผนที่​จะ​จับ​พวก​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ใน​กรุง​ดามัสกัส​และ​เอา​ตัว​ไป​สอบสวน​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม แต่​พระ​เยซู​ขัด​ขวาง​แผนการ​นี้ การ​เดิน​ทาง​ไกล​ประมาณ 240 กม. จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ของ​เซาโล​จึง​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​ที่​เขา​คาด​หวัง​ไว้ สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​พูด​กับ​เซาโล (ต่อ​มา​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​ชื่อ​โรมัน​คือ​เปาโล) เปลี่ยน​เขา​จาก​ผู้​ข่มเหง​คริสเตียน​ให้​กลาย​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​ปก​ป้อง​ศาสนา​คริสเตียน​อย่าง​กล้า​หาญ​ที่​สุด หนังสือ​กิจการ​บันทึก​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​ที่​กระตือรือร้น​ของ​เปาโล

ถนน​โรมัน​ใน​เมือง​ทาร์ซัส
ถนน​โรมัน​ใน​เมือง​ทาร์ซัส

เมือง​ทาร์ซัส​เป็น​บ้าน​เกิด​ของ​เซาโล (ภาย​หลัง​คือ​อัครสาวก​เปาโล) เมือง​นี้​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​แคว้น​ซิลีเซีย ตั้ง​อยู่​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ของ​เอเชีย​ไมเนอร์ และ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ประเทศ​ตุรกี​ใน​ปัจจุบัน (กจ 9:11; 22:3) เมือง​ทาร์ซัส​เป็น​เมือง​ใหญ่​ที่​มี​ความ​เจริญ​รุ่งเรือง​ทาง​เศรษฐกิจ และ​อยู่​บน​เส้น​ทาง​การ​ค้า​ทาง​บก​ที่​สำคัญ​ซึ่ง​เชื่อม​ระหว่าง​ทิศ​ตะวัน​ออก​กับ​ทิศ​ตะวัน​ตก เส้น​ทาง​สาย​นี้​ตัด​ผ่าน​เทือก​เขา​ทอรัส​และ​ช่อง​เขา​ซิลี​เซียน (ช่อง​เขา​แคบ​ ๆ ​ที่​มี​ถนน​ให้​รถ​ม้า​ผ่าน​ได้) นอก​จาก​นั้น เมือง​ทาร์ซัส​ยัง​ตั้ง​อยู่​ที่​อ่าว​ซึ่ง​เชื่อม​ระหว่าง​แม่น้ำ​ซิ​ดนัส​กับ​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน เมือง​นี้​เป็น​ศูนย์กลาง​วัฒนธรรม​กรีก​และ​มี​ชุมชน​ชาว​ยิว​ขนาด​ใหญ่ ภาพ​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ซาก​ปรัก​หัก​พัง​สมัย​โบราณ​ของ​เมือง​ทาร์ซัส​ซึ่ง​ปัจจุบัน​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​ชุมชน​ที่​ยัง​คง​ใช้​ชื่อ​เดิม ชุมชน​นี้​ตั้ง​อยู่​ห่าง​จาก​จุด​ที่​แม่น้ำ​ซิ​ดนัส​ไหล​ลง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน​ประมาณ 16 กม. ตลอด​ประวัติศาสตร์​มี​คน​ที่​มี​ชื่อเสียง​หลาย​คน​ไป​ที่​เมือง​ทาร์ซัส เช่น มาร์ก แอนโทนี คลีโอพัตรา จูเลียส​ซีซาร์ และ​จักรพรรดิ​อีก​หลาย​องค์ ซิเซโร​รัฐบุรุษ​และ​นัก​เขียน​ชาว​โรมัน​เป็น​ผู้​ว่า​ราชการ​ของ​เมือง​นี้​ระหว่าง​ปี 51-50 ก่อน ค.ศ. เมือง​ทาร์ซัส​เป็น​ศูนย์กลาง​การ​ศึกษา​ใน​ศตวรรษ​แรก และ​สตราโบ​นัก​ภูมิศาสตร์​ชาว​กรีก​ก็​บอก​ไว้​ว่า​การ​ศึกษา​ของ​เมือง​นี้​มี​ชื่อเสียง​โดด​เด่น​กว่า​กรุง​เอเธนส์​และ​เมือง​อเล็กซานเดรีย​ด้วย​ซ้ำ นี่​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​เปาโล​บอก​ว่า​เมือง​ทาร์ซัส​เป็น “เมือง​ที่​ใคร​ ๆ ​ก็​รู้​จัก”—กจ 21:39

