ติดคุกเพราะความเชื่อ
วันที่ 10 กันยายน 2019 นายชามิล ฮาคิมอฟ วัย 68 ปีถูกศาลเมืองฮูจันด์ตัดสินจำคุก 7 ปี 6 เดือน ด้วยข้อหาเท็จว่า ‘กระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนา’ * และสั่งไม่ให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอีก 3 ปีหลังจากอยู่ในคุกจนครบกำหนด เขาถูกคุมขังโดยไม่มีการพิจารณาคดีตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งในระหว่างนั้นอัยการและตำรวจกำลังเตรียมสำนวนคดีของเขา
ชามิล ฮาคิมอฟ
นายชามิลเป็นม่ายและเป็นหนึ่งในพยานพระยะโฮวา 24 คนในเมืองฮูจันด์และเมืองใกล้เคียงทางตอนเหนือของทาจิกิสถาน เขาถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานควบคุมองค์กรอาชญากรรม (DOCC) ในช่วงปลายเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในวันที่ 28 มกราคม มีคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาเขา ซึ่งต่อมาได้เปิดเผยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ DOCC ในจังหวัดซุกด์ วันต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เรียกเพื่อนร่วมงานของนายชามิลซึ่งไม่ได้เป็นพยานฯ และเพื่อนร่วมความเชื่อของเขาบางคนไปสอบสวนเกี่ยวกับนายชามิล จากนั้น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายชามิลก็ถูกเรียกตัวไปที่สำนักงานของ DOCC ในเมืองฮูจันด์ หลังจากค้นตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็สอบสวนเขาเรื่องการเข้ามาเป็นพยานพระยะโฮวา และเกี่ยวกับวิธีดำเนินงานของพยานพระยะโฮวา เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายกับเขา
เจ้าหน้าที่ตำรวจกักตัวนายชามิลไว้ 8 ชั่วโมง และไม่ยอมให้เขาได้รับการรักษาแผลหลังผ่าตัดที่ขา ตอนนั้นเขาเป็นความดันสูงด้วย ในที่สุด ตำรวจพาเขากลับบ้าน และยึดคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต คัมภีร์ไบเบิล หนังสือที่เกี่ยวข้องกับศาสนา และหนังสือเดินทางของเขา นายชามิลไม่สามารถเบิกเงินบำนาญเพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลได้อีกต่อไปเพราะหนังสือเดินทางถูกยึด
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ตำรวจจับเขา สำนักงานอัยการจังหวัดซุกด์ฟ้องต่อศาลเมืองฮูจันด์ แล้วสองวันหลังจากนั้นผู้พิพากษาศาลเมืองฮูจันด์ตัดสินให้จำคุกเขาก่อนจะมีการพิจารณาคดี วันที่ 12 มีนาคม คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลจังหวัดซุกด์ตัดสินยืนตามคำสั่งศาลเมืองฮูจันด์ ตั้งแต่นั้นมา ศาลเมืองฮูจันด์ได้ตัดสินให้ยืดเวลาการคุมขังออกไปอีก 3 ครั้งและสั่งให้ขังเขาไว้ในช่วงการพิจารณาคดีด้วย
วันที่ 5 สิงหาคม ศาลเมืองฮูจันด์เริ่มการพิจารณาคดีทางอาญาของนายชามิล โดยมีผู้พิพากษาเอ็น. นาบิโซดาเป็นประธาน ผู้พิพากษาได้เปลี่ยนสถานที่การพิจารณาคดี และมีการฟังการพิจารณาคดีหลายครั้งที่เรือนจำฮูจันด์ซึ่งนายชามิลถูกขัง วันที่ 10 กันยายนเขาถูกตัดสินว่ามีความผิด และวันที่ 9 ตุลาคมเขาแพ้อุทธรณ์ แต่ในจดหมายที่ลงวันที่ 4 กรกฎาคม ที่นายชามิล ฮาคิมอฟได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ YaS 3/5 ซึ่งอาศัยกฎหมายนิรโทษกรรมของทาจิกิสถาน เขาจึงได้รับการลดโทษจำคุกเป็น 2 ปี 3 เดือนกับ 10 วัน เขาจะถูกปล่อยตัววันที่ 16 พฤษภาคม 2024
พยานพระยะโฮวาถูกตัดสินจำคุกเพราะไม่ยอมทำสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกผิดชอบ
รุสตัมยอน โนรอฟ
ในปี 2016 พี่น้องรุสตัมยอน โนรอฟเต็มใจเข้าไปรายงานตัวเรื่องทหาร เขาอธิบายว่าการเป็นทหารเป็นการทำสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกผิดชอบของเขา และเขาขอทำงานบริการสังคมแทน ในปีถัดไป พี่น้องโนรอฟเข้าไปแจ้งความประสงค์ของเขาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เขาใจจุดยืนของเขาและประทับใจเมื่อได้ฟังเขาอธิบาย ตลอด 3 ปีหลังจากนั้นพี่น้องโนรอฟไม่ได้ถูกเรียกให้ไปรายงานตัวอีกเลย