การ​สร้าง​ถนน​ของ​ชาว​โรมัน
การ​สร้าง​ถนน​ของ​ชาว​โรมัน

เครือข่าย​ถนน​ของ​โรมัน​ช่วย​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ให้​ประกาศ​ข่าว​ดี​ไป​ทั่ว​จักรวรรดิ อัครสาวก​เปาโล​คง​ต้อง​เดิน​ทาง​ไกล​โดย​ใช้​ถนน​เหล่า​นี้​แน่​ ๆ (คส 1:23) ภาพ​นี้​แสดง​ให้​เห็น​วิธี​ที่​ชาว​โรมัน​สร้าง​ถนน​ที่​ปู​ด้วย​หิน ก่อน​อื่น​จะ​มี​การ​กำหนด​แนว​ถนน จาก​นั้น​ก็​จะ​ขุด​ร่อง​ถนน​และ​ถม​ร่อง​เป็น​ชั้น​ ๆ ​ด้วย​หิน ปูน และ​ทราย จาก​นั้น คน​งาน​จะ​ปู​ผิว​ถนน​ด้วย​แผ่น​หิน​ขนาด​ใหญ่ แล้ว​จะ​ใส่​ขอบ​หิน​ด้าน​ข้าง​เพื่อ​ไม่​ให้​ผิว​ถนน​เคลื่อน​ที่​หรือ​หลุด ทั้ง​วัสดุ​ที่​ใช้​และ​ความ​โค้ง​ของ​ผิว​ถนน​ช่วย​ระบาย​น้ำ​ออก​จาก​ถนน มี​การ​เจาะ​ช่อง​ระบาย​น้ำ​เป็น​ระยะ​ ๆ ​เพื่อ​ให้​น้ำ​ไหล​ลง​ร่อง​ระบาย​น้ำ​ที่​อยู่​ด้าน​ข้าง ชาว​โรมัน​สร้าง​ถนน​ได้​ดี​มาก​จน​บาง​สาย​ยัง​อยู่​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ แต่​ถนน​ส่วน​ใหญ่​ใน​จักรวรรดิ​โรมัน​ไม่​ได้​สร้าง​อย่าง​ดี​ขนาด​นี้ ถนน​ส่วน​ใหญ่​ทำ​มา​จาก​หิน​ก้อน​เล็ก​ ๆ ​ที่​อัด​แน่น

ศิลา​จารึก​ของ​ที​โอ​โดทุส​ที่​พูด​ถึง​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก
ศิลา​จารึก​ของ​ที​โอ​โดทุส​ที่​พูด​ถึง​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก

ภาพ​ที่​เห็น​อยู่​นี้​คือ​ศิลา​จารึก​ของ​ทีโอโดทุส​ซึ่ง​เป็น​แผ่น​หินปูน​ที่​มี​ข้อ​ความ​จารึก แผ่น​หิน​นี้​กว้าง 42 ซม. ยาว 72 ซม. ศิลา​นี้​ถูก​พบ​ตอน​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20 ที่​เนิน​เขา​โอเฟล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ข้อ​ความ​บน​ศิลา​นี้​เขียน​เป็น​ภาษา​กรีก และ​พูด​ถึง​ที​โอ​โดทุส​ซึ่ง​เป็น​ปุโรหิต​ที่ “สร้าง​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​เพื่อ​เป็น​ที่​อ่าน​และ​สอน​กฎหมาย​ของ​โมเสส” ข้อ​ความ​จารึก​นี้​ทำ​ขึ้น​ก่อน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ถูก​ทำลาย​ใน​ปี ค.ศ. 70 และ​ให้​หลักฐาน​ว่า​มี​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก​อยู่​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ใน​ศตวรรษ​แรก (กจ 6:1) บาง​คน​เชื่อ​ว่า​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​แห่ง​นี้​เป็น​ที่​เดียว​กับ​ที่​เรียก​กัน​ว่า “ที่​ประชุม​ของ​เสรี​ชน” (กจ 6:9) ข้อ​ความ​จารึก​นี้​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​ที​โอ​โดทุส​และ​พ่อ​กับ​ปู่​ของ​เขา​มี​ตำแหน่ง อาร์​ฆี​ซู​นา​โกก​อส (“หัวหน้า​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว”) ซึ่ง​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​พูด​ถึง​หลาย​ครั้ง (มก 5:35; ลก 8:49; กจ 13:15; 18:8, 17) ข้อ​ความ​จารึก​นี้​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​ที​โอ​โดทุส​สร้าง​ที่​พัก​สำหรับ​คน​ที่​เดิน​ทาง​มา​จาก​ต่าง​ประเทศ ซึ่ง​อาจ​เป็น​ชาว​ยิว​ที่​เดิน​ทาง​มา​กรุง​เยรูซาเล็ม โดย​เฉพาะ​คน​ที่​มา​ร่วม​เทศกาล​สำคัญ​ประจำ​ปี—กจ 2:5

ยัฟฟา
ยัฟฟา

วีดีโอ​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ท่า​เรือ​ของ​เมือง​ยัฟฟา​ที่​ตั้ง​อยู่​บน​ชายฝั่ง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน และ​อยู่​ตรง​กลาง​ระหว่าง​ภูเขา​คาร์เมล​กับ​เมือง​กาซา เมือง​ยัฟฟา​ปัจจุบัน​มี​ชื่อ​ว่า​เมือง​ยาโฟ​ที่​รวม​เข้า​เป็น​เมือง​เดียว​กับ​กรุง​เทลอาวีฟ​ใน​ปี ค.ศ.1950 และ​ใน​ทุก​วัน​นี้​เมือง​เทลอาวีฟ-ยาโฟ​ก็​ตั้ง​อยู่​ใน​ที่​ที่​เคย​เป็น​เมือง​เก่า เมือง​ยัฟฟา​ตั้ง​อยู่​บน​เนิน​เขา​หิน​ที่​สูง​ประมาณ 35 เมตร อ่าว​ของ​เมือง​นี้​เป็น​ลาน​หิน​ที่​ลาด​ต่ำ​และ​มี​ระยะ​ประมาณ 100 เมตร​จาก​ฝั่ง ตอน​ที่​มี​การ​สร้าง​วิหาร​ของ​โซโลมอน ชาว​ไทระ​ตัด​ไม้​จาก​ป่า​เลบานอน​และ​มัด​ติด​กัน​เป็น​แพ​แล้ว​ล่อง​ลง​มา​ที่​เมือง​ยัฟฟา (2พศ 2:16) ต่อ​มา​ใน​สมัย​ผู้​พยากรณ์​โยนาห์ เขา​ก็​เคย​หนี​งาน​มอบหมาย​ไป​ที่​เมือง​ยัฟฟา​เพื่อ​จะ​ขึ้น​เรือ​ไป​เมือง​ทาร์ชิช (ยนา 1:3) ใน​ศตวรรษ​แรก มี​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​เมือง​ยัฟฟา และ​โดร์คัส (ทาบิธา) ที่​เปโตร​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ก็​อยู่​ใน​ประชาคม​นั้น​ด้วย (กจ 9:36-42) เปโตร​ก็​เคย​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง​ใน​เมือง​ยัฟฟา​ตอน​ที่​เขา​เห็น​นิมิต​ที่​ให้​ไป​ประกาศ​กับ​โคร์เนลิอัส​ที่​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ—กจ 9:43; 10:6, 9-17

ห้อง​ชั้น​บน
ห้อง​ชั้น​บน

บ้าน​บาง​หลัง​ใน​อิสราเอล​มี​ห้อง​ชั้น​บน คน​ที่​จะ​ขึ้น​ไป​ห้อง​ชั้น​บน​อาจ​ใช้​บันได​พาด​หรือ​บันได​ไม้​ที่​อยู่​ใน​บ้าน หรือ​เขา​อาจ​ใช้​บันได​หิน​หรือ​บันได​พาด​ที่​อยู่​นอก​ตัว​บ้าน ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ขนาด​ใหญ่​ซึ่ง​อาจ​คล้าย​กับ​ใน​รูป​นี้ พระ​เยซู​ได้​ฉลอง​ปัสกา​ครั้ง​สุด​ท้าย​กับ​พวก​สาวก​และ​ตั้ง​การ​ฉลอง​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​พระ​คริสต์ (ลก 22:12, 19, 20) ใน​วัน​เพ็นเทคอสต์​ปี ค.ศ. 33 สาวก​ประมาณ 120 คน​ก็​น่า​จะ​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้น​บน​ของ​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ตอน​ที่​พระเจ้า​เท​พลัง​บริสุทธิ์​ลง​มา​บน​พวก​เขา—กจ 1:15; 2:1-4

เสื้อ​ผ้า
เสื้อ​ผ้า

ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล เสื้อ​ผ้า​ถือ​เป็น​สมบัติ​ส่วน​ตัว​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​อย่าง​หนึ่ง โดร์คัส​ทำ “เสื้อ​ผ้า” มาก​มาย​ให้​พวก​แม่​ม่าย (กจ 9:39) คำ​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสื้อ​ผ้า” (ฆิโทน) หมาย​ถึง​ชุด​ยาว และ​บาง​ครั้ง​ก็​อาจ​แปล​ได้​ว่า “เสื้อ​ตัว​ใน” (หมาย​เลข 1) ตาม​ธรรมเนียม​ของ​กรีก​และ​โรมัน พวก​ผู้​ชาย​มัก​จะ​ใส่​ชุด​ที่​ยาว​ประมาณ​เข่า ส่วน​พวก​ผู้​หญิง​มัก​ใส่​ชุด​ที่​ยาว​ถึง​ข้อ​เท้า ยัง​มี​คำ​กรีก​อีก​คำ​หนึ่ง​ที่​แปล​ว่า “เสื้อ​ผ้า” คือ ฮิมาทิออน คำ​นี้​แปล​ได้​ด้วย​ว่า “เสื้อ​ชั้น​นอก” (หมาย​เลข 2) และ​หมาย​ถึง​เสื้อ​คลุม​ที่​ใส่​ทับ​ชุด​ยาว​หรือ​เสื้อ​ตัว​ใน