แต่พอถึงวันที่ 24 กันยายน 2020 พี่น้องโนรอฟก็ได้รับหมายเรียก เจ้าหน้าที่ทหารหลายคนถามเขานานประมาณ 3 ชั่วโมง และบอกว่าร่างกายเขาแข็งแรงดีเป็นทหารได้ พ่อของพี่น้องโนรอฟอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย และเขาขอให้เจ้าหน้าที่ทหารส่งเรื่องนี้ให้สำนักงานอัยการพิจารณา
วันที่ 1 ตุลาคม พี่น้องโนรอฟถูกขังคุก 2 วัน ไม่ได้มีการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการกับเขา และเขาไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการก่ออาชญากรรม ระหว่างที่อยู่ในคุก เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พี่น้องโนรอฟติดต่อกับทนาย
วันที่ 3 ตุลาคม พี่น้องโนรอฟถูกส่งตัวไปที่ค่ายทหารเมืองฮูจันด์ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองดูซานเบที่ครอบครัวเขาอยู่ประมาณ 300 กิโลเมตร ตลอด 2 วันหลังจากนั้นเขาถูกส่งตัวไปค่ายทหารหลายแห่งในเมืองฮูจันด์ ในวันที่ 17 ตุลาคม ศาลทหารทาจิกิสถานตั้งข้อหาว่าเขาให้ข้อมูลเท็จเรื่องสุขภาพเพื่อหลบเลี่ยงการเป็นทหาร และศาลสั่งให้คุมขังเขาก่อนพิจารณาคดี และในวันที่ 7 มกราคม 2021 พี่น้องโนรอฟถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่ง
เหตุการณ์ตามลำดับเวลา
7 มกราคม 2021
รุสตัมยอน โนรอฟถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่งในค่ายแรงงานเพราะเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกผิดชอบ
1 พฤศจิกายน 2020
โจวีดอน โบโบโจนอฟได้รับการปล่อยตัวจากการอภัยโทษของประธานาธิบดี เขาถูกปล่อยตัวหลังจากติดคุก 9 เดือน ก่อนหน้านี้เขาถูกตัดสินให้รับโทษ 2 ปีครึ่ง
1 ตุลาคม 2020
รุสตัมยอน โนรอฟถูกจับกุมเพราะไม่ไปเกณฑ์ทหาร ทั้ง ๆ ที่เขาขอทำงานบริการสังคมแทน
4 กรกฎาคม 2020
เจ้าหน้าที่เรื่อนจำ YaS 3/5 แจ้งนายชามิล ฮาคิมอฟว่าเขาได้รับการลดโทษจำคุกเป็น 2 ปี 3 เดือนกับ 10 วันเขาจะถูกปล่อยตัววันที่ 16 พฤษภาคม 2024
2 เมษายน 2020
นายโบโบโจนอฟถูกตัดสินจำคุก 2 ปี
28 มกราคม 2020
นายโบโบโจนอฟถูกฟ้องในข้อหาหนีทหาร
9 ตุลาคม 2019
ศาลอุทธรณ์ยืนยันว่านายชามิลมีความผิดตามคำตัดสินของศาลเมืองฮูจันด์
4 ตุลาคม 2019
โจวีดอน โบโบโจนอฟถูกควบคุมตัวเพราะปฏิเสธการเป็นทหาร
10 กันยายน 2019
ชามิล ฮาคิมอฟ ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี 6 เดือนด้วยข้อหาเท็จว่า ‘กระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนา’
5 สิงหาคม 2019
การพิจารณาคดีของชามิลเริ่มขึ้นที่ศาลเมืองฮูจันด์ เขายังถูกจำคุกต่อไปขณะที่มีการพิจารณาคดี
25 มิถุนายน 2019
ศาลเมืองฮูจันด์ยืดเวลาการคุมขังชามิลจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2019
31 พฤษภาคม 2019
ศาลจังหวัดซุกด์พิพากษายืนคำตัดสินที่ให้ยืดเวลาการคุมขังชามิลออกไป
24 พฤษภาคม 2019
ศาลเมืองฮูจันด์ยืดเวลาการคุมขังชามิลจนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2019
29 เมษายน 2019
ศาลจังหวัดซุกด์พิพากษายืนคำตัดสินที่ให้ยืดเวลาการคุมขังชามิลออกไป
23 เมษายน 2019
ศาลเมืองฮูจันด์ยืดเวลาการคุมขังชามิลจนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2019
12 มีนาคม 2019
ศาลจังหวัดซุกด์ตัดสินให้ชามิลจำคุก 2 เดือนโดยไม่มีการพิจารณาคดีตามคำตัดสินของศาลเมืองฮูจันด์
28 กุมภาพันธ์ 2019
ศาลเมืองฮูจันด์ตัดสินให้ชามิลจำคุก 2 เดือนโดยไม่มีการพิจารณาคดี
26 กุมภาพันธ์ 2019
ชามิลถูกจับด้วยข้อหาเท็จที่ว่า ‘กระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนา’
1 กุมภาพันธ์ 2019
ชามิล ฮาคิมอฟถูกเรียกตัวไปสถานีตำรวจเพื่อค้นตัวและสอบสวน หลังจากกักตัวเขาไว้ 8 ชั่วโมง ตำรวจก็พาเขากลับบ้าน และยึดของส่วนตัวและหนังสือเดินทางของเขา
ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019
เจ้าหน้าที่ของ DOCC เมืองฮูจันด์บุกค้นบ้าน 7 หลังและสอบสวนพยานฯ 24 คน บางคนถูกสอบสวนนานถึง 14 ชั่วโมง
^ วรรค 2 กฎหมายอาญามาตรา 189 (2) ของสาธารณรัฐทาจิกิสถาน